'จาตุรนต์' แนะทางออกรัฐบาลแก้วิกฤต 'ไวรัสโคโรนา'

'จาตุรนต์ ฉายแสง' ยกประสบการณ์ตอนเป็นประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคไข้หวัดนก (สมัยรัฐบาลทักษิณ) แนะประสานให้หลายหน่วยงานมาพูดคุยเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน-อย่าปิดบังข้อเท็จจริง ควรให้ข้อมูลต่อประชาชนอย่างตรงไปตรงมา


จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคไข้หวัดนก (แฟ้มภาพ)

26 ม.ค. 2563 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โรคไข้หวัดนก (สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร) โพสต์ข้อความผ่านทางเพจ Chaturon Chaisang ระบุถึงสถานการณ์ไวรัสโคโรนาและเสนอแนะแนวทางการแก้ปัญหา รวมถึงระบุถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า

เมื่อดูจากระดับความรุนแรงของปัญหาไวรัสโคโรนาและการที่ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามามากและก่อนหน้านี้ก็เป็นจุดหมายปลายทางของชาวจีนจากอู่ฮั่นเป็นอันดับต้นๆด้วย รวมทั้งประเทศไทยมีผู้ป่วยมากเป็นอันต้นๆนอกประเทศจีน สิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ในการรับมือกับไวรัสโคโรน่ายังไม่พอและไม่อาจไว้วางใจได้เลย

สิ่งที่รัฐบาลควรทำโดยด่วนคือจัดให้มีการประสานร่วมมือกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงรวมทั้งผู้เชี่ยวชาญทั้งของไทยเองและของต่างประเทศเช่นผู้แทน WHO ต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง กำหนดมาตรการอย่างเป็นระบบและเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและดักปัญหาล่วงหน้า

แต่ความจริงประเทศไทยเคยทำ (contingency plan) หรืแผนฉุกเฉินรับการแพร่ระบาดแบบนี้ไว้ ผู้รู้และเชี่ยวชาญในการวางแผนวางระบบก็มี มีการกำหนดไว้อยู่แล้วว่าหน่วยงานไหนจะต้องทำอะไรตระเตรียมอะไร หากเชิญผู้เกี่ยวข้องมาคุยกันก็สามารถใช้เป็นตัวตั้งต้นได้เลย

จากประสบการณ์ในอดีต อาจจะตั้งคำถามเบื้องต้นว่าขณะนี้เตรียมห้องและอุปกรณ์รองรับคนไข้ที่สงสัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาทั่วประเทศไว้แล้วมากน้อยเพียงใด โรงพยาบาลต่างๆหรือหมอตามคลีนิคมีข้อมูลแล้วหรือยัง หลักเกณฑ์ในการปฏิบัติกำหนดแล้วและแจ้งผู้เกี่ยวข้องแล้วหรือยัง

เหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยกำหนดและวางแผนรัฐบาลควรสร้างทีมที่มีหน้าที่ชี้แจงให้ข้อมูล มีศูนย์ข้อมูล ทำการชี้แจงอย่างเป็นระบบ มิฉะนั้นประชาชนหรือแม้แต่ผู้เกี่ยวข้องจะสับสนและไม่รู้ว่าควรเตรียมตัวอย่างไร ควรระวังอะไรหรือจะออกกฎกติกาอย่างไร

เฉพาะเรื่องหน้ากากอนามัยอย่างเดียวก็แสดงถึงความไร้สมรรถภาพของรัฐบาลในการรับมือทั้งฝุ่น PM 2.5 และไวรัสโคน่าแล้ว หน้ากากที่บางหน่วยงานแจกกันอยู่หรือที่ขายกันอยู่ใช้ได้ผลจริงหรือเปล่า เวลานี้ต้องใช้มากเพราะฝุ่นอยู่แล้ว

รัฐบาลไม่ช่วยหา จะมีได้ยังไง ถ้าต้องใช้รับมือไวรัสอีกล่ะ จะไปหาจากไหน การแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และไวรัสโคโรนา ที่รัฐบาลประยุทธ์ทำอยู่ ไม่ใช่การบริหารภายใต้วิกฤตความไร้สมรรถภาพของรัฐบาลนี้และพลเอกประยุทธ์กำลังเป็นวิกฤตเสียเอง

นายจาตุรนต์ ยังได้มีข้อเสนอแนะ ไปถึงรัฐบาลอีกว่า สำหรับไทยการดูแลเรื่องนี้ต้องอาศัยหลายหน่วยงาน เพราะเรามีความเกี่ยวข้องกับนักเดินทางจากจีนจำนวนมาก โดยกระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลัก และร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการประสานให้หลายหน่วยงานมาพูดคุยกันจึงมีความจำเป็นเร่งด่วน

ทั้งนี้ จากประสบการณ์ในอดีตการเจอปัญหาแบบนนี้อย่าไปใช้วิธีปิดบังข้อเท็จจริง ให้ข้อมูลต่อสังคมและประชาชนอย่างตรงไปตรงมา รวดเร็วทันการ ต้องให้ประชาชนรู้ว่าเรื่องไปถึงไหนแล้วต้องวางตัว เตรียมตัวและป้องกันอย่างไร อย่างเรื่องที่เกิดที่จีน มีการปิดเมืองอู่ฮั่นและเมืองข้างเคียง งดใช้ขนส่งสาธารณะ

ขณะที่เวลานี้กรุงเทพฯ กำลังบอกว่าให้ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวซึ่งหมายถึงต้องใช้รถสาธารณะ หากสถานการณ์ดำเนินไปถึงที่จะต้องระวังการใช้ขนส่งสาธารณะ เรื่องแบบนี้ไม่ได้พูดให้ตื่นตะหนก แต่การรับมือเรื่องแบบนี้ต้องคิดถึงกรณีที่เหตุการณ์เลวร้ายมาก เรื่องแบบนี้ต้องคิดอยู่ตลอดเวลา การคิดและการวางแผนที่ดีจะทำให้ทุกฝ่ายไม่ตื่นตะหนก และมีความมั่นใจเชื่อมั่นว่าเรื่องต่างๆ จะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมถูกต้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท