ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ Work and Travel USA 2020 ร้องขอความเป็นธรรมหลังแจ้ง สคบ. แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
25 เม.ย. 2563 ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ Work and Travel USA 2020 ได้แจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่า เป็นกลุ่มนิสิต-นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการจากการติดต่อโดยเอเจนซี่ที่ดำเนินเรื่อง Work and Travel โดยเฉพาะ ซึ่งในปีนี้มีการระบาดของ COVID-19 ที่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพวกเรา โดยแบ่งเป็น 3 กรณีที่ได้รับผลกระทบได้แก่ 1. ผู้ที่โดนยกเลิกโครงการ 2. ผู้ที่มีความประสงค์ยกเลิกโครงการเอง เนื่องจากห่วงความปลอดภัย และ 3. ผู้ที่ถูกเอเจนซี่ดั้นด้นส่งไป โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและการรองรับการทำงาน
โดยจุดร่วมกันของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้ง 3 กลุ่มนี้คือ 'ได้เงินคืนไม่ถึงครึ่งของจำนวนที่จ่ายไป' หรือ 'ไม่มีสิทธิได้คืนเลย'
ผู้ได้รับผลกระทบจากการถูกยกเลิกโครงการกับมีความประสงค์ยกเลิกเอง เพราะห่วงความปลอดภัยนั้น ส่วนใหญ่ได้ทำการรวมตัวและแจ้งไปที่ สคบ. แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เพราะส่วนใหญ่ของผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้ง 2 กลุ่ม นี้คือ 'ได้เงินคืนไม่ถึงครึ่งของจำนวนที่จ่ายไป' โดยสิ่งที่ต้องการคือ เอเจนซี่หักค่าอะไร ควรแจกแจงให้ทราบ และทำไมถึงได้คืนเพียงเท่านี้ และต้องการได้เงินคืนเพิ่มมากกว่านี่ เพราะนี่คือเหตุสุดวิสัย แม้จะไม่ได้อยู่ในสัญญานโยบายการคืนเงินแต่ก็ควรได้คืนอย่างน้อย 85% ของจำนวนที่จ่ายไป
กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มผู้ที่ถูกเอเจนซี่ดั้นด้นส่งไปโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยและการรองรับการทำงาน โดยกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ยังใช้ชีวิตอยู่ในสหรัฐ ยังไม่สามารถกลับประเทศได้เนื่องจากน่านฟ้าไทยปิด โดยผู้ที่ยังอยู่ในสหรัฐฯ ตอนนี้ส่วนใหญ่คือไม่มีงานทำหรือตกงาน แม้ก่อนจะบินไปทางเอเจนซี่รับรองว่ามีงานทำแน่นอน แต่สุดท้ายบางคนเริ่มงานได้เพียงวันเดียวก็โดนนายจ้างบอกว่าจะปิดร้าน ไม่สามารถทำงานต่อได้ นั่นหมายความว่าไม่มีรายได้ที่จะมาจ่ายค่าที่พักและค่าอาหารการกินในชีวิตประจำวัน ซึ่งหลายคนได้พยายามหา Host ที่เป็นคนไทย หรือคนใจดีให้รับไปอยู่ที่บ้านด้วย เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพื่อให้อยู่รอด และบางคนก็ต้องไปอยู่วัดไทยที่สหรัฐฯ
ดังนั้นสิ่งที่กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ Work and Travel USA 2020 จะมาเรียกร้องคือ การที่เอเจนซี่ไม่มีการรับผิดชอบที่เป็นธรรม เงินที่หลายคนจ่ายไปส่วนใหญ่คือเฉียดแสนแต่สวัสดิการ คุณภาพชีวิตเฉียดเส้นตาย นโยบายก็คืนเงินก็เอาเปรียบเด็ก ซึ่งเด็กหลายคนที่ใช้เงินจากเงินเก็บตัวเองยืมผู้ปกครอง โดยความหวังว่าจะไปทำงานที่สหรัฐฯ และจ่ายคืน
"แต่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ความหวังนั้น เงินก็ไม่ได้คืน ได้คืนก็ไม่คุ้มค่า และตามนโยบายการคืนเงินในสัญญาต่างๆ ที่เอเจนซี่ให้เซ็น ก็ต้องยอมรับว่านี่คือเหตุสุดวิสัย ก็ต้องคืนเงินเพราะตอนนี้ทุกคนเดือดร้อน คุณหักได้ แต่ขอความเป็นธรรม"
โดยตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ Work and Travel USA 2020 ได้ระบุว่า "รบกวนขอความเป็นธรมให้พวกเราด้วย ฝากกระจายเรื่อง และติดตาม หรือสามารถดันแฮชเเท็ก #Workandtravelthailand ได้"
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2563 VOA ได้รายงานเสียงสะท้อนของคนไทยที่ติดอยู่ที่สหรัฐฯ โดยนำเสนอเรื่องราวของคนไทยที่เข้าร่วมโครงการเวิร์คแอนด์ทราเวลในรัฐยูทาห์ 2 คน โดยระบุว่านอกจากงานที่ตั้งใจทำจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส จนทำให้ทั้งคู่ต้องกลับไทยแล้ว พอจะเดินทางกลับไทยก็ยังกลับไม่ได้จากการที่ไทยปิดน่านฟ้าอีก
รายแรกได้พักกับคนไทยที่เห็นข้อความขอความช่วยเหลือของเธอในสื่อสังคมออนไลน์ และมารับเธอไปพักที่บ้านด้วยกัน ส่วนอีกรายต้องอาศัยที่โรงแรมในเมืองซีแอทเทิลมาตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.
“ค่าใช้จ่ายตอนนี้สูงมาก คือตอนนี้ยังเช่าโรงแรม หารกันอยู่กับพี่คนไทยที่ติดอยู่เหมือนกันประมาณ 9 คน ตอนนี้ก็ตัดสินใจว่าจะไปอยู่วัดของวอชิงตัน” หนึ่งในคนไทยที่เข้าโครงการฯ ระบุ
คนไทยอีกรายกล่าวเสริมว่า “เหตุการณ์ทั้งหมดไม่เป็นไปตามแผนเพราะนโยบายที่เปลี่ยนไปตลอดของรัฐบาลทำให้เราเข้าประเทศไม่ได้ ทุกคนไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องตกใจไปอีกนานแค่ไหนและไม่มีใครจะวางแผนอะไรได้เลย ทุกคนก็เลยเหมือนผวาไม่จบ ทุกคนอยู่ในจุดที่เตรียมอะไรไม่ได้เลย”