Skip to main content
sharethis

ไทยพบผู้ป่วยสะสม 25 ราย สธ.เผยตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อไทยลดจากอันดับ 2 เป็น อันดับ 4 โลก หมอจีนผู้เปิดโปงเสียชีวิตแล้ว จากติดเชื้อไวรัสดังกล่าว 'อนุทิน' ขออภัย หลุดตำหนิต่างชาติไม่ยอมใส่หน้ากาก กรมพลาธิการ ทบ. ขออภัย หลังทหารแพคหน้ากากอนามัยไม่สวมถุงมือ ตม.พบคนจีนกว่าแสนคน สุ่มตรวจพบมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโคโรนา 1 คน รอยืนยันผลตรวจ

จากซ้ายไปขวา อนุทิน รณรงค์แจกหน้ากากอนามัย, ตม. แถลง และ หลี่ เหวินเหลียง หมอชาวจีนผู้เปิดโปงไว้รัสดังกล่าว

พบผู้ป่วยสะสม 25 ราย

7 ก.พ.2563 ความคืบหน้าสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ หรือ ไวรัสโคโรนา 2019 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อขณะนี้นอนในโรงพยาบาล 16 ราย กลับบ้านแล้ว 9 ราย รวมสะสม 25 ราย มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. - 6 ก.พ. 2563 มีผู้ป่วย เข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 615 ราย คัดกรองจากสนามบิน 49 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 566 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 225 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 390 ราย โดยวันที่ 6 ก.พ. 2563 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่ 20 ราย

สถานการณ์ทั่วโลกใน 27 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 ม.ค.– 6 ก.พ. 2563 พบผู้ป่วยยืนยัน
ติดเชื้อจำนวน 28,273 ราย ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 6 ก.พ. 2563 พบผู้ป่วย 28,018 ราย เสียชีวิต 563 ราย

สธ.เผยตัวเลขผู้ป่วยติดเชื้อไทยลดจากอันดับ 2 เป็น อันดับ 4 โลก

กระทรวงสาธารณสุข เผย ทั่วโลกมีรายงานผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ใน 27 ประเทศ บางประเทศมีผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม ขณะที่ไทยยังมีผู้ป่วยยืนยัน 25 รายเท่าเดิม ลดลงจากอันดับ 2 มาอยู่ในอันดับ 4 ของโลก ผู้ป่วยทุกรายแนวโน้มอาการดีขึ้น สำหรับกลุ่มคนไทยที่กลับจากอู่ฮั่น พบผู้มีอาการเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังโรคเพิ่ม 1 ราย และมีผู้อยู่ร่วมห้องซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 1 ราย ได้นำส่งโรงพยาบาลและเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ส่วนผู้ป่วยเฝ้าระวัง 4 คนเดิมอาการดีขึ้น การดูแลด้านสุขภาพจิตพบทุกรายมีกำลังใจดีและให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนด

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า สถานการณ์ในระดับโลกยังมีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีรายงานพบผู้ป่วยยืนยันใน 27 ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ผู้ติดเชื้อทั้งหมด 28,273 ราย และบางประเทศมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ไทยยังมีผู้ป่วยยืนยัน 25 รายเท่าเดิม ทำให้อันดับประเทศที่พบผู้ป่วยลดลงจากอันดับ 2 มาอยู่ในอันดับที่ 4 ของโลก และไม่มีผู้เสียชีวิต โดยผู้ป่วยของไทยที่ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทั้ง 16 ราย มีโน้มอาการดีขึ้น รายที่อาการรุนแรงสุดยังอยู่ในห้องแยกโรคและมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนการเฝ้าระวังโรคในกลุ่มคนไทยที่กลับจากเมืองอู่ฮั่นที่ฐานทัพเรือสัตหีบ วันนี้ได้รับรายงานมีผู้ที่มีอาการคล้ายเป็นหวัดเล็กน้อย 1 ราย และมีผู้อยู่ร่วมห้องซึ่งถือเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดอีก 1 ราย ได้ส่งทั้ง 2 รายไปเฝ้าระวังที่โรงพยาบาล และส่งตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการ ส่วนผู้ป่วยที่เฝ้าระวังเดิม 4 ราย วันนี้ไม่มีไข้ อาการทั่วไปดี รอผลตรวจทางห้องปฏิบัติการอีกครั้ง สำหรับกรณีลูกเรือของสายการบินนั้น เป็นการดำเนินการตามมาตรฐานการเฝ้าระวังโรคของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ การที่ประเทศไทยมีการเตรียมการเฝ้าระวังอย่างรวดเร็วจนพบผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อนอกประเทศจีน แสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของระบบเฝ้าระวังโรคของไทยที่มีความเข้มแข็งและได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและประชาชน

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงการดูแลทางด้านสุขภาพจิต ว่า จากการประเมินสุขภาพจิตโดยทีม MCATT เบื้องต้น ทุกคนมีกำลังใจดี พร้อมให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดในการควบคุมป้องกันโรค ไม่พบผู้มีความเครียดผิดปกติ ส่วน 3 รายที่มีปัญหาโรคซึมเศร้าเดิม ได้รับยาอย่างต่อเนื่อง อาการปกติดี ได้วางแผนเฝ้าระวังสังเกตอาการต่อเนื่องในช่วง 2 สัปดาห์แรก หากพบคนที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพจิต จะติดตามอาการต่อเนื่องไปจนครบ 6 เดือน

สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป กรมสุขภาพจิตจะมีการสำรวจวัดอุณหภูมิใจและความเครียดเพื่อให้การช่วยเหลือและตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพจิตของประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกคนให้ “ตระหนัก แต่ไม่ตระหนก” โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ลดการเสพข่าวที่มาจากแหล่งข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ส่งต่อและไม่แชร์ข้อความที่ดูเกินจริงและไม่ได้รับการยืนยัน

(ที่มา เพจ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข)

ตม.พบคนจีนกว่าแสนคน สุ่มตรวจพบมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโคโรนา 1 คน รอยืนยันผลตรวจ

พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยถึงจำนวนบุคคลสัญชาติจีนที่ยังอยู่ภายในประเทศไทย ซึ่งจากสถิติตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 6 ก.พ. 2563 พบว่ามีบุคคลสัญชาติจีนเข้ามาในไทยทั้งหมด 1,004,067 คน ออกประเทศไปแล้ว 889,567 คน และยังอยู่ในไทย 114,491 คน

เฉพาะคนที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นเข้ามาในประเทศ 23,933 คน ออกไปแล้ว 21,895 คน และยังอยู่ในไทย 2,038 คน ส่วนเมืองกว่างโจว ซึ่งเป็นเมืองใกล้เคียงกับเมืองอู่ฮั่น เข้ามาในไทย 103,944 คน ออกไปแล้ว 91,688 คน และยังอยู่ในไทย 12,256 คน

ขณะที่บุคคลที่เดินทางมาจากเมืองอื่นๆ ของประเทศจีนเข้ามาในไทย 876,190 คน ออกไปแล้ว 775,993 คน เหลืออยู่ 100,197 คน นอกจากนั้นสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังได้ตรวจสอบบุคคลต้องสงสัยที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นเพื่อคัดกรองผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ทางท่าอากาศยานจำนวน 1,231 คน และทางด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศรวม 807 คน

พล.ต.ท.สมพงษ์ ยังกล่าวว่า สำหรับชาวจีนในเมืองที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เป็นเป้าหมายหลักในการตรวจสอบอย่างเข้มงวดคือเมืองอู่ฮั่น และกว่างโจว และบุคคลที่ยังอยู่ในไทยทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในแต่ละจังหวัดร่วมกันสาธารณสุขจังหวัดได้ออกสุ่มตรวจชาวจีนในพื้นที่ต่างๆ ไปกว่า 2,000 คนแล้ว ขณะนี้พบชาวจีนต้องสงสัย 1 คน และรอผลการตรวจว่าจะติดเชื้อหรือไม่

สำหรับชาวจีนที่ยังอยู่ในไทยส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่มาก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา หรือเป็นบุคคลที่มาขอพักอาศัยในช่วงบั้นปลายชีวิต หรือมีครอบครัวอยู่ในไทย

ส่วนชาวจีนที่จะมาทำเรื่องขออยู่ต่อในไทยเนื่องจากไม่สามารถเดินทางเข้าออกประเทศจีน ทางสำนักงานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้จัดทีมแพทย์ และเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อคัดกรอง หากพบมีอาการไข้ขึ้นสูงก็จะแยกให้แพทย์ดูแลอาการและคัดกรองโรคต่อไป ส่วนกรณีที่คนขับรถแท็กซี่ติดเชื้อไวรัสโรโรนาจากผู้โดยสารชาวจีนและรักษาตัวหายไปแล้วก่อนหน้านี้ จากการตรวจสอบพบว่าชาวจีนคนดังกล่าวเดินทางออกนอกประเทศไทยไปแล้ว

อย่างไรก็ตามสำหรับอุปกรณ์การตรวจสอบบุคคลเข้าออกประเทศของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะเครื่องตรวจลายนิ้วมือระบบไอโอเมทริกซ์ได้สั่งการให้ทำความสะอาดทุก 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ในทุกด่านตรวจคนเข้าเมือง

(ที่มา : โปลิศนิวส์)

'อนุทิน' ขออภัย หลุดตำหนิต่างชาติไม่ยอมใส่หน้ากาก

อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข โพสต์ข้อโทษผ่านเฟสบุ๊คหลังหลุดปากไล่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะชาวยุโรปไม่สวมหน้ากากอนามัยกลับประเทศ 

รมว.สาธารณสุข กล่าวขออภัยว่า ที่วันนี้ มีอาการหลุดใส่ชาวต่างชาติ แถบยุโรป บางคน ที่ แสดงอาการรังเกียจ คนไทยสวมหน้ากากและไม่ร่วมมือในการสวมหน้ากากในขณะที่พวกเรากำลังรณรงค์ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา ในประเทศไทย

โดยที่ก่อนหน้านั้น ระหว่างที่ อนุทิน รณรงค์แจกหน้ากากให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนตอนหนึ่งว่า “ประชาชนทั่วไป ถ้ามีการแจกก็ควรจะรับ ไอ้ฝรั่งอีก ไอ้พวกฝรั่งนักท่องเที่ยว ต้องบอกไปยังสถานทูต บอกประชาชนทั่วไปด้วย ไม่ยอมใส่ แจกแล้วไม่ยอมใส่ แจกแล้วไม่ยอมรับ แบบนี้ต้องไล่ออกจากประเทศไทย”

(ที่มา : เพจ อนุทิน ชาญวีรกูล)

กรมพลาธิการ ทบ. ขออภัย หลังทหารแพคหน้ากากอนามัยไม่สวมถุงมือ

วันเดียวกัน หลังจากมีการเผยแพร่ภาพขณะที่ทหารบรรจุหน้ากากอนามัย ไม่ได้สวมถุงมือ จนเกิดกระแสวิพากษณ์วิจารณ์ถึงความเสี่ยงติดเชื้อต่อผู้รับหน้ากากนั้น ล่าสุด พล.ท.พิษณุ บุญรักษา เจ้ากรมพลาธิการทหารบก กล่าวว่า ก่อนการปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ได้มีการล้างมือให้สะอาดและฆ่าเชื้อด้วยเจลแอลกอฮอล์  ซึ่งถือว่ามีความสะอาดระดับหนึ่ง แต่หลังจากที่ได้รับคำแนะนำและข้อห่วงใยจากประชาชน ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จึงได้มีการปรับและสวมอุปกรณ์ป้องกันเพิ่มขึ้น เช่น  หมวกคลุมผม,  หน้ากากอนามัยและสวมถุงมือ ในระหว่างบรรจุเพื่อให้ได้มาตรฐานที่ดียิ่งขึ้น 

เจ้ากรมพลาธิการทหารบก ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องมีความตั้งใจ และต้องขออภัยประชาชน ในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนที่เกี่ยวข้องได้รีบปรับแก้ไขแล้ว เพื่อให้การกระจายหน้ากากอนามัยไปถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด

(ที่มา : PPTV)

หมอจีนผู้เปิดโปงเสียชีวิตแล้ว จากติดเชื้อไวรัสดังกล่าว

ขณะที่ หลี่ เหวินเหลียง (Li Wenliang) แพทย์ชาวจีนที่ออกมาเตือนภัยเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นคนแรก เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลเนื่องจากติดเชื้อไวรัสดังกล่าว

หลี่ เหวินเหลียง ได้รับเชื้อไวรัสขณะทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลกลางของนครอู่ฮั่น และหมอหลี่เสียชีวิตแล้ว เมื่อเวลา 02.58 น. วันศุกร์ หลังจากที่พยายามกู้ชีพแล้วแต่ไม่สำเร็จ ก่อนหน้านี้มีข่าวลืออย่างหนักเกี่ยวกับอาการที่วิกฤติของเขา

หมอหลี่ วัย 34 ปี เป็นผู้ส่งข้อความเตือนถึงอันตรายของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ให้เพื่อนร่วมงานทราบเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่เขาเป็นหนึ่งใน 8 คน ซึ่งถูกตำรวจแจ้งเตือนว่าเป็นผู้กระจายข่าวลือจนทำให้เกิดความปั่นป่วนในสังคม ก่อนที่ตนเองจะติดเชื้อไวรัสดังกล่าวและต้องเข้ารับการรักษาตัว เขาได้รับการยกย่องจากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในจีนว่าเป็นฮีโร่ของประเทศ

(ที่มา : มติชนออนไลน์)

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net