ที่มาภาพประกอบ: Good News Pilipinas

10 เม.ย. 2563 คนทำงานภาคสาธารณสุขในฟิลิปปินส์ นอกจากจะต้องทำงานในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19 แล้ว พวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับการถูกเหยียดและเลือกปฏิบัติจากคนในสังคมที่เกิดกลัวการติดเชื้อไวรัสนี้

สื่อ VOA รายงานเมื่อช่วงต้นเดือน เม.ย. 2563 ว่าคนทำงานภาคสาธารณสุขในฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่าพวกเขาถูกไล่ออกจากที่พัก ถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นรถโดยสารสาธารณะ และถูกเชิญออกจากภัตตาคาร ร้านอาหารด้วย

รวมถึงประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต จะระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่าหากเจ้าหน้าที่และผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วย COVID-19 ทั้งหลายเกิดเสียชีวิตเพราะทำหน้าที่ของตน ถือว่าทุกคน “โชคดี” ที่สละชีวิตเพื่อประเทศ และดูเตอร์เตก็ไม่ได้มีความเห็นประณามการเลือกปฏิบัติของผู้คนต่อเจ้าหน้าที่ทั้งหลายเลย

กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์เปิดเผยว่าได้มีการสั่งการสืบสวนเหตุการณ์เลือกปฏิบัติแล้ว และทางการกรุงมะนิลาเองก็ได้มีการลงโทษผู้ที่ทำผิดในกรณีนี้ โดยผู้กระทำผิดมีโทษปรับเป็นเงินประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ และจำคุกสูงสุด 6 เดือน

"เราได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเราว่าถูกโจมตีทางร่างกาย รวมถึงถูกสาดด้วยน้ำยาฟอกขาว หรือ คลอรีน .. นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่งสาธารณะ และร้านซักรีด มีการบล็อกไม่ให้เข้าที่พัก รวมทั้งการถูกขับไล่ออกจากที่พัก" แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ ระบุ

เมื่อเดือน ก.พ. 2563 ฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศแรกที่มีรายงานการเสียชีวิตจาก COVID-19 นอกประเทศจีน ตั้งแต่นั้นมาไวรัสแพร่กระจายไปยังผู้ติดเชื้อ 3,764 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 เม.ย.) 

ทั้งนี้ฟิลิปปินส์เองมีปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ที่จำเป็นในภาวะปัจจุบัน เช่น ถุงมือ หน้ากากอนามัย และชุดป้องกันการติดเชื้อ จนทำให้ผู้ปฏิบัติงานต้องดูแลตัวเองด้วยการดัดแปลงสิ่งที่มีมาปกป้องร่างกาย และฟิลิปปินส์ ก็ยังมีคนทำงานภาคสาธารณสุขฟิลิปปินส์ติดเชื้อและเสียชีวิตเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในโลก

อิมี มาร์กอส สมาชิกวุฒิสภา ได้ออกมาเรียกร้องให้ระทรวงสาธารณสุขพร้อมกับกรมการค้าและอุตสาหกรรมเร่งกระบวนการอนุมัติสำหรับธุรกิจที่ทำข้อเสนอจัดหาอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (PPE)

"จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเราในทางที่ดีเลย ถ้าเรามัวแต่รอการบริจาคจากต่างประเทศอยู่เสมอ" มาร์กอส ระบุ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ปธน. ดูเตรเต้ อนุมัติคำสั่งให้เพิ่มค่าตอบแทน 25% ให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ ซึ่งรวมถึงผู้ที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวทุกประเภท

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่ผ่านมาประธานาธิบดูเตอร์เต พึ่งอนุมัติคำสั่งให้เพิ่มค่าตอบแทน 25% ให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ ซึ่งรวมถึงผู้ที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวทุกประเภท

ที่มาเรียบเรียงจาก
Philippine Health Workers Battle Coronavirus, Harassment (VOA, 7/4/2020)