Skip to main content
sharethis

เสวนางาน Future Fest 'ยุทธเลิศ สิปปภาค' ผกก.หนังชื่อดัง ระบุ "เราจำเป็นต้องยืนอยู่ในข้างที่ถูกต้อง เชื่อว่าการยืนอยู่ในข้างที่ถูกต้องมันกินได้"

25 ม.ค. 2563 มติชนออนไลน์ รานงานว่าเมื่อเวลา 17.00 น. พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) จัดงาน Future Fest ที่ The Link อโศก-มักกะสัน​ โดยภายในงานมีอาหาร เครื่องดื่ม ดนตรี และศิลปะ ประกอบไปด้วย 4 โซนหลักๆ โซนแรกเป็น จุกๆ Exhibition นิทรรศการ​จากศิลปิน​กลุ่มจุกๆ ถัดมาเป็นตลาดของผู้ไม่ยอมจำนน ตั้งอยู่ใจกลางของงาน มีร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มมากมายจากทั่วทุกสารทิศ​ โดยโซนขายของกินนี้สนับสนุนแนวคิด zero waste ที่จะรณรงค์​ให้ผู้เข้าร่วมงานนำแก้วมาเองเพื่อลดการใช้พลาสติก​ ส่วนโซนถัดมาเป็นเวที main stage สำหรับศิลปินและวงเสวนาในช่วงคั่นวงดนตรี สำหรับโซนสุดท้ายอยู่ตรงด้านหลังของงาน เป็นโซนสุราก้าวหน้า โดยมี mini stage อยู่ด้วยกัน สำหรับ mini stage นั้นเป็นการแสดงดนตรีแบบ silent disco ที่จะต้องใส่ headphones ในการรับฟังเสียงจากบนเวที ถือเป็นมิติใหม่ในการฟังคอนเสิร์ต​ของประเทศไทย

สำหรับเวทีเสวนาวันนี้มี 2 ช่วง ในช่วงแรกเวลา 16.30 น. เสวนาหัวข้อเรื่อง 'การส่งออกวัฒนธรรม​แบบไทยๆ' โดยมี ต้อม-ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนต์ และโปรดิวเซอร์ชื่อดัง 'น้าตั๋ว' นครินทร์​ กาขันธ์​ นักวิจารณ์​หนัง แอดมินเพจตั๋วร้อน ป็อปคอร์นชีส ร่วมเสวนา และได้ 'กอล์ฟ' ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์​ และ น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา​ ส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ เป็นพิธีกร

ยุทธ​เลิศกล่าวว่า การทำหนังดีๆ สักหนึ่งเรื่องนั้น หากไม่แข็งจริงอยู่ไม่ได้ เพราะหากแสดงจุดยืนทางการเมืองเมื่อไร ก็จะถูกเล่นงานอย่างที่ปรากฏ​เป็นข่าวในช่วงที่ผ่านมา แต่หากถ้าถามตนว่าแข็งไหม ตนไม่ได้แข็ง ไม่ได้มีแบค ก็กลัวตายเหมือนกัน แต่มันจำเป็นต้องฝืน เพราะเราจำเป็นต้องอยู่ในฝั่งที่ถูกต้อง แม้จะโดนโจมตีต่างๆ นานา ถ้าไม่ทำแล้วใครจะทำ ถ้าไม่ทำวันนี้แล้วจะทำเมื่อไร

"การเมืองไม่ใช่ซ้ายกับขวา ผมไม่ได้คลั่งสีเหลือง ไม่ได้คลั่งสีส้ม ไม่ได้คลั่งสีแดง แต่เราจำเป็นต้องยืนอยู่ในข้างที่ถูกต้อง และผมเชื่อว่าการยืนอยู่ในข้างที่ถูกต้องมันกินได้" ยุทธเลิศกล่าว

ในส่วนเวทีที่ 2 เวลา 17.30 น. เสวนาในหัวข้อ 'The Final countdown'​ วิกฤตสิ่งแวดล้อมแห่งศตวรรษ​ที่ 21 โดยมี ผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์, เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง และอรจิรา แก้วสว่าง ร่วมเสวนา ดำเนินรายการโดย นายพิธา ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ และนายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โดย ผศ.ดร.ธนพล กล่าวในระหว่างเสวนาว่า ด้วยเทคโนโลยีที่มีอยู่ตอนนี้ เราสามารถพยากรณ์​ได้ว่าในวันพรุ่งนี้หรือในสัปดาห์​หน้าค่าฝุ่น PM 2.5 จะเคลื่อนไปในทิศทางใด และจะมีค่าเท่าไร หากรัฐบาลบริหารงานแบบบูรณาการ​ นำกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาทำงานร่วมกัน หากสามารถพยากรณ์​ได้แล้ว ประชาชนก็จะรู้ว่าควรจะระมัดระวัง​ตนอย่างไร และรัฐบาลเองก็จะมีมาตรการ​รองรับและแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

น.ส.ประกายรัตน์ ทองกูล พนักงานบริษัท​เอกชน ผู้เข้าร่วมงานในวันนี้ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ทำนั้น แสดงให้เห็น​ถึงเสียงของคนรุ่นใหม่ เสียงของคนที่อยากจะพูด แต่ถูกปิดปากไม่ให้พูดมาเป็นเวลานาน หรือถูกทำให้กลัวจนไม่กล้าพูดความจริงออกมา แต่พรรคอนาคตใหม่ทำให้เรากล้าที่จะพูด กล้าที่จะออกความเห็นมากขึ้น และรู้สึกดีใจที่พรรคไม่ถูกยุบ จากกรณีที่พรรคถูกฟ้องคดีอิลูมินาติ ซึ่งตนจะเป็นกำลังใจให้พรรคต่อไป

'ปิยบุตร' ปลุกประชาชนลุกขึ้นท้าทายอำนาจ ระบุ 'อาจารย์บางคน' รู้ถูกผิด แต่ยอมรับใช้เผด็จการ

มติชนออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่าเมื่อ เวลา 20.00 น.  ในช่วง Leader Talk ในหัวข้อ “อำนาจและการเชื่อฟัง” นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า หัวข้อในวันนี้จะเกี่ยวกับกลไกการทำงานของอำนาจและการเชื่อฟังอำนาจ อำนาจคือคนๆ หนึ่ง สั่งคนๆ หนึ่งแล้วคนนั้นทำตาม อำนาจจะเกิดขึ้นได้ต้องมีการเชื่อฟัง ปัจจุบันอำนาจต้องตั้งอยู่บนกฎหมาย และกฎหมายที่ถูกตั้งขึ้นก็เริ่มมีการจำกัดเสรีภาพมุษย์ แต่เราเลือกที่ตั้งกฎหมาย เพื่อประกันตัวเราเองว่าการใช้เสรีภาพของคนในสังคมจะไม่เกิดผลกระทบระหว่างกัน

นายปิยบุตรกล่าวว่า กฎหมายจะกลายเป็นความชอบธรรมได้ต้องอาศัยอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง และอำนาจเหล่านั้นจะสร้างความชอบธรรมได้อย่างยั่งยืนคือคนที่อยู่ใต้กฎหมายทุกคนยอมรับและเชื่อฟัง โดยกฎหมายจะมีความชอบธรรมได้ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และต้องมีความยืดหยุ่นที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง และปรับตัวได้ตามช่วงเวลา เช่นเดียวกันระบอบเผด็จการจะเดินหน้าทำงานได้ ก็ต้องมีกลไกรัฐเข้าไปช่วย เช่น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งตัวเองเป็นใหญ่ ประกาศคำสั่ง คสช. ห้ามประชาชนชุมนุม เมื่อมีคนชุมนุม ก็จะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐคนนั้นอาจจะเป็นคนที่เรารู้จัก และเวลาปกติก็เห็นด้วยกับแนวคิดของเรา แต่พอสวมเครื่องแบบ ก็ต้องทำหน้าที่ตามที่รัฐสั่ง

“เราเคยลองสังเกตหรือไม่ว่า อาจารย์บางคนเวลาสอนหนังสือ สอนนักศึกษาว่าประชาธิปไตยต้องเป็นแบบนั้น กฎหมายต้องเป็นแบบนี้ แต่ถึงเวลาพอทหารยึดอำนาจ ก็ไปเป็นรองนายกรัฐมนตรี ในสังคมเรามีคนจำนวนมากที่รู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดแต่ยอมเข้าไปรับใช้ระบอบเผด็จการ แน่นอนอาจจะบอกว่าต้องกินต้องใช้ มีลูก มีครอบครัว อยากมีบ้านมีรถ คนเราอยากจะมีอำนาจวาสนา อยากจะมียศฐาบรรดาศักดิ์ แต่เราต้องรณรงค์ทางความคิดว่า อย่าคิดว่าการเรียนจบคณะนิติศาสตร์มาแล้วไปรับใช้เผด็จการแล้วมันเท่ เพราะการเป็นรองนายกรัฐมนตรีจากการยึดอำนาจ ไม่เท่เท่าการเป็นรองนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้ง” นายปิยุบตรกล่าว

นายปิยบุตรกล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันนี้ประเทศไทยเป็นสังคมอำนาจนิยม แต่อำนาจนิยมจะหมดไปได้ต้องเริ่มจากการไม่เชื่อฟังอำนาจ เราลองเริ่มต้นทดลองไม่เชื่อฟัง และท้าทายอำนาจ ออกแบบความคิดที่สร้างสรรค์กว่าที่เป็นอยู่ โดยเริ่มทดลองและตั้งคำถาม ก็จะเป็นเสรีภาพที่ไม่เชื่อฟังอำนาจ ถือเป็นเสรีภาพที่สมบูรณ์ที่สุด แม้ว่าอาจจะเดือดร้อน แต่การไม่เชื่อฟังเช่นนี้ จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง แม้เสี่ยงตาย แต่จะนำไปสู่การปลดปล่อย และเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ขอให้ไปทดลองและทดสอบดู โดยเฉพาะการตั้งคำถามเกี่ยวกับการใช้อำนาจ และคิดท้าทาย หาทางออกร่วมกัน เพื่อให้ประเทศไปสู่สังคมที่ดีกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งาน Future Fest ในปีนี้จัดด้วยกัน 2 วัน คือวันที่ 25 และ 26 ม.ค. 2563 สำหรับงานในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) พบกับศิลปินมากมาย อาทิ hugo, bomb at track, scrubb และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จะขึ้นเวทีในช่วง Leader talk

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net