ศรีสุวรรณสวน ส.ป.ก. เป็นไปไม่ได้คืนที่ดินแล้วจบ วีระย้ำ ยังเหลือคดีรุกป่าสงวนฯ

23 ม.ค. 2563 ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย ส.ป.ก. ได้ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎรว่า การถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ที่ไม่เป็นไปตามกฎหมาย หากส่งคืนกลับให้ ส.ป.ก. ก็ถือว่าตรงตามเจตนารมณ์แล้ว เพื่อให้ ส.ป.ก. จัดสรรที่ดินให้กับเกษตรกรต่อไป โดยไม่มีบทลงโทษตามกฎหมาย ส.ป.ก. นั้น

ศรีสุวรรณระบุว่า คำชี้แจงดังกล่าวเป็นการย้อนแย้งต่อ มาตรา 24 ของ พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 2518 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ส.ป.ก. ทั้งหมดเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ดังนั้น เมื่อ ส.ป.ก.พิสูจน์แล้วว่าผู้ที่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ไม่เป็นไปตามกฎหมายตาม มาตรา26(4) เนื่องจากมีที่ดินบางส่วนเป็นป่าสงวนแห่งชาติที่ ส.ป.ก. ได้รับมอบมาจากกรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จึงเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยป่าสงวนแห่งชาติด้วย โดยเฉพาะที่ดินของ ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยอมรับเองว่า “ได้ที่ดินดังกล่าวมานานแล้ว เป็นที่ดินที่รัฐ โดยกรมป่าไม้อนุญาตให้เข้าไปทำกินได้ ทำกินมานานแล้ว และได้เสียภาษีดอกหญ้ามานานกว่า 10 ปี และเสียทุกครั้งที่เขาเรียกเก็บ” ซึ่งการครอบครองที่ดินมือเปล่า ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ รองรับ จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54 (30) ห้ามมิให้ผู้ใดก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น และมาตรา 55 ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น สอดคล้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15189/2558

ศรีสุวรรณกล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ปารีณา ยังขาดคุณสมบัติในการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. มาตั้งแต่ต้นเนื่องจากมิได้เป็นเกษตรกร ไม่ได้จบการศึกษาด้านเกษตรกรรม และไม่เป็นผู้ยากจนที่มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปีตามกฎหมายของ ส.ป.ก. ดังนั้นแม้ ปารีณา จะยินยอมคืนที่ดินทั้งหมดให้ ส.ป.ก. เพื่อจัดสรรให้เกษตรกรที่แท้จริงตามกฎหมายแล้ว ก็ยังอาจถือได้ว่าได้เคยกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายป่าสงวนแห่งชาติ 2507 และกฎหมายป่าไม้ 2484 ประกอบกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม 2518 ซึ่งถือว่า “เป็นความผิดที่สำเร็จแล้ว” พนักงานเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องดำเนินการเอาผิด ปารีณาตามกฎหมายข้างต้น แต่หากยังพยายามที่จะช่วยเหลือกันและกัน ก็อาจเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ได้ ซึ่งเรื่องนี้สมาคมฯจะนำความขึ้นฟ้องต่อศาลเพื่อพิสูจน์ความจริงกันต่อไป

ที่มาภาพ Banrasdr Photo (แฟ้มภาพ)

เช่นเดียวกับ วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ซึ่งได้แสดงความเห็นต่อกรณีนี้ในเฟสบุ๊คว่า กรณีปารีณาไม่ผิดตามที่ ส.ป.ก. บอก ถูกต้องบางส่วนคือ พื้นที่ตรงนั้น ส.ป.ก. ราชบุรียังไม่ได้เข้าไปทำการรังวัดเข้าระบบ เพื่อจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ที่มีคุณสมบัติเข้าทำประโยชน์ตามเจตนารมณ์ของ ส.ป.ก. เมื่อ ส.ป.ก. ราชบุรียังไม่ได้ดำเนินให้ถูกต้องตามระบบและขั้นตอนที่ถูกต้อง เนื่องจากปารีณาเข้าไปบุกรุก ยึดถือ และครอบครองที่ดินดังกล่าวมาตั้งแต่ยังเป็นพื้นที่ป่าไม้ และบางส่วนเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี แต่เมื่อกรมป่าไม้ส่งมอบที่ดินดังกล่าวให้แก่ ส.ป.ก. แล้ว ส.ป.ก. ต้องดูแลที่ดินดังกล่าว เมื่อปารีณาเข้าไปบุกรุก ยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์ก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ มีการขุดที่ดินภายในเขต ส.ป.ก. เพื่อทำบ่อเก็บกักน้ำ มีการตัดต้นไม้หวงห้าม มีการไถที่ดินเพื่อปรับสภาพก่อนทำการก่อสร้างโรงเลี้ยงไก่ ความเสียหายต่างๆเหล่านี้ที่เกิดขึ้น ส.ป.ก. ต้องฟ้องเรียกค่าเสียหายจากปารีณา ไม่ใช่ปล่อยให้ลอยนวล มิฉะนั้น ส.ป.ก. ก็จะมีความผิดตามป.อาญา มาตรา 157 ฐานละเว้น

วีระบุด้วยว่า ที่สำคัญ ปารีณายังมีความผิดอาญาแผ่นดิน ฐานบุกรุก ครอบครอง ที่ป่าไม้และที่ป่าสงวนแห่งชาติฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี ตามที่นายวีระ สมความคิด และกรมป่าไม้แจ้งความดำเนินคดีเอาไว้ ขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของ บก.ปทส.

“อย่าเข้าใจว่าปารีณาบริสุทธิ์ ขอยืนยันว่าเธอไม่บริสุทธิ์อย่างแน่นอน ขอให้อดใจรออีกไม่นาน ก็จะรู้ว่าปารีณาต้องติดคุกกี่ปี” วีระกล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท