Skip to main content
sharethis

รองโฆษกอัยการชี้เหตุสั่งไม่ฟ้อง 'ชัยวัฒน์-ลูกน้อง' ระบุในสำนวนไม่พบพยานหลักฐาน ว่า 'บิลลี่' ตายแล้ว-ถูกฆ่าที่ไหนอย่างไร ระบุ 27 ม.ค. 2563 นี้จะแถลงข่าวแจงทุกข้อสงสัย ส่วนฟ้องข้อหาเดียว ม.157 ระบุยังต้องรอ DSI เห็นแย้ง-ทนายความผู้เสียหายระบุอาจต้องฟ้องเอง

25 ม.ค. 2563 เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่านายประยุทธ เพชรคุณ อัยการพิเศษสำนักงานคดีอาญา 3 ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการสั่งคดี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อายุ 56 ปี ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด (ผอ.ทสจ.) ปัตตานี อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ระหว่างปี 2551-2557 กับลูกน้อง 3 คน ตกเป็นผู้ต้องหาคดีเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้าย และร่วมกันฆ่าอำพรางศพ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ อายุ 31 ปี นักเคลื่อนไหวชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2557 ว่าจากที่ได้ ประสานไปยัง นายฐาปนา ใจกลม อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ตรวจสอบข้อมูลการสั่งคดีทราบว่า อัยการที่รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ ในรูปแบบคณะทำงานของอัยการ ได้พิจารณาพยานหลักฐานจากสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้วในสำนวนยังไม่ปรากฏพยานหลักฐาน ใดๆ ว่านายชัยวัฒน์ กับลูกน้องได้ฆ่านายบิลลี่ ที่ไหน โดยวิธีการอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ ด้วยเช่นกันว่านายบิลลี่ได้เสียชีวิตแล้ว 

อัยการสั่งไม่ฟ้อง 'ชัยวัฒน์กับพวก' คดีหน่วงเหนี่ยวกักขัง-ฆ่า 'บิลลี่' เหลือสั่งฟ้องปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ
'ผู้นำกะเหรี่ยง' ร้อง รบ.คุ้มครองสิทธิชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมในผืนป่าแก่งกระจาน ก่อนขึ้นทะเบียนมรดกโลก

ซึ่งระหว่างที่อ้างว่านายบิลลี่ ถูกกลุ่มของนายชัยวัฒน์ควบคุมตัวนั้นฝ่ายภรรยาของนายบิลลี่ก็ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดเพชรบุรี ขอให้ศาลมีคำสั่งให้นายชัยวัฒน์ปล่อยตัวนายบิลลี่ที่อ้างว่าถูกจับกุมเรื่องเก็บน้ำผึ้งป่า โดยการยื่นคำร้องครั้งนั้นผลเป็นที่สุดตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้วที่ให้ยกคำร้องเนื่องจากมีพยานเห็นว่านายบิลลี่ได้ออกมาแล้ว สำหรับพยานหลักฐานที่อ้างเป็นกระดูกของนายบิลลี่ ซึ่งมีการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว DNA ตรงกันกับนายบิลลี่นั้น ก็เป็นการตรวจสารพันธุกรรมพิสูจน์บุคคล แต่เมื่อในสำนวนยังไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ ที่เพียงพอว่านายบิลลี่ เสียชีวิตแล้วหรือไม่ อย่างไร คณะทำงานอัยการจึงมีคำสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์และลูกน้องในข้อหาร่วมกันฆ่าฯ โดยมีความเห็นสั่งฟ้องเพียงข้อหาเดียวฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จากกรณีที่นายชัยวัฒน์เมื่อจับกุมนายบิลลี่ที่อ้างว่าเก็บน้ำผึ้งป่าแล้วไม่ดำเนินคดี โดยในส่วนของกลุ่มลูกน้องนายชัยวัฒน์ก็ให้สั่งฟ้องในข้อหา เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ซึ่งข้อหานี้กฎหมายกำหนดอัตราโทษไว้จำคุกตั้งแต่ 1- 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายประยุทธ กล่าวอีกว่า สำหรับ ขั้นตอนจากนี้ อัยการก็ได้ส่งสำนวนกลับไปให้ดีเอสไอ พร้อมแจ้งความเห็นสั่งฟ้องและสั่งไม่ฟ้อง เพื่อให้อธิบดีดีเอสไอ พิจารณาว่าจะเห็นแย้งความเห็นของคณะทำงานอัยการนี้หรือไม่ อย่างไร ซึ่งหากดีเอสไอยืนยันให้ฟ้องทุกข้อหาตามที่แจ้งในสำนวน ก็ต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ดีสำหรับคดีนี้ในรายละเอียด ตนได้เตรียมแถลงข่าวในวันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ ณ อาคารสำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก ในเวลา 10.00 น.

ทนายความผู้เสียหายระบุอาจต้องฟ้องเอง

เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2563 ว่านายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ในฐานะทนายความของ น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ กล่าวถึงกรณีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ มีคำสั่งไม่ฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ในข้อหาฆาตกรรมและกักขังหน่วงเหนี่ยวนายพอละจี รักจงเจริญ หรือ 'บิลลี่' ว่าแม้อัยการจะสั่งไม่ฟ้องคดีในหลายข้อหาแต่ก็ยังมีข้อหาอื่นๆ อีก ซึ่งต้องให้ดีเอสไอทำตามอำนาจหน้าที่ โดยเชื่อว่าคดีนี้ ดีเอสไอต้องทำความเห็นแย้งไปยังอัยการสูงสุด หลังจากนั้นต้องรอดูว่าอัยการสูงสุดจะมีความเห็นอย่างไร จะสั่งฟ้องหรือไม่ เพราะคดีฆาตกรรมบิลลี่ ไม่ได้ผูกโยงกับเฉพาะกระบวนการยุติธรรมไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นที่จับตาของสากลโลกด้วย ซึ่งตนเชื่อว่าอัยการสูงสุดจะให้ความเป็นธรรมในคดีนี้ และคงต้องเรียกสำนวนทั้งหมดมาพิจารณาตามข้อเท็จจริงว่า บิลลี่หายตัวไปอย่างไร มีการควบคุมตัวโดยไม่ปล่อยหรือไม่ และขณะนั้นบิลลี่อยู่ในความควบคุมของใคร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอัยการสูงสุดคงไม่ปล่อยให้คดีบิลลี่หายไปอย่างไม่มีเหตุผล

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่าส่วนการฟ้องร้องนายชัยวัฒน์กับพวกนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะให้ผู้เสียหาย คือ น.ส.พิณนภา ภรรยาของบิลลี่ยื่นฟ้องเพื่อดำเนินคดีอาญาเองหรือไม่ แต่ในส่วนของตนได้มีการเตรียมเอกสารหลักฐานและข้อมูลไว้บ้างแล้ว ระหว่างนี้ยังมั่นใจว่า ดีเอสไอต้องทำความเห็นแย้งและยืนยันความเห็นสั่งฟ้องไปทุกข้อหาความผิดไปยังอัยการสูงสุด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net