Skip to main content
sharethis

ศาลนัดพร้อมคดีปาระเบิดลานจอดรถศาลอาญา คดีที่สองที่โอนมาจากศาลทหารสู่ศาลยุติธรรม ศาลเรียกค่าประกันตัวเพิ่มต่อจำเลย 15 คน เป็นคนละ 5 แสนบาท โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทนายห่วง ให้จำเลยเข้าเรือนจำทั้งที่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี อาจกระทบสิทธิ

ภาพเหตุปาระเบิดศาลอาญา  7 มี.ค.58 (ภาพจาก กรุงเทพธุรกิจ)

28 ม.ค. 2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า วันนี้ (28 ม.ค.) เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพิจารณาคดีเหตุการณ์ปาระเบิดที่บริเวณลานจอดรถศาลอาญา พร้อมจำเลย 15 คน ซึ่งเป็นคดีที่โอนมาจากศาลทหารสู่ศาลยุติธรรม

ก่อนกระบวนการในห้องพิจารณาเสร็จสิ้น ศาลนัดพร้อมอีกครั้งในวันที่ 16 มี.ค. 63 เวลา 13.00 น. โดยศาลมีคำสั่งให้ยื่นทำสัญญาประกันใหม่เฉพาะคนที่ได้ประกันตัว เดิมทีจำเลยบางคนประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ไม่เท่ากัน โดยจำเลยที่ 8 ชาญวิทย์ จริยานุกูล อายุ 65 ปี เดิมได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวด้วยราคาประกันในวงเงิน 50,000 บาท แต่วันนี้ศาลเพิ่มหลักทรัพย์เป็น 500,000 บาท จำเลยไม่ทราบมาก่อนว่าจะมีการเพิ่มหลักทรัพย์ประกัน ทำให้ไม่สามารถเตรียมตัวยื่นหลักประกันตามที่ศาลมีคำสั่งในวันนี้ได้

ในเวลา 16.22 น. ขณะที่ทนายความและจำเลยพยายามเตรียมเรื่องหาหลักทรัพย์เพิ่ม ทนายความขอปรึกษากับอธิบดีว่า เนื่องจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่9/62 ข้อ 2 วรรคสาม ที่ให้โอนคดีพลเรือนในศาลทหารมาศาลยุติธรรมนั้น ไม่กระทบกระเทือนกระบวนการพิจารณาใดๆ ที่ได้กระทำไปแล้ว หากจำเลยต้องเพิ่มหลักประกันในอัตราสูงจนจำเลยไม่สามารถหามาเพิ่ม และเป็นเหตุให้ต้องเข้าเรือนจำทั้งที่ไม่มีพฤติการณ์หลบหนีขณะที่ได้รับการประกันก่อนหน้านี้ ก็เป็นการกระทบกระเทือนต่อสิทธิของจำเลยได้

โดยในเวลา 16.53 น. ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยด้วยหลักทรัพย์ 500,000 บาททุกคน ในกรณีจำเลยที่ 8 ที่วางหลักทรัพย์เดิมจากศาลทหารเป็นจำนวน 50,000 บาท ศาลมีคำสั่งให้นำหลักประกันมาวางเพิ่ม 450,000 ภายใน 15 วัน

ศูนย์ทนายฯ ตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุที่ทำให้กระบวนการวันนี้ล่าช้า เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการโอนย้ายหลักทรัพย์ประกันตัวจากศาลทหารมายังฝ่ายการเงิของศาลยุติธรรม สะท้อนให้เห็นว่าไม่มีการวางนโยบายการปฏิบัติในคดีที่รับโอนมาให้ชัดเจน ทำให้เกิดความสับสน เกิดความล่าช้าและทำให้จำเลยถูกควบคุมตัวอยู่หลายชั่วโมง

คดีข้างต้นนั้น ไม่ใช่คดีแรกที่ถูกโอนจากศาลทหารแล้วถูกเรียกหลักประกันเพิ่มและมีความล่าช้า กรณี 'ช่างตัดแว่นเชียงราย' ซึ่งเป็นคดีแรกที่โอนจากศาลทหารสู่ศาลพลเรือนนั้น เจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดเชียงรายระบุว่าต้องเตรียมเงินประกันตัวหรือหลักทรัพย์เพิ่มเติมจากที่ใช้เงินประกันตัวจำนวน 100,000 บาทในศาลทหาร เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท หรือหลักทรัพย์ที่มีราคาประเมินไม่ต่ำกว่า 280,000 บาท แต่ต่อมาไกล่เกลี่ยกันได้ ศาลจึงมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดีด้วยเงินสดจำนวน 100,000 บาท หลังจากจำเลยถูกควบคุมตัวไว้เป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมง

อนึ่ง เหตุการณ์ที่นำไปสู่คดีเกิดขึ้นเมื่อ 7 มี.ค. 2558 เมื่อเกิดเหตุการณ์ปาระเบิดที่บริเวณลานจอดรถศาลอาญา เจ้าหน้าที่ทหารจับกุมจำเลยในที่เกิดเหตุ 2 คน ได้แก่มหาหิน ขุนทอง และยุทธนา เย็นภิญโญ ต่อมาได้จับกุมและดำเนินคดีอีกรวมทั้งสิ้น 14 คน (มหาหิน ขุนทอง ยุทธนา เย็นภิญโญ ณัฏฐพัชร์ อ่อนมิ่ง ธัชพรรณ ปกครอง วิชัย อยู่สุข นรภัทร เหลือผล สรรเสริญ ศรีอุ่นเรือน ชาญวิทย์ จริยานุกูล สุภาพร มิตรอารักษ์ วาสนา บุษดี ณเรศ อินทรโสภา วสุ เอี่ยมละออ เจษฎาพงษ์ วัฒนพรชัยสิริ สมชัย อภินันท์ถาวร ตกเป็นจำเลยที่ 1-14)  

คดีนี้ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวตามกฎอัยการศึก เป็นคดีที่เกิดระหว่างประกาศกฎอัยการศึก ไม่สามารถอุทธรณ์ฎีกาได้ในศาลทหาร จำเลย 4 ราย ได้แก่สรรเสริญ ชาญวิทย์ นรพัฒน์ และนายวิชัย ร้องเรียนว่าถูกซ้อมทรมานระหว่างถูกควบคุมตัว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net