ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ เชิญตัวเจ้าของเฟสบุ๊คที่โพสต์รูปอาวุธ-ขู่ห้างดัง แจ้ง 3 ข้อหา 1.ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2.ข่มขู่ให้คนอื่นตกใจกลัว และ 3.แต่งเครื่องแบบราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าตัวระบุสาเหตุที่โพสต์เพราะเมา

ที่มาภาพประกอบ: Blogtrepreneur (CC BY 2.0)

10 ก.พ. 2563 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า ภายหลังเหตุสลดใจคนร้ายก่อเหตุกราดยิงประชาชนเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายรายที่ จ.นครราชสีมา ต่อมาได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพปืน ระบุข้อความว่า "โรบินสัน ชัยภูมิ อย่าดูถูกความรู้สึกที่มีให้หมาจนตรอก"

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เชิญตัวเจ้าของเฟสบุ๊กดังกล่าว เบื้องต้นทราบว่า เป็นพนักงานขายรถแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ ไม่ได้เป็นทหารหรือตำรวจตามที่มีการแชร์ในโลกออนไลน์ ส่วนสาเหตุที่โพสต์เพราะเมา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้แจ้ง 3 ข้อหา คือ 1.ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2.ข่มขู่ให้คนอื่นตกใจกลัว และ 3.แต่งเครื่องแบบราชการโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ รายงานว่าส่วนภาพที่ใส่เครื่องแบบทหารนั้น เจ้าตัวอ้างว่าเมื่อก่อนเป็นพลทหารในสังกัดหนึ่ง จ.นครราชสีมา แอบใส่ชุดของนาย และนำมาโพสต์ดังกล่าว ส่วนอาวุธปืน เจ้าหน้าที่ยังค้นหาว่าบุคคลดังกล่าวมีอาวุธปืนจริงหรือไม่

นอกจากนี้ เว็บไซต์ NEW18 รายงานว่าบริษัทต้นสังกันที่ชายผู้โพสต์ทำงานอยู่ได้ ออกแถลงการณ์ขอโทษสังคมต่อการกระทำของพนักงงาน พร้อมทั้งประกาศให้ชายผู้โพสต์พ้นจากความเป็นพนักงานบริษัทแล้ว

จับอีกวัยรุ่นโพสต์เลียนแบบกราดยิงโคราช ระบุทำเพราะคึกคะนอง

10 ก.พ. 2563 ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่าพ.ต.อ.ดร.พัทฐกร ศาสนะสุพินธ์ ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์รูปตัวเองแต่งกายด้วย กางเกงขายาวลายพราง เสื้อแขนยาวสีแดง แขนสีเทา ชุดคล้ายทหาร ยืนถืออาวุธปืน เขียนข้อความว่า "โคราชก็เกิดแล้วต่อไปร้อยเอ็ดครับ"

ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมนายบอย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเป็นนักมวย และเจ้าตัวก็รับสารภาพว่าที่เห็นนั้นเป็นของเล่น นำมาประกบกันให้เหมือนปืน โดยผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเยาวชนรับทำไปด้วยความคึกคะนอง

อย่างไรก็ตาม อยากฝากเตือนประชาชน และผู้ปกครองให้เตือนบุตรหลาน ที่มีความคิดจะโพสต์ภาพเผยแพร่ในลักษณะนี้ว่า ห้ามกระทำโดยเด็ดขาด เพราะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ที่มีอัตราโทษสูงจำคุก 5 ปี รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ทำให้ประชาชนตกใจกลัว และสำคัญสุดคือเป็นการซ้ำเติมญาติผู้ที่สูญเสียคนที่รักไปจากเหตุการณ์ที่จังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย