1 ปี สยามและพวกหายตัว ญาติเผยไร้ความคืบหน้า-เปิดไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้อง

เปิดไทม์ไลน์ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การเคลื่อนไหวเชิงสัญลักษณ์ของ 'สหพันธรัฐไท' ในไทย ตามด้วย 'ประวิตร' ถกเรื่องนี้กับ รมว.ป้องกันประเทศลาว ผู้ลี้ภัยหาที่หลบซ่อนตัว จากนั้นสุรชัย แช่ด่าน ก็หายตัวไป ส่วนคนสนิท 2 คนพบเป็นศพที่แม่น้ำโขง ก่อนนำมาสู่การเปิดเรื่องสยาม ลุงสนามหลวง และพวกอีก 1 คนถูกจับที่เวียดนามส่งตัวกลับไทย การเคลื่อนไหวของครอบครัวในการตามหาตัว 1 ปีที่ไร้ความคืบหน้า

ชูชีพ สยาม และกฤษณะ ภาพจากพาสปอร์ตเข้าประเทศเวียดนามก่อนถูกจับกุมเนื่องจากใช้พาสปอร์ตปลอม

เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2563 เป็นวันครบรอบ 1 ปีที่ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนออกมาแถลงว่า สยาม ธีรวุฒิ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหามาตรา 112 และนักจัดรายการวิทยุ/ยูทูบใต้ดินในชื่อ 'สหายข้าวเหนียวมะม่วง' หายตัวไปพร้อมกับ ‘ลุงสนามหลวง’ หรือชูชีพ ชีวะสุทธิ์ และ กฤษณะ ทัพไทย หรือสหายยังบลัด โดยภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนระบุว่า ทั้ง 3 คนถูกจับกุมตัวที่เวียดนามและถูกส่งตัวกลับไทย แต่ตลอด 1 ปีที่ผ่านมานั้นยังไม่มีผู้ใดทราบชะตากรรม

น้องสาวของสยาม ยืนยันว่า 1 ปีที่ผ่านมาหลังทราบเรื่องและเดินสายร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร หากจะมีอะไรบ้างส่วนมากก็เป็นการชวนครอบครัวของเธอไปร่วมกิจกรรมกับองค์กรเหล่านั้นมากกว่า

กัญญา ธีรวุฒิ แม่ของสยามวัย 64 ปี กล่าวยืนยันเช่นเดียวกันว่า ไม่มีคำตอบอะไรเลย ทั้งจากทางกองปราบปรามหรือสถานเอกอัครราชทูตเวียดนาม หรือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

“แม่ไม่รู้ว่าจะดิ้นแบบไหน เราเจาะไม่ได้เลย ถ้าเราเจาะได้สักที่หนึ่งมันก็คงจะเจอทางออก แต่ว่าเราเจาะไม่ได้เราก็ไม่เจออะไรเลย เขามีข้อมูลให้เราสักเปอร์เซ็นต์หนึ่ง เราก็ยังพอดิ้นได้ แต่อันนี้มันไม่มีอะไรเลย ก็ทำให้เราดิ้นไม่ได้ คือดิ้นไปเราก็ไม่รู้ว่าจะไปเจอกับอะไร" แม่สยามกล่าว

กัญญา กล่าวตั้งคำถามอีกว่า ตนดิ้นออกตัวไปขนาดนั้นแล้วยังไม่มีคำตอบมันหมายถึงอะไร

"คิดถึง ห่วงใย ถ้าไม่พึ่งพระบ้างแม่คงแย่นะ แม่ไปดูพระว่าไม่ตาย พระว่ายังอยู่ เราก็โอเคทำให้มีความรู้สึกว่า สยามยังอยู่" แม่ของสยามกล่าวด้วยว่า ตัวเองเหมือนถูกปูนทับ หาทางออกไม่ได้

ขณะที่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา วงสามัญชน จัดการแสดงผ่านเฟสบุ๊คไลฟ์ ร้องเพลงให้เพื่อนฟัง ในวาระครบรอบ 1 ปีการหายตัวไปของสยามด้วย

ก่อนหน้าการหายตัว สยามและพวกลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศลาว ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุว่า สยามเป็นหนึ่งในนักแสดงของกลุ่มประกายไฟการละครซึ่งแสดงละครเรื่อง “เจ้าสาวหมาป่า” ในงานรำลึก 40 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลาฯ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีมงานของละครเรื่องนี้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอาญามาตรา 112 หลายราย รวมทั้งสยามที่ถูกเจ้าหน้าที่ออกหมายจับในสมัยรัฐบาล คสช. หลังรัฐประหารปี 2557 ต่อมาในปี 2561 สยามถูกกล่าวหาจากหน่วยงานความมั่นคงในฐานะหนึ่งในแกนนำร่วมจัดตั้งและเผยแพร่อุดมการณ์ทางความคิด “สหพันธรัฐไท” พฤษภาคม 2562 แม่ของสยามทราบว่าลูกชายพร้อมเพื่อนอีกสองคนถูกจับกุมตัวที่เวียดนามและถูกส่งตัวกลับมาที่ไทยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. แต่หลังจากนั้นสยามได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้กัญญาจะพยายามตามหาลูกชายแต่ไร้คำตอบใดๆ จากเจ้าหน้าที่

ไทม์ไลน์การเคลื่อนไหวก่อน-หลังหายตัว

5 ธ.ค. 2561

กลุ่มสหพันธรัฐไทเชิญชวนให้คนที่ติดตามวิทยุของกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวโดยใส่ชุดดำ และติดธงสัญลักษณ์ของกลุ่มซึ่งมีลักษณะคล้ายธงชาติไทย แต่เป็นธงที่มีเพียงสีขาวและสีแดง ไม่มีสีน้ำเงิน ตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร เช่น บริเวณสกายวอล์คเชื่อมห้างมาบุญครอง และต่างจังหวัด จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นมีผู้ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีไปหลายราย

7 ธ.ค.2561

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้การต้อนรับพล.ท.จันสะหมอน จรรยารัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงป้องกันประเทศลาว พร้อมพูดถึงความเคลื่อนไหวกลุ่มสหพันธรัฐไทว่าได้มีการหารือกับ พล.ท.จันสะหมอน ซึ่งยอมรับว่ามีความเคลื่อนไหวในฝั่งลาวจริงเพียงแต่กลุ่มดังกล่าวมีเพียงไม่กี่คน ส่วนที่กลุ่มสหพันธรัฐไทยังมีความเคลื่อนไหวในรายการวิทยุนั้น กระทรวงป้องกันประเทศรับปากว่าจะไปดำเนินการให้ แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่น่าเป็นห่วง เพราะไม่สามารถทำอะไรได้ มีแต่ก่อกวน และไม่ได้มีกองกำลัง เป็นเพียงการดำเนินการตามแนวความคิด

12 ธ.ค.2561 

สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน) นักเคลื่อนไหวทางการเมืองซึ่งต้องกลายเป็นผู้ลี้ภัยหลังการรัฐประหารปี 2557 และชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือ”สหายภูชนะ” และอีกคนคือ ไกรเดช ลือเลิศ หรือ “สหายกาสะลอง” ผู้ลี้ภัยทางการเมืองซึ่งอยู่ในประเทศลาว หายตัว นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องที่รู้กันในหมู่ผู้ลี้ภัยว่า ช่วงเวลาดังกล่าวที่ทางการไทยประสานกับทางการลาว ผู้ลี้ภัยจะต้องหลบจากที่อยู่เดิมสักพักหนึ่งก่อน ทว่า สุรชัยเลือกที่จะไม่หลบไปไหน 

13 ธ.ค.2561

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. และนายกฯ เข้าพบประธานประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ณ ทำเนียบ นครหลวงเวียงจันทน์

26-29  ธ.ค.2561

พบศพถูกฆ่าผ่าท้องควักอวัยวะภายในออก และนำแท่งปูนยัดเข้าไปในร่างกาย ถูกมัดแขนและขา รัดคอ ถูกทุบจนใบหน้าเละ ถ่วงลงแม่น้ำโขง ภายหลังตรวจ DNA ตรงกับสหายภูชนะ และสหายกาสะลอง ขณะที่สุรชัยยังไม่มีใครพบว่ายังมีชีวิตอยู่ หรือเสียชีวิตไปแล้ว

8 พ.ค.2562

ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ออกแถลงการณ์ ระบุว่า สยาม ชูชีพและ กฤษณะถูกจับกุมที่ประเทศเวียดนามมาระยะหนึ่งและถูกส่งตัวกลับไทยแล้ว

9 พ.ค.2562

ญาติของสยาม พร้อมทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้เข้าไปติดตามและแจ้งความการหายตัวไปดังกล่าว แต่พนักงานสอบสวนกองปราบปรามไม่รับแจ้งความ เนื่องจากยังไม่ได้รับรายงานการจับกุม

10 พ.ค.62

แม่ของสยามเดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงผู้บังคับการกองปราบปราม ขอทราบผลการจับกุมตัวสยาม

ฮิวแมนไรท์วอทช์ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางการไทยเปิดเผยที่อยู่ของ สยาม ชูชีพและกฤษณะ

สำนักงานเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ฯ ถามถึงความปลอดภัยและชะตากรรมของ 3 คนหลังมีรายงานข่าวที่ระบุว่า ทางการเวียดนามอาจส่งตัวกลับสู่ประเทศไทย พร้อมเรียกร้องให้ชี้แจงและค้นหาว่าพวกเขาอยู่ที่ใด รวมถึงได้รับอนุญาตให้เข้าถึงทนายความที่เป็นอิสระ แพทย์ และญาติของตนได้ทันที

13 พ.ค.2562

ครอบครัวสยามและกลุ่มเพื่อน เดินทางไปยังสถานเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้ทางการเวียดนามชี้แจงกรณีการหายตัว พร้อมทั้งเดินทางไปยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนและสหภาพยุโรป

14 พ.ค.2562

แม่และพ่อของสยาม ร่วมกับกลุ่มเพื่อน พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เดินทางไปที่ตึกองค์กรสหประชาชาติเพื่อเข้าให้ข้อเท็จจริงต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) เกี่ยวกับสยามเพื่อให้ช่วยติดตาม

16 ก.ค.2562 

น้องสาวของสยามเปิดเผยว่าสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ชี้แจงผ่าน ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศว่า ได้สอบถามเป็นการภายในไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเวียดนามเกี่ยวกับข้อมูลการเข้าไปในประเทศเวียดนามของสยามและเพื่อน และได้รับแจ้งว่าทางการเวียดนามไม่มีข้อมูลกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด

8 ส.ค. 2562

กลุ่มผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยในยุโรปจัดกิจกรรมหน้าสถานทูตไทย ณ ปารีส ถือภาพผู้ลี้ภัยการเมืองไทยที่ถูกอุ้มหาย อุ้มฆ่า และสูญหายไปจากประเทศลาว ตั้งแต่ปี 2559 ประกอบด้วย วุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ ‘โกตี๋’, อิทธิพล สุขแป้น หรือ ดีเจเบียร์ หรือ ดีเจซุนโฮ, สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือ สุรชัย แซ่ด่าน, ภูชนะ, สหายกาสะลอง,  ‘ลุงสนามหลวง’ หรือชูชีพ ชีวะสุทธิ์, สยาม และ กฤษณะ ทัพไทย หรือสหายยังบลัด

12 ก.ย. 2562

แม่ของสยามเดินทางมายังมหกรรมการประชุมภาคประชาชนอาเซียน (ACSC/APF 2019) ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต พร้อมกลุ่มเพื่อนๆ ของสยาม เพื่อรณรงค์กรณีการหายตัวไปของเขา พร้อมระบุด้วยว่า กรมคุ้มครองสิทธิบอกว่าไม่ให้ไปแจ้ง UN เพราะกลัวเสียภาพลักษณ์ประเทศ ก่อนจะมาก็มีสันติบาลมาตรวจสอบ

10 ต.ค. 2562

ที่ สตช. ปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ภรรยาของ สุรชัย พร้อมด้วยกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรียกร้องให้สืบสวนสอบสวนกรณีการหายตัวไปของสุรชัย พร้อมนักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคน

12 มี.ค. 2563

รูปของสยาม ธีรวุฒิ ถูกจัดแสดงในงาน 16 ปี หลังจากการบังคับให้สูญหายของทนายสมชาย “ยังอยู่ในความทรงจำ : ทวงความยุติธรรมที่หายไป” ที่หอศิลปวัฒนธรรม กทม. ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล ICJ ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (HRLA) องค์กร Protection International (PI) องค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย มูลนิธิผสานวัฒนธรรม

ทั้งนี้ หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 มีผู้ที่เห็นต่างและไม่ยอมรับรัฐบาลทหาร ลี้ภัยการเมืองไปอยู่ต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ผู้ลี้ภัยที่ไปอยู่ประเทศใกล้เคียงได้ถูกอุ้มหายไปแล้วก่อนหน้านี้ 2 ราย คืออิทธิพล สุขแป้น หรือดีเจซุนโฮ ถูกอุ้มหายในปี 2559 และวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ ถูกอุ้มหายในปี 2560

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท