มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ร้องรัฐเยียวยาทุกคนอย่างเท่าเทียมไม่เลือกปฏิบัติ แม้แต่แรงงานข้ามชาติหรือบุคคลบนพื้นที่สูง บุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน พร้อมเสนองดเก็บค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าอย่างน้อย 3 เดือนในบ้านพักอาศัยและให้กระจายอำนาจให้ชุมชนมีส่วนร่วมเข้าไปช่วยเหลือและจัดการ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค ขับวินมอเตอร์ไซค์ AI ฟันธงเป็น 'นักศึกษา' อดเงินเยียวยา เพราะลงเรียน กศน.
ภาพ สมบุญ ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค ซึ่งขับวินมอเตอร์ไซค์ แต่AI ฟันธงเป็น 'นักศึกษา' อดเงินเยียวยา เพราะลงเรียน กศน.
13 เม.ย.2563 จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ธุรกิจจำนวนมากต้องปิดตัวลงตามคำสั่งของรัฐบาล โดยสถานบริการเป็นหนึ่งในที่แรก ๆ ที่ถูกสั่งปิดตั้งแต่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการสั่งปิดสถานบริการนี้ทำให้พนักงานบริการจำนวนมากได้รับผลกระทบและขาดรายได้
ล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำงานในด้านการคุ้มครองและปกป้องสิทธิของพนักงานบริการได้ออกแถลงการณ์ข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเยียวยาพนักงานบริการที่ได้รับผลกระทบรวมถึงเยียวยาประชาทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
ไหม จันทร์ตา ตัวแทนพนักงานบริการจากมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ กล่าวถึงรายละเอียดในแถลงการณ์ของมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ว่า ในที่สุดพนักงานบริการก็เท่าเทียมจากสถานการณ์โควิด-19 สถานบริการเป็นหนึ่งในที่แรก ๆ ที่ถูกสั่งปิดตั้งแต่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา เราพบว่าพนักงานบริการต้องขาดรายได้ พนักงานบริการจำนวนมากไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคมเนื่องจาก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี 2539 ที่ทำให้พนักงานบริการมีความผิดไม่ถูกยอมรับว่าเป็นแรงงานและมีนายจ้างที่ใช้อ้างไม่รับผิดชอบในการทำประกันสังคมให้ ผลกระทบจากการขาดรายได้ครั้งนี้ไม่ใช่แค่พนักงานบริการเพียงเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบแต่รวมไปถึงคนในครอบครัวของพนักงานบริการเพราะว่าพนักงานบริการเป็นหัวหน้าครอบครัวเกือบ 100% พนักงานบริการผู้หญิง 80% เป็นแม่ เป็นเสาหลักของครอบครัว
ตัวแทนพนักงานบริการจากมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลมีนโยบายเปิดให้ลงทะเบียน “เราไม่ทิ้งกัน” ออกมาช่วยเหลือในครั้งนี้ พนักงานบริการคนไทยสามารถลงทะเบียนได้ ซึ่งมีพนักงานบริการลงทะเบียนเราไม่ทิ้งกันถึง 60% จึงเห็นได้ชัดว่ารัฐบาลยอมรับว่าเราเป็นแรงงานหนึ่งแต่ยังมีพนักงานบริการบางกลุ่มที่ยังลงทะเบียนรับการช่วยเหลือไม่ได้ เนื่องจากเป็นเป็นแรงงานข้ามชาติ กลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูง บุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน
บางคนโชคดีมีเงินเก็บพอใช้ในช่วงนี้ได้แต่บางคนไม่มีถึงมีเงินเก็บแต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะส่งให้ทางบ้าน หลายคนกังวลใจที่ไม่มีค่าเช่าที่พัก ค่าอาหาร หนี้สิน รวมถึงเงินค่าเทอมลูกที่กำลังจะเปิด บางคนถึงจะกักตัวอยู่คนเดียวแต่ก็มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการ ช่วยลงทะเบียนให้คนในครอบครัว บางคนต้องดูแลซื้อยาให้พ่อแม่ บางคนเป็นห่วงพ่อที่อยู่ในเรือนจำ บางคนน้องไม่สบาย ลูกไม่สบาย งานเหล่านี้ไม่เคยหยุดแม้เงินหมด ตอนนี้ในกลุ่มพนักงานบริการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือกันเอง โดยส่งอาหารแห้งไปให้เพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัดเพราะหลายคนกลับบ้านไม่ได้
“มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อภาครัฐต้องครอบคลุมถึงทุกคนทุกกลุ่ม การลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือต้องได้รับทุกคนไม่ว่าจะเป็นแรงงานข้ามชาติหรือบุคคลบนพื้นที่สูง บุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียน ให้มีการกระจายอำนาจให้ชุมชนมีส่วนร่วมเข้าไปช่วยเหลือและจัดการ จัดสรรงบประมาณที่มีอยู่ในส่วนของจังหวัดให้สามารถใช้ในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที รัฐต้องจัดการให้ทุกกระทรวงเข้ามามีบทบาทในการช่วยเหลือมากขึ้น รัฐต้องเร่งเข้าช่วยเหลือกลุ่มผู้พิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรังและผู้ถือบัตรประชารัฐ เกษตรกรที่อยู่ในการดูแลของรัฐอยู่แล้ว รัฐต้องมีมาตรการให้ความช่วยเหลือลดภาระต่างๆ เช่น ค่าหอพักเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาคนไม่มีที่อยู่อาศัย งดเก็บค่าน้ำประปาและค่าไฟฟ้าอย่างน้อย 3 เดือนที่เป็นบ้านพักอาศัย การจัดการปัญหาทุกอย่างจะต้องเท่าเทียมและยุติธรรมไม่เลือกปฏิบัติในการช่วยเหลือ” ไหม ระบุ
ปธ.สลัมฯ ขับวินมอเตอร์ไซค์ AI ฟันธงเป็น 'นักศึกษา' อดเงินเยียวยา
ขณะนี้ เครือข่ายสลัม๔ภาค Four Regions Slum Network ออกมาเปิดเผยข้อมูลผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจว่า สมบุญ คงคา ประธานเครือข่ายสลัม 4 ภาค ประกอบอาชีพ ขับขี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นหนึ่งในหมวดงานที่ควรได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากรัฐบาลเดือนละ 5,000 บาท
"เนื่องจากเธอผู้ใฝ่รู้อยากมีความรู้เพิ่มเติม เพื่อมาช่วยเหลือพี่น้องในชุมชน จึงไปสมัครเรียน กศน. กำลังจะจบอีกไม่นาน สุดท้าย AI รัฐบาล ฟันธงว่า เธอ คือนักศึกษา ไม่มีสิทธิ์รับเงินเยียวยา AI รัฐบาลนี้ ไม่รู้จักคนจน" เพจ เครือข่ายสลัม๔ภาคฯ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ยังมีบางรายออกมาเปิดเผยว่าถูกระบบระบุว่าเป็นเกษตรกร ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ประกอบอาชีพดังกล่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)