Skip to main content
sharethis

มูลนิธิทอมสัน รอยเตอร์ส รายงานข่าวว่า กาแฟดอยช้างค้างชำระเงินเกษตรกรราว 200 คน มูลค่าตั้งแต่ 2 พันจนถึง 2 แสนบาท ส่งผลให้เกษตรกรต้องกู้หนี้ยืมสิน ผู้ร่วมก่อตั้งแจง บริษัทกระทบจากเศรษฐกิจตกต่ำ จะชำระให้ครบภายใน มิ.ย. ปีนี้ เพจกาแฟดอยช้างแจง กาแฟราคาตก พยายามจำหน่ายกาแฟที่ฝากขายแล้วยังคงเหลือ คาด ทยอยขายครบใน 2-3 เดือนนี้

ที่มาภาพ: pixnio

19 ก.พ. 2563 มูลนิธิทอมสัน รอยเตอร์ส รายงานข่าวว่า กาแฟดอยช้าง ยี่ห้อกาแฟรายใหญ่ในประเทศไทย ประกาศจะจ่ายหนี้ให้กับเกษตรกรกาแฟจำนวนราว 200 คน ที่ค้างชำระเป็นเวลาเกือบ 3 ปี มูลค่าหนี้รวมประมาณ 7 ล้านบาท จนเป็นผลให้เกษตรกรจำนวนมากต้องกู้เงินมาหมุนก่อนและติดอยู่ในวังวนหนี้

ปณชัย พิสัยเลิศ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการจัดการบริษัทดอยช้าง ออริจินัล คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินที่ค้างเอาไว้จนครบภายในเดือน มิ.ย. ปีนี้ และยังกล่าวด้วยว่า เดิมทีดอยช้างชำระเงินให้กับผู้ขายกาแฟได้ภายใน 4 วัน แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมายอดขายของดอยช้างได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

ทอมสัน รอยเตอร์สได้พูดคุยกับเกษตรกรราว 20 คนใน จ.เชียงราย และพบว่าดอยช้างเป็นหนี้พวกเขาตั้งแต่ปี 2560 โดยมูลค่าหนี้นั้นมีตั้งแต่ 2,000 - 230,000 บาท ส่งผลให้เกษตรกรไม่สามารถคืนเงินที่กู้จากกองทุนหมู่บ้าน ธนาคาร ไปจนถึงการกู้เงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงได้

เกษตรกรรายหนึ่งกังวลว่าเขาจะออกจากวังวนหนี้ไม่ได้ ดอยช้างค้างชำระหนี้เขาเป็นเงิน 50,000 บาทจนทำให้เขาต้องไปกู้เงินจากธนาคารพัฒนาชนบทและสหกรณ์หมู่บ้านเพื่อเอามาจ่ายค่าปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ปัจจุบันเขามีหนี้สินรวมทั้งหมด 300,000 บาท

เบตตี้ โยลันดา ผู้จัดการภูมิภาคเอเชีย จากศูนย์ข้อมูลด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชน กล่าวกับทอมสัน รอยเตอร์สว่ากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟมีทุนน้อยจะเปราะบางต่อการที่กระแสเงินสดมีปัญหาจนหนี้พอกพูน ซึ่งผู้รับซื้อผลผลิตสามารถพันธนาการด้านหนี้สินแบบนี้ควบคุมและขูดรีดผู้ขายได้

ดอยช้างมีแฟรนไชส์มากกว่า 50 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศตัวว่าเป็นกิจการเพื่อสังคมที่จะทำกำไรไปพร้อมกับการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม และมีสโลแกนว่าทำธุรกิจเหมือนครอบครัว และไม่มีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้ค้า

วิโรจน์ ณ ระนอง ผู้อำนวยการด้านการวิจัยแห่งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ลักษณะการแบบนี้ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ทำให้เกษตรกรเปราะบางต่อการถูกขูดรีด

กาแฟเข้ามาเป็นแหล่งรายได้หลักของชาวเขาในพื้นที่ จ.เชียงราย แทนที่การปลูกฝิ่นและพืชอาหารที่ค่อยๆ เปลี่ยนมาตั้งแต่ทศวรรษ ค.ศ. 1960

กาแฟดอยช้างแจงสถานการณ์ กาแฟราคาตก พยายามจำหน่ายกาแฟแล้วยังคงเหลืออยู่

เมื่อวานนี้ (18 ก.พ.) เฟสบุ๊คเพจกาแฟดอยช้าง โพสท์ในประเด็นสืบเนื่องจากข่าวข้างต้น ชี้แจงสถานการณ์ว่า กาแฟดอยช้างเป็นผู้เริ่มบุกเบิกตลาดกาแฟตั้งแต่ปี 2546 โดยพยายามรับซื้อผลกาแฟสุกในราคาสูงกว่าตลาดตลอด และมีการประกันราคารับซื้อขั้นต่ำ จนกระทั่งตลาดค่อยใหญ่ๆ ขึ้น บริษัทจำเป็นต้องปรับตัวเรื่องการรับซื้อให้ตรงตามความต้องการของตลาด

เนื่องจากเกษตรกรบางส่วนไม่มีโรงงานแปรรูปเป็นกาแฟกะลา (เมล็ดกาแฟสุกที่ผ่านการกะเทาะเปลือกและตากแห้ง กลายเป็นเมล็ดกาแฟดิบ) บริษัทได้ทำตามข้อเรียกร้องให้รับแปรรูป จัดเก็บและหาตลาดให้ผู้จัดส่งกาแฟผลสุก แต่ยอดส่งออกกาแฟที่ต่ำกว่าเป้าตั้งแต่ปี 2560 ทำให้ต้องหยุดการรับฝากและมีกาแฟที่รับฝากไว้ค้างอยู่

"แต่เนื่องจากตั้งแต่ประมาณช่วงปี 2560 เป็นต้นมา การส่งออกกาแฟดิบต่ำกว่าเป้าที่บริษัทฯ คาดการณ์ไว้ เพราะราคากาแฟในตลาดโลกตกต่ำซึ่งท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ทางบริษัทฯ หยุดการรับฝากกาแฟจากเกษตรกรในปีถัดมาคือปี 2561 และพยายามช่วยพลักดันจำหน่ายออกไป จากปริมาณที่ช่วยรับฝากไว้เกือบ 300 ตันกะลาและทยอยขายออกพร้อมชำระค่ากาแฟให้เกษตรกรในส่วนที่จำหน่ายได้ จนปัจจุบันเหลืออยู่ไม่ถึง 50 ตันกะลาเท่านั้น และจากประมาณการส่งออกที่รอคำสั่งซื้อมาก็น่าจะหมดภายในไม่เกินอีก 2-3 เดือนนับจากนี้"

"วิธีปฏิบัติเช่นนี้บางท่านอาจพยายามตีความว่าเป็นการเอาเปรียบเกษตรกรทั้งที่เป็นความพยายามหาทางช่วยเหลือเกษตรเพื่อไม่ให้เกษตรกรต้องกลับไปถูกกดราคาและเจ็บปวดเหมือนเมื่อสิบกว่าปีก่อนอีกครั้ง... แต่ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ 2 ปีที่ผ่านมาเราไม่สามารถรับฝากได้ เกษตรกรจึงมีความจำเป็นต้องขายผลกาแฟสุกให้กับพ่อค้ากาแฟจากภายนอกในบางช่วงซึ่งราคาต่ำถึง 13-14 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งทางบริษัทฯ รับซื้อในราคาการันตีเฉลี่ยที่ 20 บาท หากแต่เป็นปริมาณที่สามารถรับซื้อได้เท่านั้น"

"และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้เสพข้อมูลข่าวสารต่างๆ จะสามารถมีโอกาสได้รับข้อมูลรอบด้านขึ้น ก่อนที่ทุกๆ คนที่มีความตั้งใจที่จะทำเพื่อส่วนรวม เพื่อชื่อเสียงเกียรติภูมิของชาติพันธุ์ และคนปลูกกาแฟจะเสียกำลังใจไปเสียก่อน…ไม่ใช่แค่คนดอยช้างและกาแฟดอยช้างเท่านั้น"

แปลและเรียบเรียงจาก

EXCLUSIVE-Major Thai coffee brand vows to repay 200 debt-ridden farmers, Thomson Reuters Foundation News, Feb. 17, 2020

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net