มูลนิธิผสานวัฒนธรรมแถลงขอให้ยุติการเก็บดีเอ็นเอ ประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด 19 โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะในชายแดนใต้ หวั่น จนท. ใช้
แฟ้มภาพ: วันที่ 4 มิ.ย. 2562 คัดเลือกทหารเขตเมืองยะลา และเก็บ 'ดีเอ็นเอ'
8 เม.ย. 2563 วันนี้มูลนิธิผสานวัฒนธรรมออกแถลงการณ์ขอให้ยุติการเก็บ DNA ประชาชนในช่วงวิกฤตโควิด 19 โดยเด็ดขาด เสี่ยงการแพร่
โดยแถลงการณ์ระบุว่า
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2563 เครือข่ายผู้ได้รั
- บุคคลทุกคนมีสิทธิในชีวิต เนื้อตัว ร่างกาย และสิทธิในความเป็นส่วนตัวที่
รวมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับสารพันธุ กรรมหรือดีเอ็นเอของตน ที่บุคคลอื่นใดหรือเจ้าหน้าที่ ของรัฐไม่อาจล่วงละเมิดได้ การจัดเก็บดีเอ็ นเอของประชาชนในจังหวั ดชายแดนภาคใต้ของเจ้าหน้าที่ฝ่ ายความมั่นคง โดยที่ประชาชนจำยอมหรือไม่สมั ครใจ เป็นการละเมิดสิทธิมนุ ษยชนและละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ไม่มีอำนาจที่ จะทำได้ ไม่ว่าจะโดยการอ้างตั วบทกฎหมายกฎหมาย เหตุผลหรือในสถานการณ์ใดๆทั้งสิ้ น - การจัดเก็บดีเอ็นจากประชาชน เจ้าหน้าที่จะทำได้เฉพาะกรณีที่
ประชาชนตกเป็นผู้ต้องหาในคดี อาญา โดยผู้ต้องหายินยอมและเป็ นไปตามเงื่อนไขในประมวลกฎหมายวิ ธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131/1 โดยจะเป็นอำนาจของพนั กงานสอบสวนเท่านั้น เพื่อพิสูจน์การกระทำความผิ ดของผู้ต้องหา บุคคลทั่วไปที่เป็นผู้บริสุทธิ์ มิใช่ผู้ต้องหาในคดีอาญาย่อมมี สิทธิที่ปฏิเสธไม่ให้เจ้าหน้าที่ จัดเก็บดีเอ็นเอของตนได้ - การจัดเก็บดีเอ็นเอจากประชาชนที่
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงดำเนิ นการอยู่ในจังหวัดชายแดนใต้ แม้จะมีการให้ลงชื่อในเอกสารให้ คำยินยอมก็จริง แต่การที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนิ นการจัดเก็บดีเอ็ นเอจากประชาชนในลักษณะที่ใช้ กำลังกดดัน และโดยที่ไม่ได้ให้ข้อมูลต่ อประชาชนเกี่ยวกับการจัดเก็บดี เอ็นเออย่างเพียงพอว่า เก็บไปเพื่ออะไร ใครเป็นผู้เก็บ ใครเก็บรักษา เก็บรักษาอย่างไร ใครบ้างที่มีอำนาจเข้าถึงข้อมู ลดีเอ็นเอ เพื่อวัตถุประสงค์ใด อย่างไร และจะตรวจสอบความเป็ นธรรมและโปร่งใสอย่างไร ใครเป็นผู้ตรวจสอบเป็นต้น รวมทั้งต้องอธิบายถึงสิทธิที่ ประชาชนจะปฏิเสธการเก็บดีเอ็ นเอได้โดยไม่มีความผิดใดๆ (informed consent) เพื่อให้ประชาชนสามารถตัดสิ นใจได้อย่างอิสระว่าจะให้ความยิ นยอมหรือไม่ ทางมูลนิธิฯ เห็นว่าการกระทำในลักษณะดังกล่ าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อหลั กสิทธิมนุษยชน - ในกรณีที่เกิดขึ้นใน ต. ลำไพล อ. เทพา จ. สงขลา ดังกล่าวข้างต้น จากภาพถ่ายและการสัมภาษณ์บุ
คคลที่เกี่ยวข้อง พบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่ นคงได้ใช้กำลังถึง 7 คันรถ มีการนำอุปกรณ์การตรวจเก็บที่ เป็นสำลีพันไม้ พร้อมกล่องกระดาษให้ลงชื่อที่ กล่อง รวมทั้งการเก็บลายพิมพ์นิ้วมื อทั้งสิบนิ้วของบุคคลทั้ งสามในเอกสารของทางราชการ ราวกับว่าเป็นการบันทึกประวัติ อาชญากร ในขณะที่ทุกฝ่ายมี ความพยายามในการป้องกันการแพร่ กระจายของโควิด 19 และมีมาตรการทางสาธารณสุขเช่น การกักตัว การเว้นระยะห่างทางสังคม เป็นต้น เพื่อป้องกันการแพร่ ระบาดของโรคดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่มีมาตรการป้ องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรั สโควิด 19 เช่นบุคคลที่เกี่ยวข้องกั บการตรวจเก็บเป็นผู้ติดเชื้ อไวรัสหรือไม่ ย่อมสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ได้ ทั้งต่อผู้เก็บดีเอ็นเอและผู้ถู กเก็บ น่าจะเป็นการฝ่าฝืนนโยบายของรั ฐบาล ความคาดหวังของสั งคมและมาตรการทางสาธารณสุข ที่ต่อสู้กับการแพร่ ระบาดของโรคโควิด 19 - การตรวจเก็บดีเอ็นเอในครั้งนี้
เกิดขึ้นในพื้นที่อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจั กร โดยอ.เทพาในเป็นหนึ่งใน 8 อำเภอ[1]ที่ปัจจุบั นกองอำนวยการรักษาความมั่ นคงภายใน (กอ.รมน.)ประกาศเป็นพื้นที่ ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่ อความมั่นคง รัฐบาลจึงประกาศใช้ พ.ร.บ. ความมั่นคงฯ ในพื้นที่ดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2562 ถึง 30 พ.ย.2563 ซึ่งมาตรา 15[2] จึงไม่สามารถประกาศใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉินทับพื้นที่ดังกล่าวได้อี ก การที่ที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเข้ าไปตรวจเยี่ยม ตามพรก.ฉุกเฉินฯเนื่ องจากสถานการณ์โรคระบาด โควิด 19 อาจเป็นการหมิ่นเหม่ต่อการปฏิบั ติหน้าที่โดยมิชอบได้ - การจัดเก็บดีเอ็นเอที่ผ่
านมาในจังหวัดชายแดนใต้ และในกรณีที่เกิดขึ้นที่ อ.เทพา จ.สงขลาดังกล่าวข้างต้น ที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่ นคงยกกำลังกำลังกันไปเป็ นจำนวนมากอันเป็นการกระทำที่ อาจเข้าข่ายเป็นการปฏิบัติหน้ าที่โดยมิชอบเช่นนั้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ ได้กระทำไปโดยการสั่งการหรือรู้ เห็นเป็นใจหรือทำตามนโยบายของผู้ บังคับบัญชาระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่หน่วยงานของรั ฐและผู้บังคับบัญชาซึ่งมีหน้าที่ ในการปกป้องคุ้มครองสิทธิมนุ ษยชนไม่พึงกระทำอย่างยิ่ง - การจัดเก็บดีเอ็นเอลักษณะนี้ต่
อเยาวชนจึงเป็นเรื่องน่ากังวล และหากเป็นการจัดเก็บดีเอ็นเด็ กที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี ยิ่งต้องมีความระมัดระวั งเพราะถือว่าเป็นเด็กที่ต้องได้ รับการคุ้มครองในทุกด้าน ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กและต้ องไม่ใช่การตรวจสอบคล้ ายการทำประวัติอาชญากรดังเหตุ การณ์ดังกล่าวโดยเด็ดขาด
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเห็นว่าเจ้
[1] พื้นที่ 8 อำเภอที่ประกาศใช้พรบ.ความมั่
[2] มาตรา 15 ในกรณีที่ปรากฏเหตุการณ์อั
ในกรณีที่เหตุการณ์ตามวรรคหนึ่
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)