ชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานร้องรัฐแก้ปัญหาที่ดิน ทรัพยากร คดีบิลลี่ก่อนขอมรดกโลก

แถลงการณ์ชาวกะเหรี่ยงกลุ่มป่าแก่งกระจาน เรียกร้องรัฐไทย ก่อนผลักดันแก่งกระจานเป็นมรดกโลก ให้แก้ไขปัญหาการจัดสรรที่ดิน ฟื้นฟูวิถีชีวิตดั้งเดิม ยอมรับการมีส่วนร่วมการจัดการทรัพยากร และนำตัวผู้กระทำผิดในกรณี 'บิลลี่' มาดำเนินคดีให้ได้ก่อน

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นที่บ้านบางกลอย แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยป้ายข้อความ

29 ม.ค. 2563 ชาวกะเหรี่ยงกลุ่มป่าแก่งประจานมีแถลงการณ์ในประเด็นการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางธรรมชาติ โดยมีความเห็นว่ารัฐไทยยังไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องวิถีชีวิต วัฒนธรรมและที่ดินทำกินของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ตามคำแนะนำของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและข้อเรียกร้องของชุมชนในเรื่องการฟื้นฟูวิถีชีวิตกะเหรี่ยงดั้งเดิม การมีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการดำเนินคดีกรณีการเสียชีวิตของพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักกิจกรรมชาติพันธุ์กะเหรี่ยง อย่างจริงใจ 

แถลงการณ์มีขึ้นหลังการเสวนา รับฟังความคิดเห็นภายในกลุ่มชาวชุมชนในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทประจัน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำภาชี โดยเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ นักวิชาการและนักกฎหมาย เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 หลังจากมีการทำพิธีเชิญดวงวิญญาณบิลลี่กลับบ้านบางกลอยในคืนวันที่ 27 ม.ค. 63 ท่ามกลางครอบครัวและชาวบ้านที่เข้าร่วมคับคั่งศาลาพอละจี บ้านบางกลอย

อัยการแจงไม่สั่งฟ้อง 'ชัยวัฒน์-พวก' คดีฆาตกรรมบิลลี่ เหตุหลักฐานไม่พอ 'มึนอ' เล็งหาหลักฐานยื่นฟ้องเอง

‘ใจแผ่นดิน’ ที่ถูกรัฐละเมิดสู่การกลายเป็นมรดกโลกที่ไม่เหลือพื้นที่ให้คนในชุมชน

ชาวกะเหรี่ยงแก่งกระจานร้องแก้ปัญหาและมีส่วนร่วมขึ้นทะเบียนมรดกโลก

แถลงการณ์

ชุมชนชนเผ่าพื้นเมืองในพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน

ต่อการขึ้นทะเบียนมรดกโลกทางธรรมชาติ

ตามที่รัฐบาลไทยได้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปัจจุบัน เพื่อขอขึ้นทะเบียนพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ และตั้งเป้าหมายให้สำเร็จภายใจปี 2563 นี้ ทำให้ชุมชนกะเหรี่ยงที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่กังวลว่าจะส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน โดยเฉพาะ รูปแบบการทำกินแบบไร่หมุนเวียน

ที่ผ่านมา ระหว่างการพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนของคณะกรรมการมรดกโลกทั้ง 3 ครั้ง ชุมชนกะเหรี่ยงได้มีข้อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้แล้วเสร็จก่อน ทำให้คณะกรรมการฯ มีมติไม่รับรองกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก และให้รัฐบาลไทยกลับไปดำเนินการแก้ไขปัญหาตามคำแนะนำของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและข้อเรียกร้องของชุมชน

วันนี้ 28 มกราคม 2563 ณ บ้านบางกลอย ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี มีผู้แทนชุมชนจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทประจัน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำภาชี ได้ร่วมกันหารือถึงข้อกังวลต่อการขอขึ้นทะเบียนกลุ่มป่าแก่งกระจานเป็นมรดกโลก และตรวจสอบว่ารัฐบาลไทยได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาตามข้อเสนอแนะของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติหรือไม่ โดยพบว่ายังไม่มีการแก้ไขปัญหาเท่าที่ควร การประชุมครั้งนี้จึงมีมติร่วมกันว่ายังไม่ควรขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก จนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้

  1. รัฐต้องฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยงดั้งเดิม ตามแนวทางที่ระบุไว้ในมติคณะรัฐมนตรี 3 สิงหาคม 2553 ว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง ทั้งการทำไร่หมุนเวียน และใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติบนฐานองค์ความรู้ของชาวกะเหรี่ยง และต้องยุติการจับกุมชาวกะเหรี่ยงที่อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่ดั้งเดิม
  2. รัฐต้องยอมรับรูปแบบการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีส่วนร่วมระหว่างรัฐกับชุมชน
  3. รัฐต้องแสดงความจริงใจในการดำเนินคดี การเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ โดยการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมาย โดยขอให้อัยการสูงสุดพิจารณาหลักฐานและมีคำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องคดี

พวกเราชาวกะเหรี่ยงในกลุ่มป่าแก่งกระจาน ขอยืนยันว่าพวกเราจะทำกินตามวิถีดั้งเดิมโดยการทำไร่หมุนเวียน ซึ่งรัฐต้องสนับสนุนตามมติ ครม. 3 สิงหาคม 2553

วันที่ 28 มกราคม 2563

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท