Skip to main content
sharethis

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง จัดส่งข้าราชการ 3 คน เดินทางโดยรถยนต์จากกรุงปักกิ่งไปยังนครอู่ฮั่นระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร ประสานงานเตรียมการนำคนไทยกลับประเทศ 


ที่มาภาพ: สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง

1 ก.พ. 2563 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง โพสข้อความผ่านทางเว็บไซต์ https://thaiembbeij.org/th ระบุถึงการจัดส่งข้าราชการไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนไทยที่นครอู่ฮั่น ว่าวันที่ 1 ก.พ. 2563 การจัดส่งข้าราชการไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือคนไทยที่นครอู่ฮั่น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง ได้จัดส่งข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่งจำนวน 3 คน ได้แก่ นายนิรัตน์ กาญจนรจิตเลขานุการเอก ,นายเมธัส ชัยพุฒิ เลขานุการเอก และ นายอัคคณิตคามเกตุ เลขานุการโท เดินทางไปนครอู่ฮั่นเพื่อปฏิบัติหน้าที่ในการประสานงาน อำนวยความสะดวก และบริหารจัดการต่าง ๆ ในการเตรียมการเพื่อนำคนไทยออกจากพื้นที่ 

โดยข้าราชการทั้ง 3 คน เดินทางโดยรถยนต์จากกรุงปักกิ่งไปยังนครอู่ฮั่นระยะทางกว่า 1,200 กิโลเมตร (ใช้เวลาขับ 14-15 ชั่วโมง) โดยคาดว่าจะถึงนครอู่ฮั่นในช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 2 ก.พ. 2563 และจะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ทั้งนี้เมื่อข้าราชการข้างต้นเดินทางกลับหลังจากปฏิบัติภารกิจเรียบร้อยแล้ว จะมีการดำเนินการตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่ทางการจีนกำหนดโดยเคร่งครัด ซึ่งรวมถึงการตรวจร่างกาย และการกักพื้นที่เพื่อ เฝ้าระวังอาการเป็นเวลา 14 วัน

ผู้เชี่ยวชาญ เตรียมเปลี่ยนคำนิยามคัดกรองโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

ด้าน รศ.(พิเศษ)นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และที่ปรึกษากรมการแพทย์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าหลังจากองค์การอนามัยโลก มีการประกาศให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านการสาธารณสุขระหว่างประเทศนั้น มีประโยชน์ที่ชัดเจน   ทำให้ทุกประเทศตื่นตัวในการเฝ้าระวัง และ ช่วยให้ประเทศที่ไม่มีกำลังทรัพยากรเพียงพอในการป้องกันโรค ได้รับความช่วยเหลือ เกิดการระดมทรัพยากรเพื่อช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ซึ่งในไทยก็ดำเนินการเฝ้าระวังโรคอยู่แล้ว เช่นกันกับประเทศ ในกลุ่มยุโรป และสหรัฐฯ 

ทั้งการประกาศขององค์การอนามัยโลกไม่ได้มีการ จำกัดการเดินทาง การค้าขาย แต่ให้อำนาจในแต่ละประเทศตัดสินใ โดยในส่วนของประเทศไทย เริ่มดำเนินการคัดกรองผู้ป่วยมานานแล้วระยะหนึ่ง และหลังจากที่พบผู้ป่วยและได้รับการยืนยันว่ามีการติดเชื้อภายในประเทศ ซึ่งเป็นคนขับรถแท๊กซี่ เมื่อวานนี้ทำให้ในบ่ายวันนี้ (1 ก.พ.) เตรียมหารือผู้เชี่ยวชาญปรับเกณฑ์การพิจารณาการตรวจจับ คัดกรองผู้ป่วยใหม่ จากเดิม ที่ต้อง เข้า หลักเกณฑ์ 3 ข้อ 1. เป็นคนจีน มาจากอู่ฮั่น 2 มีไข้ 37.5 องศา 3. มีอาการป่วยทางเดินหายใจมาเป็นคนไทยที่เกี่ยวข้องทำงานสัมพันธ์กับชาวจีน ซึ่งมีตั้งแต่ทัวร์และบริษัท การหารือเพื่อหาคำจำกัดความในเรื่องนี้และต้องทำให้การสื่อสารง่ายด้วยเพื่อความเข้าใจ เพราะกลไกการตรวจคัดกรองต้องชัดเจน

รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ยืนยันชาวจีนป่วยไวรัสโคโรนาอาการดีขึ้น

เมื่อวันที่ 31 ม.ค.2563 เวลา 18.00 น. โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ออกประกาศแจ้งผลตรวจทางห้องปฎิบัติการของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า

ทางโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ขอแจ้งว่าในวันนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศว่ามีผู้ป่วยโคโรนาไวรัสอีก 5 คนในประเทศไทย โดยหนึ่งในนั้นเป็นเคสที่เข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลมหาราช ขณะนี้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอยู่ในห้องแยกความดันอากาศเป็นลบ สำหรับผู้ติดเชื้อทางเดินหายใจ ปัจจุบันไข้ลดลง และอาการดีขึ้นตามลำดับ

เนื่องจากทางโรงพยาบาลตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยและผู้ใช้บริการ ตลอดจนบุคลากรทุกคน จึงได้วางแผนรับสถานการณ์เรียบร้อยแล้ว และมีการเฝ้าติดตามบุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยคนดังกล่าว

ขอให้เชื่อมั่นในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มช. และขอขอบคุณพร้อมส่งกำลังใจให้ทีมแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทุกคน

ที่มาเรียบเรียงจาก สำนักข่าวไทย [1] [2] | Thai PBS

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net