ตร. ออกหมายเรียกรังสิมันต์ โรม ส.ส. พรรคก้าวไกล หลังมูลนิธิป่ารอยต่อ ซึ่งพล.อ.ประวิตร เป็นประธาน เข้าแจ้งความหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โรมคาดปมอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา ย้ำแทนที่จะชี้แจงต่อสังคมให้ชัดเจน กลับทำเชือดไก่ให้ลิงดู ด้วยการฟ้องดำเนินคดี ระบุเลยจุดที่จะกลัวมานานแล้ว

20 มี.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานนีตำรวจนครบาลบางขุนนนท์ ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา ในความอาญาระหว่าง มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ ผู้กล่าวหา กับรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ผู้ถูกกล่าวหา ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา โดยให้รังสิมันต์ โรม เข้าพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 23 มี.ค. 2563

รังสิมันต์ ให้สัมภาษณ์กับประชาไท ถึงกรณีนี้ว่า เข้าใจว่าเป็นการแจ้งความหมิ่นประมาทจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นอกสภาเมื่อปลายเดือน ก.พ. ทั้งนี้รู้ดีอยู่แล้วว่ามีความเสี่ยงเพราะการอภิปรายจำเป็นต้องกล่าวถึงองค์กรและบุคคลต่างๆ ที่เชื่อมโยงถักทอเป็นโครงข่ายของอาณาจักรประวิตร และได้ระมัดระวังอย่างเต็มที่ คิดว่าหาก พล.อ.ประวิตร หรือมูลนิธิป่ารอยต่อออกมาชี้แจงเรื่องต่างๆ ต่อสาธารณะก็จะเป็นเรื่องที่ดีกว่าการแจ้งความ เพราะมีโอกาสที่จะสร้างความชัดเจนต่อสังคมด้วย

รังสิมันต์ ตั้งคำถามถึงกรณีนี้ด้วยว่า การอภิปรายเรื่องป่ารอยต่อก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ทำไมจึงมีการดำเนินการในช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19 กำลังระบาด ไม่แน่ใจว่าเป็นความจงใจ ใช้จังหวะเวลาที่ประชาชนต่างสนใจเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัส เพื่อเพื่อกลบกระแสความไม่พอใจของประชาชน นอกจากนี้การที่ผู้ข้อแจ้งความคือ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ ก็เท่ากับว่า พล.อ.ประวิตร เป็นผู้แจ้งความในคดีนี้เอง เพราะเป็นประธานมูลนิธิ ซึ่งนั่นหมายความว่า การตั้งคำถามต่อบุคคลสาธารณะ นอกจากจะยังไม่ได้คำตอบ แล้วยังถูกฟ้องร้องดำเนินคดี คือการเชือดไก่ให้ลิงดู หรือไม่ วันนี้อาจเป็นตน แล้ววันตนไปจะเป็นใคร อย่างไรก็ตามรู้สึกว่า กรณีที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่เลยจุดที่จะกลัวไปนานแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติ่มว่า ในวันที่ 23 มี.ค. รังสิมันต์ มีนัดขึ้นศาลในการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งเมื่อปี 2561 จึงได้ทำเรื่องเลื่อนการเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปก่อน