Skip to main content
sharethis

ในขณะที่โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายในสหรัฐฯ คนทำงานจำนวนมากถูกสั่งให้ทำงานจากที่บ้าน แต่ก็มีคนทำงานบางส่วนที่ไม่อาจทำเช่นนั้นได้ และต้องแบกรับภาระหนักกว่างานอื่นๆ เช่น คนทำงานให้กับบริษัทแอมะซอนและโฮลฟู้ดถูกบีบให้ต้องทำงานหนักขึ้นกว่าเดิมเพื่อตามให้ทันความต้องการที่เพิ่มขึ้้น เป็นผลมาจากการที่ชาวอเมริกันจำนวนมากตื่นตูมเกี่ยวกับโรคระบาดจนพากันกักตุนสินค้าจำพวกอาหารและเครื่องใช้ในครัวเรือน

บริษัทแอมะซอนเป็นบริษัทร้านค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ รวมถึงเป็นเจ้าของห้างค้าปลีกอาหารขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ อย่างโฮลฟู้ด ในช่วงที่โรคติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่หรือ COVID-19 ระบาดหนักนั้น คนทำงานในบริษัทแอมะซอนและห้างค้าปลีกโฮลฟู้ดต่างก็ต้องแบกรับชะตากรรมจากผลพวงของมาตรการ "วางระยะห่างทางสังคม" ไปด้วย จากการที่พวกเขาต้องทำงานหนักขึ้นมากเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีคนตื่นตูมพากันแห่ซื้อกักตุนสินค้ากันเพราะกลัวโรคระบาดเกินกว่าเหตุ

คนทำงานในที่เหล่านี้บอกว่าการทำงานด้วยการเร่งมืออย่างว้าวุ่นในช่วง COVID-19 ระบาดนั้นส่งผลทำลายทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของพวกเขา แล้วตัวพวกเขาเองก็ต้องเผชิญกับความวิตกกังวลกับการจัดการปัญหารับมือการระบาดของตัวเองอยู่แล้ว

มีคนงานแอมะซอนในรัฐโอเรกอนรายหนึ่งเล่าว่าในบณะที่ธุรกิจหลายแห่งให้ผู้คนทำงานจากบ้านได้ แต่คนทำงานที่แอมะซอนกลับต้องแบกรับชั่วโมงทำงานที่มากขึ้น กลายเป็นว่าพวกเขาได้รับอะไรตรงกันข้ามกับคนอื่นๆ เพราะสภาพงานของพวกเขาไม่ใช่งานที่ทำที่บ้านได้ จากเดิมที่เขาต้องทำงาน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยทำกะละ 10 ชั่วโมง แต่สภาพเช่นนี้ทำให้เขาต้องทำงานเพิ่มอีกหนึ่งกะหรือ 10 ชั่วโมง

ขณะที่คนทำงานอีกคนหนึ่งมีความกังวลว่าพวกเขามีสมาชิกครอบครัวที่มีภูมิคุ้มกันโรคไม่ดี กลัวว่าถ้าหากติดโรคจากที่ทำงานไปแล้วจะส่งผลเลวร้ายต่อคนที่บ้าน เขาเล่าว่าคนในที่ทำงานไอโดยไม่สวมหน้ากากกระดาษ นอกจากนี้ถึงแม้พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้หยุดงานได้ตลอดช่วงเดือน มี.ค. แต่จะไม่ได้รับค่าจ้างช่วงหยุดงานทำให้พวกเขาต้องจำใจไปทำงานต่อไปเพราะยังมีภาระค่าใช้จ่าย

ถึงแม้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะเพิ่งผ่านกฎหมายเกี่ยวกับการลางานโดยยังได้รับค่าจ้างเพื่อรองรับมาตรการวางระยะห่างทางสังคม แต่คนทำงานจำนวนมากในสหรัฐฯ เช่น คนทำงานบรรษัทใหญ่อย่างแอมะซอนกลับไม่ได้รับสิทธิตรงนี้ด้วย อย่างไรก็ตามคนทำงานแอมะซอนต่างก็เรียกร้องให้บริษัทจ่ายเงินให้ลูกจ้างถ้าหากโกดังของพวกเขาจำเป็นต้องปิดลงชั่วคราวด้วยเหตุเกี่ยวกับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ นอกจากนี้คนทำงานบางส่วนยังวิจารณ์บริษัททียังเปิดให้ทำงานอยู่ถึงแม้ว่าโรงเรียนของลูกๆ พวกเขาจะปิด พวกเขากลัวว่าถ้าหากคนทำงานติดไวรัสกลับบ้านไปจะทำให้พวกเขาไม่มีปัญหาจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพราะไม่มีประกันสุขภาพ

อย่างไรก็ตามทางบริษัทแอมะซอนประกาศเมื่อวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมาว่าลูกจ้างของพวกเขาทั้งหมดรวมถึงลูกจ้างของโฮลฟู้ดด้วย จะได้รับค่าจ้างเพิ่มเติม 2 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 60-70 บาท) ไปจนถึงสิ้นเดือน เม.ย. นอกจากนี้ยังประกาศแผนการว่าจะเพิ่มพนักงานอีก 100,000 ราย เพื่อให้เข้ากับเป้าหมายความต้องการสินค้าในช่วงโรคระบาด COVID-19 แต่พนักงานทั้งจากโกดังแอมะซอนและจากโฮลฟู้ดก็บอกว่าสภาพการจ้างงานที่พวกเขาต้องเผชิญทำให้พวกเขาเสี่ยงเจ็บป่วยมากขึ้น ทั้งจากความเครียด การโหมงานหนัก และการขาดการป้องกัน

พนักงานโฮลฟู้ดเล่าว่าปริมาณงานหนักเช่นนี้มีขึ้นแต่เฉพาะช่วงเทศกาลวันหยุดเท่านั้น นอกจากนี้ยังระบุว่าในที่ทำงานของพวกเขาไม่มีอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อที่ดีพออย่างสารทำความสะอาดตอนล้างมือ นอจกากนี้พนักงานเต็มเวลาหลายคนก็หยุดงานไม่ได้เพราะกลัวว่าถ้าเข้างานไม่เต็มโควตาที่กำหนดไว้พวกเขาจะสูญเสียสถานะความเป็นลูกจ้างเต็มเวลาทำให้เสียสิทธิประโยชน์ในด้านสวัสดิการสุขภาพ รวมถึงสภาพการทำงานที่ผู้คนจำเป็นท้องทำงานใกล้ชิดกันทำให้เพิ่มความเสี่ยงต่อการระบาด พวกเขาจึงเรียกร้องให้คนทำงานเหล่านี้ได้รับค่าจ้างการเสี่ยงภัยในช่วงที่มีโรคระบาดหนัก ซึ่งพวกเขามองว่าแอมะซอนมีความสามารถจะจ่ายได้แต่ทางบริษัทกลับไม่ทำ

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา จอห์น แมคเคย์ ซีอีโอของโฮลฟู้ดส่งอีเมลถึงลูกจ้างเรียกร้องให้ลูกจ้างบริจาควันลาหยุดแบบยังได้รับค่าแรงของตัวเองให้กับเพื่อนร่วมงานที่ต้องการรับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินหรือมีครอบครัวที่เสียชีวิตกระทันหัน ซึ่งเป็นการผลักภาระมาให้กับลูกจ้าง


เรียบเรียงจาก
‘They don’t care about safety’: Amazon workers struggle with pandemic demand, The Guardian, 18-03-2020

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net