Skip to main content
sharethis

นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ โชว์ฝีมือนักการเมืองสืบสวนสอบสวน แฉ 2 ส.ส.ภูมิใจไทย ไม่อยู่ในห้องประชุมสภา วันพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ แต่กลับมีชื่อแสดงตนโหวตผ่าน โดยมีหลักฐานมัดแน่น ทั้งบันทึกเดินทางผ่าน ตม. ภาพเฟซบุ๊กงานวันเด็กพัทลุง และภาพทัวร์จีน

ชัดเจนว่ามี ส.ส.เสียบบัตรแทน แม้ยังไม่รู้เป็นใคร แต่ก็เกรงกันว่าจะทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณเป็นโมฆะ เพราะเมื่อปี 57 ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านตกไป (ไม่ทำถนนลูกรังให้หมดก่อน) นอกจากประเด็นเนื้อหา ที่ศาลเห็นว่ากู้ไม่ได้ ต้องใช้กฎหมายงบประมาณเท่านั้น มติ 6-2 ยังชี้ว่าการที่ นริศร ทองธิราช ส.ส.เพื่อไทย เสียบบัตรแทนคนอื่น มีผลทำให้การลงคะแนนของสภาไม่สุจริต เป็นมติที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

ส.ส.ทั้งรัฐบาลฝ่ายค้านจึงต้องเข้าชื่อกัน ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ต้องชะลอการนำร่าง พ.ร.บ.ขึ้นทูลเกล้าฯ แม้ศาลคงวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด

วิษณุ เครืองาม อ้างว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณล่าช้า ไม่ทำให้วิบัติ และการเสียบบัตรแทนกันในอดีตไม่สามารถยกมาเป็นบรรทัดฐานได้

ก็ใช่นะ คงช้าไปไม่กี่วัน ต่อให้ศาลวินิจฉัยเป็นโมฆะ รัฐบาลก็ออก พ.ร.ก.ได้ เรื่องงบน่ะได้ใช้แน่ ไม่ต้องห่วง แต่เรื่องกฎหมายเรื่องการเมือง จะบอกว่า “ไม่ทำให้วิบัติ” ก็คงไม่ใช่

อย่างน้อย คำพูดวิษณุ ที่ ส.ส.อนาคตใหม่เย้ยว่า “หลักวิษณุ” ก็วิบัติอยู่ในตัว พูดได้อย่างไรว่าเสียบบัตรแทนกันไม่สามารถยกมาเป็นบรรทัดฐานกับคดีปัจจุบัน ในเมื่อคำวินิจฉัยศาลคาอยู่โต้งๆ

ในทางกฎหมาย ก็มีหลายคนไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยในครั้งนั้น เพราะการที่ ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน (ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเสียบแทนใครบ้าง) ต่อให้สงสัยว่า 4-5 คน ก็ไม่น่าจะทำให้การลงคะแนนของทั้งสภาเสียไป

แต่ทำไงได้ เมื่อเป็นคำวินิจฉัยไปแล้ว ก็ต้องถือเป็นบรรทัดฐาน วิษณุไม่ควรพูดให้ไขว้เขวว่า เสียบบัตรแทนกันยุคปูเป็นบรรทัดฐานหนึ่ง เสียบบัตรยุคลุงใช้อีกบรรทัดฐานหนึ่ง แล้วยังว่าไม่ได้ชี้นำ

อันที่จริง คดีนี้อาจพลิกได้ เพราะตุลาการ 6 คนที่เป็นเสียงข้างมากครั้งนั้น ยังอยู่ในตำแหน่งเพียง 4 คน เสียงข้างน้อย 2 คนยังอยู่ 1 คน ถ้าอีก 4 คนหันมาเห็นด้วยกับเสียงข้างน้อย ก็มีโอกาสที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณจะไม่โมฆะ เพียงแต่ชาวบ้านก็จะงงๆ ว่า 6 ปีผ่านไป ทำไมศาลเดียวกันวินิจฉัยกฎหมายไม่เหมือนกัน

ในทางการเมือง เรื่องนี้ก็วิบัติแน่ๆ เพราะทำให้พรรครัฐบาลเสียความเชื่อถือ กระทั่งทีวีขุดภาพ “โป๊ะแตก” สงสัยว่า ส.ส.พลังประชารัฐเสียบบัตรแทนกันหรือเปล่า แม้พยายามชี้แจงว่า เป็นการฝากเสียบแทนเพราะเครื่องไม่พอ เจ้าของบัตรก็อยู่ตรงนั้นแต่ก้มไม่ถึง ฯลฯ นักข่าวก็ยังข้องใจ ซักไซ้ไม่หยุด จนอ้ำอึ้งคาโพเดียม

มิพักต้องพูดถึง 2 ส.ส.ภูมิใจไทย ซึ่งรายหนึ่งอ้างว่าเสียบคาไว้ รีบไปรับศพญาติ ไม่รู้ไม่เห็นว่าใครเสียบบัตรแทน ไม่ได้ฝาก ไม่ได้มอบอำนาจ (ภาษาวิษณุ) แต่ความรับผิดชอบอยู่ที่ไหน เพราะแทนที่จะรีบไปรีบมา กลับโผล่หน้าเฟซในงานวันเด็ก ทั้งที่ไม่ใช่ ส.ส.เด็กๆ เป็นถึงอดีตปลัดจังหวัด

อีกรายทิ้งหน้าที่โหวตไปจีน ทั้งที่เป็นแกนนำพรรค แล้วทั้งพรรคและรัฐบาลก็ใบ้กิน วงในน่าจะยัวะจนตัวสั่นแต่พูดไม่ออก

นริศร ทองธิราช ทั้งถูก สนช.ถอดถอน ถูกอัยการฟ้องอาญา โทษสูงสุดจำคุก 10 ปี แต่ครั้งนี้จะจับไม่ได้ว่าใครเสียบบัตรแทน 2 ส.ส.ก็ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ผิดอะไร เผลอทิ้งบัตรไว้โดยสุจริต?

นี่เป็นปัญหาของรัฐบาลเองล้วนๆ ไม่สามารถโทษใคร โทษนิพิฏฐ์ก็ไม่ได้ ว่าเล่นเกมการเมืองทำลายคู่แข่งโดยไม่คำนึงถึงเสถียรภาพรัฐบาล ปัดโธ่ ก็นิพิฏฐ์นอนอยู่บ้านดีๆ ในฐานะประชาชนชาวพัทลุงเขต 2 เห็นเฟซบุ๊กเทศบาลโพสต์ภาพท่าน ส.ส.มางานวันเด็ก ทั้งที่รายงานข่าวบอกว่า ส.ส.รัฐบาลโหวตครบครันในสภา จะไม่ให้ประชาชนชื่อนิพิฏฐ์กังขาได้อย่างไร

อย่าลืมนะ นิพิฏฐ์ร้อง กกต.ไว้ ว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง มีทั้งภาพทั้งคลิป อ้างว่ามัดกรรมการบริหารพรรค เอาผิดได้ถึงยุบพรรค นั่นก็เป็นสิทธิของนิพิฏฐ์เช่นกัน ที่จะเร่งรัดทวงถาม กกต.

เหนือสิ่งอื่นใด ที่เป็นเรื่องของการ “ทำตัวเอง” ก็ต้องนึกย้อนไปเมื่อครั้งศาลตีตกร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน อย่างที่บอก มีนักกฎหมายหลายรายค้านว่า ส.ส.คนเดียวเสียบบัตรแทนคนอื่น ไม่น่าจะทำให้การลงคะแนนทั้งสภาไม่สุจริต

แต่ม็อบนกหวีดปิดเมืองก็ไม่ฟัง ไชโยโห่ร้องลั่น จนรัฐบาลตู่สะดุดเอง เป็นยังไงล่ะ

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_3448675

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net