คนหาดม่วงงามยื่นศาลปกครองสั่งยุติ และรื้อถอนกำแพงกันคลื่น

คนหาดม่วงงาม ยื่นศาลปกครองพิจารณา สั่งกรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมเจ้าท่า ยุติโครงการ และรื้อถอน เขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ชี้โครงการขาดการมีส่วนร่วม ไม่มีการทำ EIA ทั้งที่โครงอาจส่งผลกระทบต่อชายฝั่ง และการดำเนินโครงการไม่ได้ขออนุญาติก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ และขออนุญาตเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน

14 พ.ค. 2563 ประชาชนใน ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมชายหาดม่วงงาม ได้ยื่นศาลปกครองพิจารณาคดีกับ กรมโยธาธิการและผังเมือง และกรมเจ้าท่า โดยมีผู้ฟ้องคือ เปรมชนัน บำรุงวงค์ , พิสัน แก้วมณี , จรรยาพร บูรณะ , วีระพงศ์ เด็นมุหมัด , วิโรจน์ สนตอน ผู้ฟ้องที่ 1-5 ตามลำดับ โดยมีผู้สนับสนุนการฟ้องคดีรวมทั้งสิ้น 541 คน

รายละเอียดในคำฟ้องระบุว่า สืบเนื่องจาก กรมโยธาธิการได้ดำเนินการโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมชายฝั่งทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่ง หมู่ที่ 7 ต.ม่วงงาม ระยะทาง 710 เมตร และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมฝั่งทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่ง หมู่ที่ 7,8 และ 9 ระยะที่ 2 ระยะทาง 1,955 เมตร โดยการดำเนินการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นแบบขั้นบันได พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ริมชายหาดม่วงงาม

การดำเนินโครงการดังกล่าว ผู้ฟ้องคดี มีความเห็นว่าโครงการนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทั้งเชิงเนื้อหา และเชิงกระบวนการ ความไม่ชอบด้วยกฎหมายในเชิงเนื้อหา เนื่องจากโครงการดังกล่าวไม่สามารถทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งอย่างแท้จริง และเป็นโครงการที่ไม่จำเป็นต้องกระทำ อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบระหว่างประโยชน์ที่จะได้รับจากการดำเนินโครงการกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแล้ว โครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่คุณภาพของสิ่งแวดล้อมและการใช้ประโยชน์ของชุมชนยิ่งกว่าประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการ และขัดต่อหลักความจำเป็นและหลักความได้สัดส่วน ความไม่ชอบด้วยกฎหมายในเชิงกระบวนการ คือ

1. การดำเนินการโครงการนั้นมีความบกพร่องในการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน และไม่มีกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการตัดสินใจดำเนินโครงการอย่างเพียงพอ และรอบด้าน

2. โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล เข้าข่ายต้องประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือจัดทำรายงานการศึกษาการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ตามกฎหมาย เนื่องจากโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งหรือกำแพงกันคลื่นนั้น มีลักษณะเป็นการสร้างโครงสร้างแข็งยื่นลงไปในทะเลที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อทะเล ชายหาด และส่งผลให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งในด้านด้านน้ำของโครงการ จากบทเรียนในประเทศและต่างประเทศพบว่า การดำเนินการโครงการดังกล่าวนั้นได้ทำให้พื้นที่ชายหาดด้านหน้ากำแพงกันคลื่นหายไป เกิดการกัดเซาะชายฝั่งในด้านท้ายน้ำ เป็นเหตุให้ต้องก่อสร้างกำแพงกันคลื่นต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อม ได้ถอดถอนกำแพงกันคลื่นออกจากโครงการที่ต้องจัดทำ EIA แต่เนื่องจาก ในทางกฎหมายนั้น การดำเนินโครงการที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม จำเป็นต้อง คำนึกถึงหลักพึงระวังไว้ก่อน เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นโดยต้องทำการศึกษาผลกระทบอย่างรอบครอบ รอบด้าน ดังนั้น การดำเนินโครงการดังกล่าวจะต้องประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA

3. โครงการดังกล่าวนั้น มิได้ดำเนินการให้ถูกต้องในการขออนุญาตหรืออนุมัติตามกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก่อนการดำเนินโครงการ อันได้แก่ การขออนุญาตเจ้าท่า เพื่อดำเนินการก่อสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ และ การขออนุญาตเปลี่ยนแปลงสภาพที่ดิน

การดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งทะเลหมู่ที่ 7 ต.ม่วงงาม และโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7,8 9 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา (ระยะที่ 2) หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้ชายฝั่งทะเลม่วงงามเกิดการเปลี่ยนแปลง พื้นที่ชายฝั่งทะเลจะหายไป เกิดการกัดเซาะชายฝั่งในด้านเหนือของโครงการ ซึ่งจะทำให้ประชาชนม่วงงามและพื้นที่ใกล้เคียงที่เคยอาศัยใช้ประโยชน์หาดทรายในการนันทนาการ การประมงริมชายฝั่ง ไม่สามารถที่จะดำเนินตามวิถีชีวิตอันเป็นปกติได้

มิหนำซ้ำการดำเนินโครงการดังกล่าวนี้จะเป็นการซ้ำเติมเพิ่มปัญหาทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ชายหาดใกล้เคียง ซึ่งในประเด็นนี้เป็นจุดมุ่งหมายสำคัญของผู้ฟ้องคดีทั้งห้าในการออกมาปกป้องชายหาดม่วงงาม ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 และประชาชนผู้สนับสนุนการฟ้องคดี 541 คน จึงนำคดีมาสู่ศาลปกครอง

ประชาชนหลักร้อยไว้อาลัยหน้าหาดม่วงงาม โครงการกำแพงกันคลื่นเดินหน้าต่อ

โดยขอศาลได้โปรดพิจารณาพิพากษา ว่า 1.โครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา และโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7, 8, 9 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา (ระยะที่ 2) ของกรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นโครงการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้ยกเลิกการดำเนินโครงการดังกล่าวทั้งหมด

2 ขอให้เพิกถอนการอนุญาตที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 อนุญาตให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 เข้าดำเนินการโครงการบนพื้นที่ชายหาด ในบริเวณหมู่ที่ 7, 8 และ 9 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา

3 ให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกัน รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามโครงการสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งหมู่ที่ 7 ต.ม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ออกจากบริเวณชายหาดม่วงงามทั้งหมด และให้ปรับสภาพพื้นที่ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยงบประมาณของผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสอง ผู้ฟ้องคดีทั้ง 5 ประชาชนชาวม่วงงาม และผู้ที่มีหัวใจรักชายหาด หวังว่าการนำคดีมาสู่ศาลในครั้งนี้จะเป็นการปกป้อง พิทักษ์รักษาหาดทรายไว้ให้คงอยู่สืบต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท