ชั่วโมงแรกของการลงทะเบียน 'เราไม่ทิ้งกัน.com' ระบบล่ม-ศบค.ชี้ไม่ต้องรีบไม่มีกำหนดปิด

28 มี.ค. 2563 เว็บไซด์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ที่ใช้ลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินเยียวยาจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของ COVID-19 รายละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือนนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลระบุว่าระบบสามารถรองรับการทำธุรกรรมได้ถึง 58,000 รายการในเวลาเดียวกัน หรือคิดเป็นจำนวน 3.48 ล้านคนต่อนาที โดยคาดว่าระบบจะสามารถรองรับจำนวนประชาชนที่ต้องการเข้ามาลงทะเบียนออนไลน์ได้แบบไร้กังวล

แต่ล่าสุดพบว่าชั่วโมงแรก (18.00 น.-19.00 น.) มีรายงานข่าวพบว่าระบบล่มและมีประชาชนเป็นจำนวนมากที่ระบบแจ้งว่า 'ดำเนินการไม่สำเร็จ'

ชั่วโมงแรกของการละทะเบียน (18.00 น.-19.00 น.)

ภาพหน้าเว็บเมื่อช่วง 12.00 น. ของวันที่ 28 มี.ค. 2563

ระบุไม่ต้องเปิดบัญชีใหม่รับ 5,000 บาท ไม่ต้องรีบไม่มีกำหนดปิด

ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางวัน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ระบุในการแถลงข่าวว่าการลงทะเบียนรับเงินอย่างละ 5,000 บาท ที่จะเริ่มต้นในการลงทะเบียนในช่วงเย็นวันนี้ ที่มีประชาชนไปรอที่ธนาคารจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีได้ให้อธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่า จะมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ ทุกคนมีโอกาสที่จะได้รับเงินเยียวยา

ผู้ที่ได้รับเยียวยาเช่น กลุ่มแรงงาน ลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ เน้คนทำงานที่เดือดร้อนจาดผลกระทบ COVID-19 เช่นถูกเลิกจ้าง โดนลดเวลาทำงาน ลดรายได้ สถานประกอบการถูกปิด เข้าข่ายได้ทั้งหมด ขณะเดียวกันเกษตรกรและผู้ถือบัตรสวัสดิการได้ด้วย แต่ต้องมีคุณสมบัติครบ โดยลงทะเบียนได้ที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป และไม่จำเป็นต้องเปิดบัญชีใหม่ ใช้บัญชีธนาคารที่มีอยู่แล้ว

“การลงทะเบียนต้องมีเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ โทรศัพท์มือถือของตัวเองหรือคนใกล้ชิด และมีบัญชีธนาคาร เป็นธนาคารอะไรก็ได้ แต่ชื่อและนามสกุลต้องตรงกันหรือเป็นระบบพร้อมเพย์ ที่ผูกกับบัตรประชาชน โดยจะได้รับเงินเร็วที่สุด 7 วันทำการ หลังการลงทะเบียนครบถ้วน ในระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนเม.ย.ถึงเดือนมิ.ย. และไม่มีกำหนดในการปิดรับการลงทะเบียน”

หากครบ 3 ล้านคนก็ไม่ได้มีการปิดรับลงทะเบียน พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใช้เทคโนโลยีในการลงทะเบียน โดยไม่ต้องไปที่ธนาคาร เพราะการไปในที่สาธารณะ ที่ต้องพบประชาชน และมีโอกาสเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ส่วนกลุ่มประชาชนที่กลับต่างจังหวัด มีการติดตาม กระทรวงสาธารณสุขมีทีม อสม. ที่ลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน เพื่อตรวจสอบคุมโรค ซึ่งมีมากกว่า 1,000,000 ทีมทั่วประเทศที่ดูแล จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ความร่วมมือต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งความสำคัญคือความร่วมมือจากประชาชน ส่วนใน3 จังหวัดใช้แดนภาคใต้ ใช้มาตรการป้องกัน ควบคุม รักษา และเยียวยา โดยเชื่อมั่นว่าจะควบคุมการแพร่ระบาดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะสินค้าได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาไข่ราคาแพงจนขาดตลาด ขณะที่มาตรการทางสังคม ยกตัวอย่างเช่น จีนใช้โซเชียลมีเดีย ในการทำให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจ จิตอาสาการร่วมใจของบุคลากรทางการแพทย์ที่รักษาผู้ป่วย เกิดภาพประทับใจ มาสร้างค่าปกติใหม่ทางสังคมให้หัวใจพองโต พร้อมช่วยกันตรวจสอบการเอาเปรียบในสังคม

'อุตตม' แนะไม่ต้องรีบ ลงทะเบียนได้ 24 ชั่วโมง

ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ผู้สนใจเข้าโครงการ ไม่ต้องรีบลงทะเบียนพร้อมกันวันนี้ เพราะระบบจะเปิดรับลงทะเบียน ตลอด 24 ชั่วโมง โดยกระทรวงการคลัง จะพิจารณาตามคุณสมบัติผู้ลงทะเบียน ซึ่งแตกต่างจากการลงทะเบียนโครงการชิมช้อปใช้

กรุงไทยย้ำลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 5,000 บาท ผ่าน www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้น

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าธนาคารขอเน้นย้ำว่าให้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ ผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เท่านั้น โดยขอให้ประชาชนระมัดระวังและตรวจสอบชื่อเว็บไซต์ในการลงทะเบียนอย่างรอบคอบ เนื่องจากขณะนี้มีผู้ไม่ประสงค์ดีได้สร้างเว็บไซต์เลียนแบบขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งธนาคารกรุงไทยได้แจ้งไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมในการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ www.เราไม่ทิ้งกัน.com เปิดให้ลงทะเบียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ต่อวัน โดยระบบจะแจ้งผลการลงทะเบียนทาง SMS ตามเบอร์โทรศัพท์มือถือที่ให้ไว้ หรือทางไปรษณีย์ลงทะเบียน โดยสามารถรับเงินผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ ทางบัญชีพร้อมเพย์ของธนาคารใดก็ได้ที่ผูกกับเลขบัตรประจำตัวประชาชน หรือ บัญชีธนาคารใดก็ได้ที่มีอยู่เดิมโดยที่ชื่อและนามสกุลเจ้าของบัญชีต้องตรงกับชื่อและนามสกุลที่นำมาลงทะเบียน จึงไม่จำเป็นต้องไปเปิดบัญชีใหม่ที่สาขา ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจะได้รับเงินเยียวยาเข้าบัญชีภายใน 7 วันทำการ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม พยายามแสวงหาผลประโยชน์ผ่านโซเชียลมีเดีย จากมาตรการนี้ โดยอ้างว่าจะรับลงทะเบียนให้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับความสะดวก รวมทั้งขอค่าตอบแทนบางส่วนจากเงินที่ได้รับจากมาตรการช่วยเหลือนี้ ธนาคารขอแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อผู้ที่หาผลประโยชน์โดยไม่ถูกต้องเหล่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการนำข้อมูลส่วนตัวของท่านไปใช้ประโยชน์อื่นใดในทางที่ไม่ถูกต้อง และส่งผลให้ท่านได้รับความเสียหายทางการเงินตามมา หากไม่สามารถลงทะเบียนออนไลน์ได้ด้วยตนเอง สามารถขอคำแนะนำหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ของธนาคารกรุงไทย  โทร.  02-111-1144​

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ได้รับรายงานเกี่ยวกับการเริ่มมีพฤติกรรมแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) โดยกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสในช่วงวิกฤติเอารัดเอาเปรียบผู้ได้รับความเดือดร้อนจากไวรัส Covid-19 

ผ่านวิธีการต่างๆ เช่น การหักหัวคิวหรือการหลอกลวงประชาชน เป็นต้น จึงขอตักเตือนไปยังกลุ่มผู้มีพฤติกรรมดังกล่าว ขอให้หยุดการกระทำทันที เนื่องจากในขณะนี้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และพร้อมจะดำเนินการตามกฎหมายทันที ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนช่วยกันสอดส่อง หากพบข้อเสนออื่นใดที่เกี่ยวข้องกับมาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) ซึ่งไม่ได้มาจากรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้พึงระวังและอย่าหลงเชื่อโดยง่าย และขอเน้นย้ำว่า มาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน) เปิดรับลงทะเบียนผ่านทาง www.เราไม่ทิ้งกัน.com เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563 เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป โดยจะเปิดรับลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อให้ครอบคลุมแรงงาน ลูกจ้างชั่วคราว หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัส Covid-19 อย่างทั่วถึง และการจ่ายเงินเยียวยาจะจ่ายครั้งละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือนต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายน 2563 เท่านั้น

แจงเหตุธนาคารปิดทำการ 28-29 มี.ค.ลดความเสี่ยง แนะใช้ช่องทางออนไลน์

ตามที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้ขอให้ประชาชนงดเว้นกิจกรรมที่ต้องมีการรวมตัวกัน หรืองดเว้นการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ นอกเหนือจากประกาศการปิดสถานที่แล้วนั้น

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ เห็นควรสนับสนุนการงดเดินทาง การเคลื่อนย้ายประชาชนที่จะมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอปิดทำการธนาคารพาณิชย์และธนาคารเฉพาะกิจของรัฐทุกสาขาทั่วประเทศ ในระหว่างวันที่ 28-29 มีนาคม 2563 และจะเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 30 มีนาคม 2563

ระหว่างนี้ลูกค้ายังคงสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารต่างๆ ได้ตามปกติ เช่น เครื่องบริการถอนเงิน-ฝากเงินอัตโนมัติ (ATM/ADM) โมบายแบงกิ้ง (Mobile Banking) อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง (Internet Banking)

สำหรับลูกค้าที่ต้องการลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิตาม ‘มาตรการเยียวยา 5,000 บาท (3 เดือน)’ ของทางรัฐบาลนั้น ลูกค้าไม่ต้องเดินทางมาติดต่อที่ธนาคาร สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ได้ตั้งแต่วันนี้ (28 มีนาคม 2563) เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถใช้บัญชีเงินฝากของธนาคารใดก็ได้ที่มีอยู่แล้วมาใช้เป็นบัญชีสำหรับรับเงิน โดยมีเงื่อนไขเพียงชื่อ-นามสกุลเจ้าของบัญชีต้องตรงกับที่ลงทะเบียนไว้ นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกให้โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขประจำตัวประชาชนได้เช่นกัน

ส่วนลูกค้าที่ต้องการลงทะเบียนแต่ยังไม่เคยมีบัญชีเงินฝาก สามารถใช้บริการเปิดบัญชีผ่านช่องทางออนไลน์ จากนั้นจึงค่อยลงทะเบียนขอรับสิทธิตามมาตรการเยียวยาดังกล่าว เนื่องจากระบบเปิดรับลงทะเบียนได้ต่อเนื่อง โดยยังมิได้มีกำหนดปิดให้บริการ และขอความร่วมมือสำหรับผู้ติดต่อใช้บริการ ณ สาขาธนาคาร ในการปฏิบัติตนตามมาตรฐานดูแลความปลอดภัยที่ธนาคารแต่ละแห่งได้กำหนดไว้ เพื่อร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ต้องขออภัยในความไม่สะดวก ทั้งเชื่อมั่นว่าด้วยความร่วมมือร่วมใจของลูกค้าและคนไทยทั้งประเทศ จะสามารถก้าวข้ามสถานการณ์แห่งความยากลำบากในครั้งนี้ด้วยกันได้ในที่สุด

กรณีต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ Call Center สถาบันการเงินทุกแห่ง

ที่มาเรียบเรียงจาก: กรุงเทพธุรกิจ | Thai PBS [1] [2] | สำนักข่าวไทย | ผู้จัดการออนไลน์
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท