“บอล – ธนวัฒน์” ร้องอัยการ ปมชุมนุม #ไม่ถอยไม่ทน แจงฟ้องไม่เป็นประโยชน์

บอล – ธนวัฒน์ ร้องอัยการแจงไม่ได้กระทำผิดปม #ไม่ถอยไม่ทน และการสั่งฟ้องไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จะละเมิดต่อพันธกรณีกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิการเมือง


แฟ้มภาพ

5 ก.พ. 2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า วานนี้ (4 ก.พ.) หลังจากที่ บอล – ธนวัฒน์ วงค์ไชย ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจนครบาลปทุมวันเมื่อวานตามที่พนักงานสอบสวนนัดหมาย เพื่อทำการส่งตัวพร้อมสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 ปทุมวัน พร้อมกับผู้ต้องหารายอื่นในคดีที่สืบเนื่องมาจากการชุมนุม #ไม่ถอยไม่ทน ได้แก่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, ไพรัฎฐโชติก์ จันทรขจร, ณัฏฐา มหัทธนา, และพริษฐ์ ชีวารักษ์ ล่าสุด ธนวัฒน์ ได้เดินทางไปยังสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 อีกครั้งเพื่อยื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรม พร้อมชี้แจงว่าตนไม่ได้กระทำผิดตามที่กล่าวหา อีกทั้งการสั่งฟ้องคดีของตำรวจเป็นการสั่งฟ้องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ และอาจจะมีผลกระทบต่อประโยชน์อันสำคัญของประเทศ เพราะจะถือเป็นการละเมิดต่อพันธกรณีกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR) ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก มีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม

ในหนังสือร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว ธนวัฒน์ได้กล่าวถึงข้อกล่าวหาที่ตำรวจสั่งฟ้อง ได้แก่ กระทำความผิดฐานละเมิดพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 และพระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 ซึ่งธนวัฒน์ยืนยันว่า ตนไม่ได้กระทำความผิดตามที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้อง อีกทั้งการฟ้องดังกล่าวยังไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ จึงขอให้ทางอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 พิจารณาสั่งไม่ฟ้องคดีนี้ โดยให้เหตุผลใน 3 ประการดังนี้

1. เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไม่ได้เป็นผู้จัดการชุมนุม และผู้ต้องหาไม่ทราบว่าสถานที่เกิดเหตุในคดีนี้ มีระยะห่างจากวังสระปทุมเกินกว่า 150 เมตร หรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องหาไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่วัดจากจุดใดไปจุดใด และใช้การวัดด้วยวิธีการใด จึงขอให้ทางอัยการฯ มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนจัดหาผู้ทำการรังวัดที่มีความเป็นธรรมเป็นกลางไปทำการรังวัดใหม่ โดยมีผู้ต้องหาไปร่วมการวัดระยะทางด้วย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม และคดีลักษณะเดียวกันนี้ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) ก็ได้เคยมีคำสั่งเด็ดขาด ไม่ฟ้องนายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ กับพวกรวม 28 คน มาแล้ว

2. เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 11.00 นาฬิกา พนักงานสอบสวนได้เพิ่มเติมข้อความว่า “หรือสถานีขนส่งสาธารณะ” ลงในบันทึกคำให้การผู้ต้องหา บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา และบันทึกแจ้งสิทธิ ทำให้ผู้ต้องหาไม่มีโอกาสได้ให้การแก้ข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาจึงขอให้ท่านได้โปรดให้ระยะเวลาแก่ผู้ต้องหาสัก 15 วัน เพื่อให้สามารถรวบรวมข้อเท็จจริงสำหรับให้การเพิ่มเติมในประเด็นนี้ต่อไป

3. กิจกรรมตามข้อกล่าวหาใช้ระยะเวลาสั้น ๆ โดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ปรากฏว่ามีความรุนแรงเกิดขึ้น เป็นเพียงการใช้สิทธิเสรีภาพโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 34 และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR) ข้อบทที่ 19 ซึ่งกติการะหว่างประเทศดังกล่าว ประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิก มีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม การสั่งฟ้องหรือดำเนินคดีกับผู้ต้องหา จึงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สาธารณชน และจะมีผลกระทบต่อประโยชน์อันสำคัญของประเทศ เพราะจะถือเป็นการละเมิดต่อพันธกรณีกฎหมายระหว่างประเทศ และจะเป็นการสร้างความหวาดกลัว ทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกเช่นนี้อีก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท