Skip to main content
sharethis

ประเทศไทยไชโยแชมป์ปราบโควิด เข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ New Normal ศบค.ยอมให้ผ่อนคลาย เปิดร้านตัดผมได้ ร้านอาหารเปิดให้นั่งกินได้ แต่ขับรถไปด้วยกัน พ่อแม่ลูก 3 คน ต้องนั่งแยกโต๊ะ ห้ามหัวเราะ ห้ามเสียงดัง

ครั้นไม่ยอมแยกนั่ง ก็อาจมีผู้หวังดีต่อประเทศชาติ เข้ามาตำหนิ "ไม่รับผิดชอบสังคม" ไม่ทำตามกฎระเบียบ ซึ่งฟังเหมือนถูก แต่มีปัญหาทางเหตุผล คนอยู่บ้านเดียวกัน ถ้ามันจะติดก็ติดไปนานแล้ว

ก็เหมือนคนกินเหล้า ตำรวจบอกให้กินคนเดียว แต่ถ้าเป็นคนงานอยู่บ้านเช่า 5-6 คน จะกินเหล้าหรือกินน้ำมะตูม มันก็ติดกันหมดอยู่ดี

ทำไมชอบเถียงเรื่องนี้ จนเหมือนแถ ทั้งที่คนส่วนใหญ่ยอมรับได้ ดีอกดีใจด้วยซ้ำที่ ศบค.ให้ผ่อนคลาย ให้ขายเหล้า แม้จะมี 4-5 จังหวัดออกคำสั่งประหลาด ห้ามขายต่อไป ทำให้ห้างร้านจังหวัดข้างเคียงครึกครื้น ขายดิบขายดี

โพลทั้งหลายที่ออกสำรวจ ก็บอกว่าประชาชนพอใจ เกิน 80% ทั้งเคอร์ฟิว ทั้งห้ามเดินทางระหว่างจังหวัด ซึ่งประหลาดอีกเหมือนกัน เพราะพอผ่อนคลาย บังเอิญตรงกับวันหยุดยาว ผู้คนหลั่งไหลออกต่างจังหวัด ทำให้ตื่นตูมสกัดกั้น เช่น ยกเลิกขบวนรถไฟ จะซื้อตั๋วต้องมีใบอนุญาต จะเดินทางต้องบอกเหตุผล

ทั้งที่พบผู้ติดเชื้อใหม่วันละคนสองคน แต่ตอนที่พบหลายสิบคน ขบวนรถไฟยังวิ่งได้ หลายจังหวัดก็ยังเดินทางได้ (แบบเงียบๆ ไม่กระโตกกระตากก็ไม่ถูกกักตัว)

ขณะที่หลายจังหวัดยังเข้มเหมือนเดิม หรือเข้มกว่าเดิม เช่น ต้อง Fit to Fly มีใบรับรองแพทย์ก่อนบิน หรือต้องตรวจโควิดก่อน จึงข้ามพรมแดนได้ ทั้งที่ราชอาณาจักรไทยถ้าไม่ใช่เขตระบาดร้ายแรง ก็น่าจะใช้มาตรการเดียวกัน

ทำไมต้องเถียงเรื่องกฎระเบียบ ทั้งที่คนส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน ก็เพราะรัฐประชาธิปไตยต้องยึดมั่นหลักการ ใช้อำนาจอย่างมีขอบเขต ออกกฎหมายหรือระเบียบอย่างมีเหตุผล แม้ยามโรคระบาดต้องจำกัดเสรีภาพ แต่ก็ต้องทำเท่าที่จำเป็นตามเหตุผลทางการแพทย์

การบอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน กับเคอร์ฟิวสี่ทุ่มถึงตีสี่ พูดอีกก็ถูกอีก เพราะคนส่วนใหญ่นอนหลับ ไม่ใช่คนกรีดยาง ชาวประมง คนขนส่งสินค้า ทำงานเป็นกะ ฯลฯ ซึ่งต้องขออนุญาต แล้วก็มีปัญหากับความเคร่งครัดเกินเหตุของเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ไม่มีความเสี่ยงโควิด

คนส่วนใหญ่ไม่ใช่คนที่ต้องกลับค่ำ หรือขายอาหารตอนกลางคืน ซึ่งถ้าขยายเวลาทำมาหากิน ยังพอฟื้นคืนจากความทุกข์ยาก

หรือหากดูในแง่ควบคุมโรค 2-3 วันนี้คนออกจากบ้านมากขึ้น รถไฟฟ้า รถเมล์ เริ่มแออัด ถ้าขยายเวลาเดินทางจะลดความแออัดกว่าไหม

การอ้างคนส่วนใหญ่ไม่เดือดร้อน จึงไม่ต่างอะไรกับรัฐประหารไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ยังทำมาหากินได้ ยังใช้ชีวิตได้ แต่ผลสุดท้ายเป็นไงล่ะ

ประเทศประชาธิปไตยที่รับมือโควิดได้ดี ก็ออกกฎคุมเข้มเหมือนกัน เช่นเยอรมันห้ามพบปะในที่สาธารณะเกิน 2 คน นั่นคือความจำเป็นต้องจำกัดเสรีภาพเพื่อควบคุมโรค เพราะยุโรประบาดหนัก

แต่การออกกฎเกณฑ์ในประเทศนี้ ที่แตกต่างคือ หนึ่ง เป็นไปตามเหตุผลความจำเป็นของสถานการณ์โรคระบาดหรือไม่ เช่น เคอร์ฟิวจำเป็นหรือไม่ ในเมื่อโควิดไม่ได้ออกหากินตอนสี่ทุ่มถึงตีสี่ การขยายเวลาให้เดินทาง ให้ทำมาหากิน ทั้งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและลดความแออัด

การห้ามเดินทางระหว่างจังหวัดยังจำเป็นหรือไม่ การห้ามขายเหล้ามีเหตุผลทางการแพทย์เพียงไร ในเมื่อปิดผับบาร์ห้ามร้านเหล้า หรือทำไมต้องห้ามห้างค้าปลีกเปิดขายเครื่องไฟฟ้า (แต่สามารถเดินเข้าไปดูได้ แล้วสั่งออนไลน์) เหล่านี้คนส่วนใหญ่ไม่ยักตั้งคำถาม

สอง การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้โทษหนักกว่าปกติ ทำให้เกิดความหวาดกลัว ขาดการโต้แย้งทั้งในพื้นที่สาธารณและกระบวนการศาลปกครอง

สาม รัฐราชการไทยใช้อำนาจตามกฎระเบียบอย่างเถรตรง หรือล้นเกินไว้ก่อน โดยไม่ใช้วิจารณญาณถึงเหตุผล เช่น คำสั่งห้ามตั้งวงกินเหล้าไม่ต้องการให้คน "มั่วสุม" แต่เข้าไปจับคนเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน 5-6 คน ทั้งที่กินน้ำมะตูมก็ "มั่วสุม" อยู่ดี

อันตรายของประชาธิปไตยไทย ภายใต้อำนาจฉุกเฉินโควิด ก็คือการที่คนส่วนใหญ่หวาดกลัว จนยอมรับกฎระเบียบที่ไม่มีเหตุผล หรืออ่อนเหตุผล โดยคิดว่าตัวเองไม่เดือดร้อน ยอมรับการใช้อำนาจล้นเกิน โดยคิดว่าอาจจะลดการติดเชื้อ สักนิดก็ยังดี

แม้แต่การผ่อนคลาย กลับสู่ New Normal ก็กลายเป็นทำให้สังคมเคยชิน ในการอยู่ใต้อำนาจ กฎระเบียบ คำสั่ง ซึ่งเข้มงวดเกินกว่าเหตุ โดยตีขลุมปนเปกัน ไม่รู้อันไหนคำสั่ง "ระบบสุขภาพ" อันไหนคำสั่ง "รัฐฉุกเฉิน"

จากที่ควรจะ New Normal เพื่อสุขภาพ ก็กลายเป็น New Abnormal สร้างความเคยชินกับการอยู่ใต้อำนาจ ความเคยชินนี้อันตราย คล้ายๆ ย้อนไปสู่ยุค "ขอเวลาอีกไม่นาน"

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/hot-topics/news_4086904

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net