ผู้ใช้ทวิตเตอร์ร่วมกันติด #ซันนี่เป็นสลิ่มหรอ หลังนักแสดงชื่อดังให้สัมภาษณ์หากเกิดความรุนแรงในม็อบนักศึกษาต้องโทษคนปลุกปั่นให้เกิด หลังจากนั้นกระแส #saveซันนี่ ก็ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์เช่นกัน
28 ก.พ. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าของวันนี้ กระแส #ซันนี่เป็นสลิ่มหรอ ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์หลังจากที่มีการปล่อยคลิปวิดีโอที่ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ นักแสดงภาพยนตร์และซีรีส์หลายเรื่องให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่ผ่านมา
คลิปวิดีโอที่ปล่อยออกมาเป็นคลิปสั้นที่ตัดมาจากคลิปตัวเต็มอีกที มีความยาว 25 วินาที โดยผู้สื่อข่าวคนหนึ่งถามซันนี่ว่า ตอนนี้มีรวมพลนักศึกษา กลัวว่าจะเกิดความรุนแรงมากขึ้นไหม ซันนี่ตอบว่า ก็ถึงบอกว่าถ้าจะโทษใครก็ต้องโทษคนที่ปลุกปั่นให้มันเกิด เพราะทุกคนก็ไม่ได้คิดว่าใครผิด คือยุให้คนนี้ทำแบบนี้ไปทะเลาะกับคนนี้ โดยที่ทั้งคู่ก็ไม่ได้คิดว่าเขาผิด แล้วมันจะจบตรงไหน
พี่ซันนี่จะเคยเป็นสลิ่มบอลไม่เคยว่า แต่มาถึงตอนนี้ ความล้มเหลวของเผด็จการมันชัดเสียยิ่งกว่าชัด แล้วพี่ซันนี่ยังไม่เลิกเป็นสลิ่ม ยังดูถูกการเคลื่อนไหวของนักศึกษาว่ามีคนปลุกปั่น อันนี้บอลรับไม่ได้จริงๆ ครับ pic.twitter.com/VXWDmmQTIN
— บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย (@tanawatofficial) February 27, 2020
ทั้งนี้ประชาไทได้ถอดความบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมาเพื่อให้ได้บริบทที่ครบถ้วนมากขึ้น โดยในช่วงแรกสื่อมวลชนถามซันนี่เกี่ยวกับกระแสไวรัสโควิด 19 ก่อนที่จะเปลี่ยนประเด็นคำถามไปถามว่า ก่อนหน้านี้มีคนขุดดารานักแสดงหลายท่านที่เคยแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมือง และซันนี่เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เห็นอย่างไรกับเรื่องนี้
ซันนี่ตอบว่า "มันเป็นเรื่องของเขาฮะ อย่างที่บอกว่าคนเรามันเข้าใจความคิดและวิธีคิดไม่เหมือนกัน เขาจะพูดอะไร บอกอะไรก็ได้ หรือเขาจะเข้าใจเราผิดยังไงก็ได้ ถ้าเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด เราก็ตั้งใจจะเป็นคนดีแล้ว เราจะแคร์ทำไมว่าคนอื่นจะมองเราดีหรือไม่ดี
เรื่องที่จะทะเลาะกัน หรือคนมีปัญหากัน มันไม่มีใครคิดว่าตัวเองผิดหรอก ทุกคนก็ต้องคิดว่าตัวเองถูกและทำในสิ่งที่ถูกต้องอยู่ เพราะฉะนั้นมันเถียงกันไม่ลงตัว เพราะทุกคนก็มีเหตุผลเป็นของตัวเอง เพิ่งอ่านโควทล่าสุดที่ คีนู รีฟส์ บอกว่า ‘ผมไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่ตัวเองคิดไปทำไม เพราะคนต้องการจะรู้ในสิ่งที่เขาต้องการจะรู้’ แค่นั้น เราก็ไม่รู้จะพูดอะไร
ถ้าจะมีปัญหา ผมรู้สึกว่าคนที่ปลุกปั่นให้คนทะเลาะกัน อันนี้น่าจะต้องโทษเขามากกว่าอีก โทษกว่าคนที่มาบอกว่าผมเข้าใจคุณ ทะเลาะกับคุณเพราะเรื่องนี้ คนที่ทำให้คนทะเลาะกันน่าโมโหกว่าอีกสำหรับผม
ก็มันคือประชาธิปไตย ถ้าผมทำอย่างงี้ไม่ได้ ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยสิ"
หลังจากนั้นได้มีการถามคำถามตามที่ได้ระบุไปแล้วข้างต้น ซึ่งผู้ใช้ทวิตเตอร์ก็ได้ออกมาแสดงความไม่พอใจและรู้สึกผิดหวัง โดยระบุว่า ซันนี่เห็นต่างไม่ผิด แต่ผิดตรงคำว่านักศึกษาออกมาม็อบเป็นการถูกปลุกปั่น ซึ่งดูถูกความคิดและวิจารณญาณของนักศึกษามาก เพราะการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ก็เพื่ออนาคตของพวกเขา
เอาจริงๆซันนี่เห็นต่างไม่ผิด แต่ผิดตรงคำว่า นศ.เป็นแบบนี้เพราะถูกชักจูง ถูกปลุกปั่น ซึ่งมันดูถูกความคิด และ วิจารณญาณของ นศ. มาก ทำเหมือนคนที่ออกมาเรียกร้องไม่มีสมองอย่างงั้น ซึ่งการที่เราเรียกร้องกันทุกวันนี้ก็เพื่ออนาคตเราทั้งนั้น #saveซันนี่ #ซันนี่เป็นสลิ่มหรอ
— 24ชม.ที่เจอะเจอ (@Rastamymy) February 28, 2020
ทำไมดาราเป็นสลิ่มเยอะ เพราะเศรษฐกิจตกต่ำขนาดไหน พวกเค้าก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไร พวกเค้าไม่ได้หาเช้ากินค่ำ พวกเค้าไม่ได้ทำงานได้วันละ300 จะนายกคนไหนเป็นยังไงเค้าไม่สนหรอก เค้ากลัวอะไรรู้ไหม กลัวคนออกมาชุมนุมมันวุ่นวาย รถติด บลาๆๆ อะไรที่ไม่กระทบเค้า เค้าไม่สนหรอก#ซันนี่เป็นสลิ่มหรอ
— แม่ไม่ให้คุยกับสลิ่ม (@nun_chutikan024) February 27, 2020
เหมือนพวกดาราไม่รู้ว่าที่เขาออกมากันเพราะอะไร มันไม่ใช่เพราะมีคนปลุกปั่น แต่เป็นเพราะเราทนเห็นอนาคตที่มืดมนแบบนี้ไม่ได้แล้ว คุณอาจจะรู้สึกเฉยๆ สบายๆ เพราะคุณตั้งตัวได้แล้ว แต่ไม่ใช่กับนศหรือคนรุ่นใหม่ๆ ที่อายุเขาตอนนี้มันอยู่ในวัยกำลังสร้างตัวอะ #ซันนี่เป็นสลิ่มหรอ
— พ่อคือหีโล้ของหนู (@earnnie_ss) February 27, 2020
ต่อมาช่วงบ่ายของวันเดียวกันเกิด #saveซันนี่ ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ โดยมีผู้ใช้ทวิตเตอร์บางส่วนแสดงความเห็นว่า ซันนี่แค่ไม่ชอบคนที่ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงความแตกแยกแค่นั้นเอง ทุกคนมีสิทธิแสดงความคิดเห็นไม่ว่าฝั่งไหนก็ตาม สุดท้ายเราก็ต้องเคารพและยอมรับมัน ใช้วิจารณญาณกันอีกทีว่าจะเลือกเชื่อหรือไม่ บางส่วนโต้กลับว่าการแบนก็เป็นเสรีภาพการแสดงออกเช่นกัน
มองแบบเป็นกลางนะ เราว่าทุกคนมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะฝั่งไหนก็ตาม สุดท้ายเราก็ต้องเคารพแล้วยอมรับมันนะ ความคิดใครความคิดมันเราไปก้าวล่วงไม่ได้... สุดท้ายเราก็ใช้วิจารณญาณกันอีกทีว่าจะเลือกเชื่อหรือไม่ #saveซันนี่ #ซันนี่เป็นสลิ่มหรอ pic.twitter.com/VWn2fXcdPa
— origi (@kgygiihgj) February 28, 2020
เสรีภาพทางการแสดงออก มันมาพร้อมๆกับเสรีภาพในการถกเถียง ถ้ามึงกล้าดูถูกเสรีภาพคนอื่น มึงก็ต้องรับให้ได้ถ้าจะมีคนด่ามึง และเมื่อไหร่ที่มึงสนับสนุนแนวทางของเผด็จการ ก็เท่ากับมึงเป็นปฏิปักษ์กับประชาธิปไตยนั่นแหละ #saveซันนี่
— Justin อิอิ (@justin_th_th) February 28, 2020
ซันนี่แค่ไม่ชอบคนที่ปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง ความแตกแยก แค่นั้นเอง รักสุด #saveซันนี่ pic.twitter.com/7wZTa6veIW
— Na Ta Ri KuZ (@NatarikuZ) February 28, 2020
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)