Skip to main content
sharethis

ผ่านมา 10 ปี DSI เข้าจับกุมแม่ค้าข้าวแกง อ้างหมายคดีใหม่ร่วมยิงทหาร 10 เมษา 53 หลังคดีแรกที่ถูกคุมขังตั้งแต่ปี 57 ข้อหาเป็น 'กลุ่มชายชุดดำ' ศาลอุทธรณ์เพิ่งยืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้องเมื่อ ก.พ.ที่ผ่านมา ปัจจุบันเธอยึดอาชีพเดิม เพิ่มเติมคือเลี้ยงข้าว 50 กล่อง/วัน ขณะที่พรุ่งนี้ทีมทนายเตรียมพาคู่คดี 2 คนเข้าพบอัยการ

ภาพซ้าย ปุณิกา (ที่มาภาพเฟสบุ๊ควิญญัติ ชาติมนตรี ) ภาพขวา เป็นกิจกรรมที่ ปุณิกา ทำอยู่ขณะนี้หลังได้ประกันตัวออกจากทัณฑสถานฯ เธอมาประกอบอาชีพเดิมคือขายข้าวแกง และช่วง โควิด 19 ระบาด เธอและเพื่อนจัดกิจกรรมเลี้ยงข้าวเพื่อน 50 กล่อง/วัน ที่ปากซอยรัชดาภิเษก 44 

4 พ.ค.2563 จากกรณีที่ วิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ (สกสส.) โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านเฟสบุ๊คเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา ถึงกรณีที่ชุดสะกดรอยของกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) เข้าจับกุมหญิงคนหนึ่ง (ทราบภายหลังชื่อ ปุณิกา ชูศรี หรืออร อายุ 46 ปี) แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง ซึ่งเธอเคยเป็นจำเลยในคดีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “กลุ่มชายชุดดำ” ในเหตุการณ์ 10 เม.ย.53 โดยคดีนั้น ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกฟ้องอีก เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา แต่สำหรับคดีใหม่ที่ถูกจับกุมนี้ถูกกล่าวหาร่วมกับพวกนำอาวุธปืนสงครามยิงเจ้าหน้าที่ทหาร ศอฉ.ที่ บริเวณหน้าร.ร.สตรีวิทยา เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.53 ทำให้เจ้าหน้าถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณก้นได้รับบาดเจ็บนั้น

ล่าสุดวันนี้ (4 พ.ค.63) ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมกับ วิญญัติ ได้ความว่า พนักงานสอบสวนไปขอหมายจับเมื่อวันที่ 7 ม.ค.63 เป็นการขอหมายจับระหว่างมีคำพิพากษาศาลชั้นต้นกับกำลังจะมีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีแรก ซึ่งผลที่ผ่านมาคือทั้ง 2 ศาลนั้น ปุณิกา หลุดทั้ง 2 ศาล

โดยในคดีใหม่ของ ปุณิกา เป็นคดีร่วมกันพยายามฆ่าดังกล่าวนั้น วิญญัติ เล่าว่า หลังถูกจับกุมตัวก็ได้ประกันตัวออกมา เนื่องจากว่าทาง DSI เคยแจ้งข้อกล่าวหาแล้วตั้งแต่ถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง โดยเจ้าหน้าที่เข้าไปแจ้ง และเจ้าตัวให้การปฏิเสธ แต่ก็ยังดำเนินคดีตามที่ทหารมากล่าวหา จึงส่งสำนวนให้อัยการ จึงได้มาประกันตัวที่ชั้นอัยการแทน โดยไม่ใช้หลักประกัน ใช้เพียงการสาบานตนและให้ทนายรับรองให้

สำหรับกระบวนการต่อไปนั้น เลขาธิการ สกสส. เปิดเผยด้วยว่า พรุ่งนี้ (5 พ.ค.63) เวลา 10.00 น. ตนมอบหมายทีมทนายจาก สกสส. พาผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เคยเป็นคู่คดีเดียวกับ ปุณิกา ที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องไปคดีก่อนหน้าเช่นกัน คือ ชำนาญ ภาคีฉาย และรณฤทธิ์ สุวิชา ไปที่อัยการ ส่วนอีก 2 คน คือ กิตติศักดิ์ สุ่มศรี กับ ปรีชา อยู่เย็น นั้นถูกคุมขังอยู่เรือนจำเนื่องจากศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 

เลขาธิการ สกสส. ระบุถึงแนวทางการนำสืบของ ปุณิกา หรือจำเลยในคดีแรกที่ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องนั้น เขายืนยันว่าขายข้าวไข่เจียวให้กับผู้ชุมนุมอยู่ที่เวทีราชประสงค์ตลอด โดยวันที่ 10 เม.ย.53 ก็ยังอยู่ที่บริเวณเวทีราชประสงค์ อีกทั้งไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า ปุณิกา ไปที่สี่แยกคอกวัวหรือหน้า ร.ร.สตรีวิทยา

วิญญัติ กล่าวด้วยว่า จากที่ตนสู้คดีเหล่านี้มาเป็น 10 ปี จะเห็นได้ว่าแทบจะไม่มีหลักฐานอะไรเลย นอกจากคำกล่าวหา และการกล่าวอ้างว่าบุคคลเหล่านี้เป็นพวกเดียวกัน

สำหรับ ปุณิกา ในคดีแรกเธอถูกคุมขังตั้งแต่ปี 2557 ต่อมา ม.ค.60 ศาลชั้นต้นจะยกฟ้อง แต่กลับถูกให้ขังระหว่างอุทธรณ์ จากนั้น ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง แต่ให้ขังไว้ระหว่างฎีกาอีกครั้ง จนต้องยื่นหลักทรัพย์เพื่อประกันตัว ปัจจุบันประกอบอาชีพขายข้าวแกง แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 เธอและเพื่อนจัดกิจกรรมเลี้ยงข้าวเพื่อน 50 กล่อง/วัน ที่ปากซอยรัชดาภิเษก 44 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net