นักศึกษาและประชาชนรวมตัวที่ลานพ่อขุนมหาวิทยาลัยรามคำแหง ภายใต้แฮชแท็ก #ลูกพ่อขุนไม่รับใช้เผด็จการ มีการตะโกนคำขวัญ "ประยุทธ์ออกไป เผด็จการจงพินาศ"

บนเวทีปราศรัย มีการหยิบยกหลายประเด็นตั้งแต่การเมืองในสภา เรื่องแหวนและนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กรณีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดของ รมช.เกษตร ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปจนถึงปัญหาชายแดนใต้และการเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวในค่ายทหารกรณีอับดุบเลาะ อีซอมูซอ และเหตุวิสามัญเยาวชนชาวลาหู่ ชัยภูมิ ป่าแส

ด้านธนวัฒน์ วงศ์ไชย อดีตประธานสภานิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แกนนำจัดงานวิ่งไล่ลุง กทม. กล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจเพื่อนๆ ที่รามคำแหง รู้สึกดีใจที่ประเทศนี้ยังมีความหวัง การที่คนิอกมามากขนาดนี้สะท้อนว่าคนทนไม่ไหว ผสมกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังเกิดขึ้น ยิ่งจะทำให้เห็นว่ารัฐบาลบริหารประเทศล้มเหลวแค่ไหน

ซูกริฟฟี ลาแต ประธานสหพันธ์นักศึกษา PerMas หนึ่งในผู้ร่วมปราศรัยในงานกล่าวว่า รู้สึกดีที่ใจที่เห็นพลังของผู้ที่ไม่ยอมถูกรังแก ว่าวันนีเราจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว

"เราสื่อสาร บอกสังคมทั้งปาตานีและสังคมไทยส่วนใหญ่ว่า ถ้าประเทศยังไม่เป็นระบอบประชาธิปไตย ยังไม่พร้อม หรือเป็ยระบอบที่ไม่เคารพสิทธิ เสรีภาพของประชาชน สันติภาพชายแดนใต้ สันติภาพปาตานีจะไม่เกิดขึ้น"

"หลายครั้งที่การทำกิจกรรมของเพื่อนนักศึกษาทั้งใน กทม. และในพื้นที่ชายแดนใต้ ถูกกดดัน คุกคามจากเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด ทำให้พื้นที่การแสดงออกของประชาชนลดลงไปด้วย"

พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน. หัวหมาก ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจมาวันนี้เพื่อนำกำลังมาดูแลความเรียบร้อย ไม่มีอะไร เพราะผู้ชุมนุมมาใช้สิทธิ เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่านำเจ้าหน้าที่ตำรวจมากี่นาย พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ระบุว่า แฝงๆ มา เพราะกลัวว่าจะมีมือที่สาม

"ไอซ์" "เมย์" และ "สายฟ้า" นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะสื่อสารมวลชนปีที่ 3 เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองครั้งแรก ผลัดกันเล่าจนได้ความว่า ที่มาวันนี้เพราะทนไม่ไหวกับสถานการณ์ประเทศที่ย่ำแย่ เศรษฐกิจตกต่ำ ราคาอาหารแพง อย่างข้าวกล่องในย่านรอบมหาวิทยาลัยจากเดิมราคา 25 บาทก็กลายเป็น 45 บาทแล้ว พวกเขาบอกด้วยว่ารู้สึกชอบที่เห็นคนมาร่วมกิจกรรมมากมายขนาดนี้ และอย่างน้อยก็มีคนที่เห็นด้วยกับเรา

ในช่วงท้ายเวทีมีการร้องเพลงเพื่อมวลชน พร้อมเปิดแฟลชแทนแสงเทียน ก่อนเลิกกิจกรรมในเวลา 18.30 น.