Skip to main content
sharethis

มีรายงานในสื่อวอชิงตันโพสต์ระบุถึงเรื่องเกี่ยวกับองค์การอนามัยโลกปฏิเสธที่จะประกาศว่าโรคปอดอักเสบจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (nCoV-2019) จัดเป็น "สถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่มีความเกี่ยวพันระดับโลก" (PHEIC) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งการประกาศดังกล่าวมีเหตุผลในทางการเมือง แต่ก็เป็นเหตุผลในทางการเมืองที่วอชิงตันโพสต์มองว่าฟังขึ้น

31 ม.ค. 2563 การปฏิเสธไม่ประกาศว่าการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ (nCoV-2019) เป็น "สถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่มีความเกี่ยวพันระดับโลก" (PHEIC) นั้น ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของโลกจำนวนมากแปลกใจ เพราะถึงแม้ว่าการระบาดดูจะรุนแรงภายในจีนและประเทศจีนก็มีปฏิบัติการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนภายในประเทศต่อกรณีนี้ แต่องค์การอนามัยโลกหรือ WHO กลับตัดสินใจไม่ประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินในระดับโลก

โดยที่สถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุข PHEIC นี้มีความหมายทางเทคนิคหมายถึงวิกฤตการณ์สุขภาพที่ "จริงจัง ไม่ปกติ ไม่คาดคิด" ซึ่งส่งผลในเชิง "ความเสี่ยงทางสาธารณสุขต่อประเทศอื่นๆ ผ่านทางการแพร่กระจายระดับนานาชาติ" และอาจจะต้องการปฏิบัติการตอบสนองในแบบที่มีการประสานงานนานาชาติ

เรื่องนี้สื่อวอชิงตันโพสต์ระบุว่า WHO มีเหตุผลทางการเมืองในการไม่ประกาศเรื่องนี้ เพราะการประกาศ PHEIC นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องทางสาธารณสุขเท่านั้นแต่จะส่งผลต่อการดำเนินการอื่นๆ ด้วย เช่นส่งผลให้มีการจำกัดเรื่องการเดินทางหรือการค้า จากการที่ WHO สามารถขยายขอบเขตอำนาจในเรื่องการเสนอทางการเมืองระหว่างประเทศเช่นนี้ได้

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ WHO ไม่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขแม้จะเกิดโรคระบาดถึงแม้ว่าสถานการณ์จะเข้าข่ายเกณฑ์ตามกฎหมาย ในปี 2562 WHO ก็รั้งรอที่จะประกาศเรื่องการการระบาดของอีโบลาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโดว่าเป็น PHEIC จนกระทั่งยอมประกาศว่าเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินในที่สุด สาเหตุของเรื่องนี้มาจากการที่ WHO ต้องหาสมดุลระหว่างวิทยาศาสตร์กับการเมือง

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีผู้เชี่ยวชาญมองว่า WHO ควรจะเป็นองค์กรที่ไม่เป็นการเมือง หรือแยกการเมืองออกจากวิทยาศาสตร์เพราะถ้าหากเอามาการเมืองมาพิจารณาร่วมด้วยอาจจะส่งผลต่อการบริหารและความน่าเชื่อถือในฐานะผู้ดำรงมาตรฐานทางสุขภาวะได้ โดยที่ WHO ก็พยายามทำตัวเองแบบปราศจากการเมืองมาโดยตลอด แต่ในเชิงปฏิบัติจริงๆ แล้วกลับเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการตัดสินใจ

วอชิงตันโพสต์ระบุว่าตัว PHEIC เองก็เป็นการประกาศที่มีความเป็นการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะส่งผลต่อเรื่องการเดินทางและการค้า นอกจากนี้มันยังเป็นสิ่งที่เรียกร้องให้มีการตัดสินใจทางการเมืองในด้านการให้ความชอบธรรมต่อการจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสิทธิมนุษยชน

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ประเทศต่างๆ มักจะมีปฏิกิริยาต่อ PHEIC โดยการตื่นตระหนกและประกาศการสั่งจำกัดการค้าละการเดินทางโดยทันทีถึงแม้ว่า WHO จะไม่ได้เสนอให้ทำเช่นนั้น เรื่องการประกาศ PHEIC จึงต้องนำเรื่องเศรษฐกิจและการเมืองเข้ามาคำนวนร่วมด้วย

ในช่วงที่เกิดการระบาดของอีโบลาในคองโกเอง คณะกรรมการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านอีโบลา ก็พิจารณาว่าจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่โดยนำเรื่องผลกระทบทางการเมืองและเศรษฐกิจของคองโกมาพิจารณาร่วมด้วยเช่นกัน

และในกรณีของไวรัสจากอู่ฮั่นคณะกรรมการของ WHO ก็อาศัยผู้เชี่ยวชาญร่วมกันคำนวนผลกระทบโดยพยายามทำให้สมดุลกันในเรื่องการต่อสู้กับไวรัสของชาวจีนกับความเป็นไปได้ที่ว่าข้อเสนอที่ WHO เคยเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้นจะสามารถทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีได้โดยไม่จำเป็นต้องประกาศ PHEIC

เดิมที่แล้วคณะกรรมการด้านสถานการณ์ฉุกเฉินทางสาธารณสุขของ WHO นั้นเป็นนักวิทยาศาสตร์และนักระบาดวิทยาที่เข้าใจเรื่องการการระบาดของโลกแต่ก็ยังขาดมิติการพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ที่จะได้รับผลกระทบ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าจะเป็นการส่งผลเสียถ้าหากไม่มีคนที่ให้มุมมองการเมืองมีส่วนร่วมตัดสินใจได้

วอชิงตันโพสต์ระบุว่า ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ มันก็เป็นเรื่องปฏิเสธไม่ได้ว่าแม้แต่ WHO ก็เป็นองค์กรที่มีความเป็นการเมือง ดังนั้นแล้วการยอมรับความจริงและให้ผู้ที่มีความรู้ด้านอื่นๆ นอกจากการแพทย์เข้าไปมีส่วนร่วมอภิปรายในการตัดสินใจ จะช่วยทำให้กระบวนการของ PHEIC เข้มแข็งขึ้นได้


เรียบเรียงจาก
The WHO held off on declaring the Wuhan coronavirus a global health emergency. Here’s why., Washington Post, 26-01-2020
https://www.washingtonpost.com/politics/2020/01/26/who-held-off-declaring-wuhan-coronavirus-global-health-emergency-heres-why/

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net