พบชาวจีนในไทยติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย รวม 14 ราย เหล่าทหารตรวจเรือดำน้ำที่จีน หนีไวรัสโคโรนา ถึงไทยแล้ว ด้าน ‘ดอน’ มั่นใจรัฐบาลจีนจัดการได้ ยังไม่อพยพคนไทยในอู่ฮั่น ชี้ไทยรับมือได้ตั้งแต่โรคซาร์ส ขณะที่ญี่ปุ่น อเมริกา เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส เตรียมอพยพพลเมืองออกจากอู่ฮั่น จุฬาฯ สั่งหยุดเรียน-หยุดงาน เพื่อสังเกตอาการติดเชื้อ ขณะที่ฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามสดมาตรการรับมือไวรัสโคโรนา

ที่มาภาพประกอบ: Wikipedia

พบชาวจีนในไทยติดเชื้อเพิ่ม 6 ราย รวม 14 ราย

นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม 6 ราย โดยเป็นชาวจีนทั้งหมด ซึ่ง 5 ใน 6 รายเป็นคนในครอบครัวเดียวกันมาจากเหอเป่ย ขณะที่อีก 1 ราย เดินทางมาจากฉงชิ่ง ซึ่งผู้ป่วยที่พบในกลุ่มใหม่นี้อายุตั้งแต่ 6-60 กว่าปี ผลการตรวจเชื้อ 2 ครั้ง พบมีค่าบวก ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่สถาบันบำราศนราดูร

“ผู้ป่วยเดินทางมาตั้งแต่ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยครอบครัวมี 7 คน มี 1 คนที่ป่วย เลยมาติดคนในครอบครัวอีก 4 รวมเป็น 5 คน ตอนอยู่สนามบินไม่มีอาการ เพิ่งมามีอาการในภายหลัง ส่วนอีก 2 คนที่มาด้วย ยังอยู่ระหว่างการสังเกตอาการ รอพบผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งในบ่ายวันนี้ ทั้งนี้ ขอความกรุณาหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศจีน และขอให้เลี่ยงสถานที่แออัด ใครมีอาการไอ จาม ขอให้เข้ามาตรวจที่โรงพยาบาล นอกจากนี้ ถ้าสังเกตว่ามีนักท่องเที่ยวจีน ไอ จาม ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ขอความร่วมมือคนไทยช่วยเป็นหูเป็นตาด้วย”

อย่างไรก็ตาม จากก่อนหน้าที่มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จำนวน 8 รายนั้น กลับบ้านได้แล้ว 5 ราย และอีก 3 ราย ยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพื่อรอให้การตรวจเชื้อมีผลเป็นลบก่อน

เหล่าทหารตรวจเรือดำน้ำที่จีน หนีไวรัสโคโรนา ถึงไทยแล้ว

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสธนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ กล่าวถึงกรณีที่กองทัพเรือส่งคณะกรรมการตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำ จำนวน 20 คน ไปปฏิบัติราชการอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นแหล่งต้นเหตุเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัสโคโรนา (ไวรัสอู่ฮั่น) ว่า คณะกรรมการฯทั้งหมดได้ทยอยเดินทางกลับ ไทยครบหมดแล้วด้วยเครื่องบินพลเรือน ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และปลอดภัยดี ปราศจากการติดเชื้อที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในประเทศจีน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯจะเดินทางกลับไปทำงานที่เมืองอู่ฮั่นต่อไปเมื่อได้รับการสั่งการจากผู้บังคับบัญชา

โดยระหว่างนี้ได้เข้ารายงานตัวต้นสังกัดและตรวจสุขภาพโดยต่อเนื่องที่กรมแพทย์ทหารเรือ ในส่วนงานตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำที่กำลังดำเนินการร่วมกับบริษัทอู่เรือคู่สัญญานั้น ทั้งสองฝ่ายก็ต้องมีการปรับแผนงานกันไปตามเหตุสุดวิสัยที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ในเบื้องต้นยังไม่ส่งผลงกระทบกับแผนงานก่อสร้างโดยรวม ตลอดจนกำหนดการส่งมอบเรือ

พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับการที่กองทัพเรือไม่ได้นำเสนอข่าวการอนุญาตให้คณะกรรมการตรวจการจ้างทั้ง 20 คน ทยอยเดินทางกลับมาประเทศไทยอย่างแพร่หลาย เป็นเพราะคณะกรรมการฯ ได้มีการประสานงานเตรียมการปฏิบัติต่อสถานการณ์แพร่ระบาดนี้ระหว่าง

สำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทย ประจำกรุงปักกิ่ง กรมข่าวทหารเรือ ตลอดจนผู้บังคับบัญชาระดับสูงมาโดยใกล้ชิด โดยกองทัพเรือมีนโยบายไม่ต้องการนำเสนอข่าวให้สังคมเกิดความตื่นตระหนก หรืออาจนำข่าวไปขยายผลให้เกิดความสับสนในสังคม

'วาสนา' เผยทำไมทหารเรือเดินทางกลับประเทศไทยได้ก่อน

วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหารชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก 'Wassana Nanuam' กรณีการเดินทางกลับของคณะกรรมการตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำทั้งหมดได้ทยอยเดินทางกลับไทยครบหมดแล้ว ด้วยเครื่องบินพลเรือน ผ่านการตรวจคัดกรองโรคแล้วก่อนกลับถึงไทย ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยระบุว่า พล.ร.ท.ประชาชาติ แถลงว่า ในระหว่างที่คณะกรรมการตรวจการจ้างสร้างเรือดำน้ำปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่อู่ต่อเรือ บริษัทคู่สัญญาที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนนั้น ในแผนงานมีช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีน และทางอู่ต่อเรือได้ประกาศวันหยุดในช่วงตรุษจีนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. - 2 ก.พ. ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวจึงตรงกับการหยุดพักผ่อนของกำลังพล และเพื่อเป็นการป้องกันและความปลอดภัย ภายหลังที่ได้รับข่าวการแพร่ระบาดในเมืองอู่ฮั่น ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.62 เป็นต้นมา กำลังพลกรรมการตรวจการจ้างเรือดำน้ำจึงได้ขออนุญาตลาพัก และแยกย้ายกันเดินทางออกทัศนศึกษาตามเมืองต่างๆ โดยไม่มีใครทราบมาก่อนว่าจะมีการปิดเมือง

หลังจากนั้นทางการจีนสั่งปิดเมือง ทางกำลังพลเองก็ไม่สามารถกลับเข้าเมืองอู่ฮั่นได้ จึงได้ขออนุมัติกองทัพเรือเดินทางกลับ โดยทยอยกลับจากเมืองต่างๆ ที่แต่ละคนอยู่ในขณะนั้น หลายคนก็ไปทัศนศึกษาต่อ และทยอยเดินทางกลับเรียบร้อยใน 26 ม.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับคำถามที่ว่า สามารถช่วยเหลือคนไทยคนอื่นได้หรือไม่นั้น พล.ร.ท.ประชาชาติ กล่าวว่า กำลังพลของกองทัพเรือเอง ก็ไม่ได้ทราบข่าวเรื่องการปิดเมืองมาก่อนแต่อย่างใด แต่เมื่อได้ด้วยเดินทางออกมาจากเมืองอู่ฮั่น เพื่อไปทัศนศึกษาในช่วงวันหยุดของเทศกาลแล้ว จึงได้รับรู้ข่าวสารพร้อมๆ กับประชาชนทั่วไป และในเมื่อก็ต่างไม่สามารถเดินทางกลับเข้าไปในเมืองอู่ฮั่นได้อีก จึงได้ขออนุญาตเดินทางกลับประเทศไทย โดยแยกย้ายกันมาและผ่านการตรวจการทางการจีนแล้วทุกขั้นตอนแล้ว จึงสามารถทยอยเดินทางกลับมาได้

‘ดอน’ มั่นใจจีนจัดการได้ ยังไม่อพยพคนไทยในอู่ฮั่น ชี้ไทยรับมือได้ตั้งแต่โรคซาร์ส

เมื่อเวลา 08.45 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล ดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงการเตรียมอพยพคนไทยออกจากอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน หลังเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนา ว่า ได้ประสานกับคนไทยที่อยู่ในประเทศจีนอย่างใกล้ชิด รัฐบาลถือเป็นนโยบายและให้ความสำคัญสำหรับความเป็นอยู่ของคนไทยในต่างประเทศ

เท่าที่ทราบคนไทยที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่น จำนวน 64 คน ยังมีสุขภาพที่แข็งแรงดี ส่วนการเดินทางกลับนั้นเรามีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่ขณะเดียวกัน ทางจีนเองมีมาตรการคือ สั่งปิดประเทศ โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่นที่ห้ามคนเข้า – ออก ถือเป็นมาตรการปกติเหมือนกับที่เกิดโรคซาร์ส เมื่อปี 2546 ซึ่งขณะนั้นตนอาศัยอยู่ในประเทศจีนและรับทราบสถานการณ์ดี

รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า เรื่องการปิดเมืองถือว่าสำคัญหากเกิดวิกฤต เพื่อให้เกิดการจัดการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และควบคุมการกระจายของโรคได้ จีนได้ขอความร่วมมือกับทุกประเทศ ให้ได้มีสิทธิ์ในการควบคุมสถานการณ์

ขอความร่วมมือไม่ให้คนเข้า – ออก ไทยจึงควรให้ความร่วมมือ และทางจีนรับปากว่าจะดูแลคนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอู่ฮั่นอย่างดีที่สุด เรามีความมั่นใจในการบริหารจัดการของจีน เบื้องต้นเราต้องให้จีนควบคุมสถานการณ์ให้ได้ก่อน อย่างไรก็ตาม ได้มีการจัดคณะแพทย์ที่เกี่ยวกับสุขภาพจิต สาธารณสุข เพื่อติดต่อกับคนไทยในอู่ฮั่นผ่านแอปพลิเคชันไลน์เพื่อให้เกิดความสบายใจ

“ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีประเทศไหนนำเครื่องบินเข้าไปรับคนของประเทศตัวเองออกจากจีน เพราะต้องให้ความร่วมมือกับจีนด้วย มีบางประเทศที่อยากเอาคนของตัวเองออกมา แต่ต้องรอให้จีนอนุญาตก่อน ทุกประเทศเป็นการเตรียมการเท่านั้น เช่นเดียวกับไทย” ดอน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังไม่จำเป็นต้องสกัดกั้นไม่ให้คนจีนเข้าประเทศใช่หรือไม่ ดอน กล่าวว่า เราไม่มีมาตรการสกัดกั้น เช่นเดียวกับตอนเกิดโรคซาร์สที่ขณะนั้นเรามีการบริหารจัดการที่ดี และมั่นใจว่าถึงวันนี้เราควบคุมสถานการณ์ได้

เมื่อถามว่ารัฐบาลจีนได้ขอให้ฝ่ายไทยช่วยดูแลชาวจีนที่กลับไปนครอู่ฮั่นไม่ได้จึงตกค้างอยู่ในสนามบินของไทย อย่างไรบ้าง ดอน กล่าวว่า เราให้โอกาสชาวจีนในส่วนนี้อยู่ในความดูแลของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ซึ่งฝ่ายไทยไม่ได้เร่งรัดให้เขาต้องกลับไปประเทศเมื่อใด เพราะเราเข้าใจสถานการณ์ดี

หลายชาติเตรียมอพยพพลเมืองออกจากอู่ฮั่น

ญี่ปุ่น - สำนักข่าว Japan Times รายงานว่าจะส่งเครื่องบินไปอู่ฮั่นในคืนวันอังคารที่ 28 มกราคม 2563 เพื่อส่งหน้ากากและชุดกันเชื้อให้รัฐบาลจีนในขาไป และรับพลเมืองญี่ปุ่นกลับมา โทชิมิสุ โมเทจิ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเผยว่ามีพลเมืองญี่ปุ่นในเมืองอู่ฮั่นต้องการกลับประเทศทั้งหมด 650 คน แต่เที่ยวกินแรกจะสามารถรับผู้โดยสารได้เพียง 200 คนเท่านั้นซึ่งรัฐบาลจะเพิ่มไฟลท์เพิ่มเติมอย่างเร็วที่สุดในวันพุธที่ 29 มกราคม 2563

เมื่อผู้โดยสารขึ้นเครื่องแล้วจะได้รับการตรวจอาการทันทีโดยแพทย์ พยาบาล และพนักงานควบคุมโรคที่อยู่บนเครื่องบิน

.สหรัฐอเมริกา - สหรัฐฯก็เตรียมการอพยพทางอากาศ โดยกระทรวงการต่างประเทศวางกำหนดไว้ว่าเครื่องบินจะแลนด์ในเมืองอู่ฮั่นเวลา 22.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2563 อย่างไรก็ดีสำนักข่าวนิเคอิ รายงานว่าเที่ยวบินของสหรัฐฯ จะดีเลย์และไปถึงอู่ฮั่นในวันพุธ 29 มกราคม 2563 เครื่องบินลำดังกล่าวจะนำทุกคนส่งถึงแคลิฟอร์เนีย โดยชาวอเมริกันได้รับแจ้งว่าเที่ยวบินมีที่นั่งจำกัด ผู้ที่จะได้รับการอพยพคือนักการทูตและพลเมืองอเมริกัน โดยให้ลำดับความสำคัญอยู่ที่กลุ่มเปราะบางได้แก่เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีปัญหาสุขภาพ ครอบครัวของบุคคลเหล่านี้อาจได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องด้วยได้

เกาหลีใต้ -รัฐบาลเกาหลีใต้วางแผนจะส่งเครื่องบินไปเมืองอู่ฮั่นวันที่ 30-31 มกราคม 2563 เพื่อรับชาวเกาหลี 700 คน โดยลีแตโฮ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีบอกว่าอาจมีการเปลี่ยนกำหนดการณ์เนื่องจากต้องปรึกษารัฐบาลจีน โดยบอกว่าเที่ยวบินที่จะไปรับคนนี้จะส่งหน้ากากอนามัย 2 ล้านชื้นและเครื่องมือไปช่วยรัฐบาลจีนในการดูแลโรคระบาดด้วย

ฝรั่งเศส -  แอกแนส บูแซ็ง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของฝรั่งเศสเปิดเผยกับสื่อว่าคณะรัฐมนตรีมีมติให้มีเครื่องบินรับพลเมืองฝรั่งเศสกลับประเทศในช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยทุกคนจะถูกกักกันโรคก่อน 14 วัน พร้อมทั้งระบุว่าจะใช้วิธีอพยพตามตวามสมัครใจจากคนฝรั่งเศสอยู่ในเมืองอู่ฮั่นจำนวน 800 คน

จุฬาฯ สั่งหยุดเรียน-หยุดงาน เพื่อสังเกตอาการติดเชื้อ

เมื่อวันที่ 28 มกราคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกประกาศว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ที่มีแหล่งเริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมีผู้ป่วยหรือผู้ได้รับเชื้อได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยนั้น เพื่อสุขภาพอนามัยของนักเรียน นิสิต และบุคลากรของมหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ออกประกาศจุฬาฯ ลงวันที่ 27 มกราคม 2563 เรื่อง ให้หยุดเรียนหรือหยุดงานในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าระบาด ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

นิสิต และบุคลากรจุฬาฯ ที่เดินทางมาจากต่างประเทศหรืออยู่ใกล้กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือในพื้นที่เสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดภายในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีอาการใดๆ สามารถหยุดเรียนหรือหยุดงานได้เป็นเวลา 14 วันเพื่อเฝ้าดูอาการโดยไม่ถือเป็นการขาดเรียน หรือขาดการปฏิบัติงานและไม่นับเป็นวันลา โดยให้นิสิตหรือบุคลากรแจ้งส่วนงานต้นสังกัดทราบ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ฝ่ายค้านจ่อตั้งกระทู้ถามสดมาตรการรับมือไวรัสโคโรนา

สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน เปิดเผย หลังการประชุมฝ่ายค้าน วันนี้ (28 ม.ค. ว่า ฝ่ายค้าน โดยพรรคอนาคตใหม่ จะตั้งกระทู้สดถามรัฐบาล เรื่องแผนบูรณราการการรับมือกับไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019  ในการประชุมสภาฯ สัปดาห์นี้ และเรียกร้องให้ พล.องประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่เพียงแค่ส่งกระทรวงสาธารณสุขมาชี้แจงเท่านั้น เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนวิตกกังวล

“ฝ่ายค้านจะตั้งคำถามรัฐบาลว่า หากมีการแพร่ระบาดจนไปถึงขั้นการยกระดับสูงขึ้น ทางการไทยจะรับมืออย่างไร  ผลกระทบต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว รัฐบาลมีแผนเยียวยานักธุรกิจอย่างไร หากมีการระบาดในไทย จะมีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างไร  มาตรการเฝ้าระวังคัดกรองจุดตรวจผ่านแดน มีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่” สุทิน กล่าว และว่ายังมีเรื่องเสียงสะท้อนของนักท่องเที่ยว ที่พูดถึงมาตรการคัดกรองในสถานที่พักหรือโรงแรมที่ยังไม่เข้มงวด รวมถึงนักบินและลูกเรือสายการบินต่างๆ ได้เข้าสู่กระบวนการคัดกรองหรือไม่” สุทิน กล่าว 

โดยการประชุมร่วมพรรคฝ่ายค้าน ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่พรรคเศรษฐกิจใหม่ไม่ส่งตัวแทนมาร่วมประชุม

เรียบเรียงจาก: ไทยรัฐ, ข่าวสด, ข่าวสด, เวิร์คพอยท์, จุฬาฯ, สำนักข่าวไทย และเฟซบุ๊ก 'Wassana Nanuam'