Skip to main content
sharethis

ความกลัวการระบาดของโควิด-19 นำมาสู่การเลือกปฏิบัติและเหยียดเชื้อชาติสีผิวในจีนต่อคนเชื้อสายแอฟริกัน ในเมืองกวางโจวมีคนเชื้อสายแอฟริกันผิวดำถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพักโรงแรมบ้าง ไม่รับออร์เดอร์อาหาร ไม่ให้เข้าร้านสะดวกซื้อและรังแกบนโลกออนไลน์ จนชาติแอฟริกาออกมาแสดงท่าทีกังวล ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกเพราะเดิมทีการพึ่งพาเงินกู้จากจีนทำให้ประเทศเหล่านี้มักเลือกที่จะปล่อยผ่าน

ตลาดสดในเมืองกวางโจว (ที่มาภาพ: Pixabay by Philippsaal

ชาวเชื้อสายแอฟริกันที่อยู่ในประเทศจีนเปิดเผยว่าพวกเขายังคงเผชิญกับการกีดกันเลือกปฏิบัติจากสังคมจีน เพราะถูกมองว่าพวกเขาจะเป็นพาหะนำโรคโควิด-19 ซึ่งเคยเป็นปัญหาใหญ่ในจีนซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดเมื่อไม่นานนี้ก่อนที่จะกลายเป็นทั่วโลก

แฟรงค์ นาบูกวู นักธุรกิจชาวไนจีเรียที่อาศัยอยู่ในกวางโจวมาเป็นเวลา 1 ปีแล้ว เล่าว่าเขาถูกกีดกันไม่ให้กลับเข้าที่พักที่เช่าไว้หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากการกักตัวเพื่อควบคุมโรคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นาบูกวูบอกว่ายามไม่อนุญาตให้คนต่างชาติเข้าที่พักซึ่งทำให้เขารู้สึกอารมณ์เสียมากและสุดท้ายจำเป็นต้องนอนข้างถนน

แม้ในเวลาต่อมาตำรวจจะช่วยหาโรงแรมที่ยอมให้นาบูกวูเข้าพักได้ แต่เขาก็ยังต้องเผชิญกับการถูกเหยียดอื่นๆ อีก เช่นเมื่อต้องสั่งอาหารแบบส่งถึงบ้าน ถ้าทางบริษัทรู้ว่าคนที่สั่งเป็นคนต่างชาติเขาก็จะไม่มาส่งอาหารให้ เขาถึงขั้นซื้ออะไรในร้านค้าไม่ได้ ถ้าเขาเข้าไปในร้านคนก็จะพากันปิดหน้าตัวเองแล้วไล่เขาออกไป

การเหยียดเชื้อชาติสีผิวแบบนี้เป็นสิ่งที่คนดำเผชิญมาตั้งแต่กลางเดือน เม.ย. มีคนเชื้อสายแอฟริกันหลายคนบอกว่าถูกไล่ออกจากที่พักและโรงแรมก็ไม่ให้เข้าพักจนทำให้ต้องนอนที่ใต้สะพานถึง 4 วัน นอกจากนั้นยังหาร้านซื้ออาหารไม่ได้ ร้านแมคโดนัลด์ในกวางโจวถึงขั้นเคยเขียนป้ายห้ามไม่ให้คนดำเข้าร้านซึ่งในเวลาต่อมาทางร้านก็ได้ออกมาขอโทษ

กระแสการเหยียดเชื้อชาติเกิดขึ้นหลังมีเจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นของกวางโจวแถลงว่ามีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 8 ราย (จากทั้งหมด 1,532 ราย) เคนเข้าไปที่ย่านเยี่ยซิ่วที่ถูกเรียกว่าเป็น "แอฟริกาน้อย" ผสมกับกระแสที่คนไม่พอใจเรื่องข่าวที่มีคนเชื้อสายไนจีเรีย 5 คนถูกกล่าวหาเรื่องการฝ่าฝืนการกักบริเวณเพื่อควบคุมโรคออกไปทานอาหารข้างนอก

สื่อสเตรทไทม์ระบุว่าในบริบทของแอฟริกา การเหยียดเชื้อชาติสีผิวถือเป็นเรื่องน่าอับอายทางการทูตต่อจีน ในวันที่จีนกำลังส่งความช่วยเหลือทางการแพทย์ให้กับกลุ่มประเทศแอฟริกาที่กำลังประสบปัญหาจากไวรัส

จีนเป็นประเทศที่มีนักศึกษาจากแอฟริกาเข้าไปศึกษาต่อหลายด้านเช่นวิศวกรรมและคอมพิวเตอร์ นักศึกษารายหนึ่งชื่อ คิดัส มุลูเกตา จากเอธิโอเปียเล่าว่าบรรยากาศในกวางโจวเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่ออกจากการกักบริเวณเพื่อควบคุมโรค ก่อนหน้านี้ทุกอย่างยังดีๆ แต่พอหลังเขาออกจากการกักบริเวณก็รู้สึกว่ามีไม่ไว้วางใจต่อกันจากชาวจีน เขาเล่าอีกว่ามีการกีดกันทางสีผิวอย่างชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น มีร้านค้าที่บอกว่าไม่ให้ "ชาวต่างชาติ" เข้าไปแต่กลับให้คนขาวอย่างรัสเซียกับชาวยุโรปเข้าไปได้ทั้งที่กีดกันคนดำ

มีนักศึกษาอีกรายบอกว่าต้องระหกระเหินไปนอนข้างถนนเพราะถูกปฏิเสธจากโรงแรมประมาณ 15 แห่ง  ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพื้นที่สาธารณะ ทั้งๆ ที่ผลจากการตรวจวินิจฉัยโควิด-19 ทุกครั้งจะออกมาว่าเขาไม่ได้เป็นโรคเลยก็ตาม

นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องที่มีการแสดงความคิดเห็นออนไลน์จากชาวเน็ตจีนในเชิงเหยียดเชื้อชาติสีผิวชาวแอฟริกัน ทำให้ผู้นำแอฟริกันจำนวนมากรู้สึกตกตะลึงจากความคิดเห็นเหล่านี้ บวกกับการกีดกันที่เกิดขึ้นในโลกความเป็นจริงทำให้ชาติแอฟริกาออกแถลงการณ์แสดงความเจ็บปวด มีประเทศจากแอฟริกา 20 ประเทศร่วมกันเขียนจดหมายเปิดผนึกถึงทางการจีนว่าการสั่งตรวจและสั่งกักบริเวณเพื่อควบคุมโรคกับเฉพาะชาวเชื้อสายแอฟริกันนั้นเทียบเท่ากับ "เป็นการเหยียดเชื้อชาติสีผิว" องค์การสหภาพแอฟริกันแถลงว่ากังวลอย่างมากต่อสถานการณ์ในกวางโจว

โคบัส ฟอน สตาเดน ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์จีน-แอฟริกา จากสถาบันกิจการนานาชาติแอฟริกาใต้กล่าวว่าแม้ที่ผ่านมาผู้นำชาติแอฟริกามักพยายามลดความสำคัญของปัญหานี้มาโดยตลอด แต่ก็รู้ดีว่ามีแรงกดดันจากภายในประเทศที่ทำให้ต้องออกมาแสดงท่าที จึงเป็นไปไม่ได้ทางการเมืองที่จะใช้วิธีบอกปัดแบบเดิม

จีนโต้ตอบท่าทีของชาติแอฟริกาด้วยการปฏิเสธเรื่องการเกิดการเหยียดเชื้อชาติสีผิว โดยอ้างว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิดที่มาจากมาตรการป้องกันโควิด-19 ของจีน ขณะเดียวกันก็โจมตีสื่อที่รายงานเรื่องนี้ว่าเป็นพวกสื่อตะวันตก นักการเมืองสหรัฐฯ และกลุ่มแบ่งแยกดินแดนฮ่องกอง ที่เอาเรื่องนี้มาขยายความต่อ

โรแบร์โต คาสติลโล ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยหลิงหนานในฮ่องกงที่ศึกษาเรื่องชาวแอฟริกันในจีนกล่าวว่า เป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจที่จีนจะปัดความรับผิดชอบและสร้างเรื่องเอาเองว่าเป็น "สิ่งที่ถูกบิดเบือนจากสื่อตะวันตกและข่าวปลอม" ถึงขนาดว่าทำให้เหมือนว่าตัวเองไม่ได้เหยียดเชื้อชาติสีผิวต่อชาวต่างชาติใดๆ เลย ทั้งๆ ที่มีเหตุการณ์กีดกันเลือกปฏิวัติต่อคนดำเกิดขึ้นจริงในสังคมจีน

เรียบเรียงจาก

China fails to stop racism against Africans over Covid-19,
The Guardian, Apr. 27- 2020

Coronavirus: Anger in Africa over virus 'stigma' in China, Straits Times, Apr. 15, 2020

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net