ภาพจากเพจชัยธวัช ตุลาธน

14 พ.ค. 2563 ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เสนอทางออกประเทศไทย ก้าวไปสู่ New Normal ด้วยการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยระบุว่าผ่านมาแล้ว 7 สัปดาห์นับตั้งแต่เริ่มมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 และอีกประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะถึงการเปิดสมัยประชุมสามัญของรัฐสภาอีกครั้ง ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันมาตั้งแต่ต้นว่าความสำคัญของการแก้ปัญหาไม่ใช่การที่รัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาด แต่คือการมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ มีการวางแผนอย่างรอบคอบ มีการประเมินผลกระทบของมาตรการที่มีต่อประชาชนอย่างรอบด้าน พร้อมกับมีมาตรการเยียวยาประชาชน พร้อมกับวางแผนในการรับมือต่อสถานการณ์ที่ผันแปรอย่างเพียงพอ มีการเปิดเผยข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วนและมีการสื่อสารกับประชาชนอย่างเข้าถึง

เขาย้ำว่า สถานการณ์ในปัจจุบันมียอดผู้ติดเชื้อรายวันในรอบ 17 วันที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 10 คนเกือบทุกวัน มีเพียงวันเดียวที่ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 18 คน แต่ก็เป็นการติดเชื้อในพื้นที่กักกันโรคซึ่งควบคุมอาณาบริเวณได้ มีจังหวัดที่ไม่เคยมีรายงานผู้ติดเชื้อเลยหรือไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ใน 28 วันที่ผ่านมา 59 จังหวัด ตัวเลขเหล่านี้น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ประชาชนได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการระมัดระวังตัวเองเป็นอย่างดีตามที่รัฐบาลเรียกร้อง

ชัยธวัช เห็นว่าปัญหาที่กำลังลุกลามเข้ามาแทนที่ คือผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากไวรัสโควิด-19 และมาตรการของรัฐ โดยเฉพาะกับพี่น้องประชาชนทั่วไปที่เป็นผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับผลกระทบอย่างสาหัส และไม่อาจฟื้นตัวได้เองในเร็ววันหากปราศจากนโยบายรัฐ ซึ่งรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตั้งแต่ในอดีตมามักบกพร่องเสมอในการเข้าใจ ใส่ใจ และแก้ไขปัญหาของประชาชนกลุ่มนี้อย่างถูกต้องเหมาะสม แต่รัฐบาลกลับยังคงพยายามให้ข้อมูลโดยให้เป็นไปในทางที่ทำให้ประชาชนหวั่นวิตก อ้างถึงความกลัวการระบาดซ้ำ และกรณีตัวอย่างบางตัวอย่างมาเป็นตัวแทนของสถานการณ์ที่ดีขึ้น เพื่ออ้างในการต่ออายุการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีกำหนดว่าจะยกเลิกเมื่อใด ซึ่งรัฐบาลต้องเลิกสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่าการมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นการควบคุมการระบาดของโรค เพราะรัฐบาลสามารถควบคุมการระบาดของโรคได้โดยวิธีอื่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เช่น พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน การที่รัฐบาลยังคงหาเหตุในการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไปทั้งที่ไม่เหลือเหตุอันควรให้ใช้แล้วจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่าเหตุผลที่แท้จริงคือเรื่องทางการเมือง การป้องกันไม่ให้ประชาชนแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับรัฐบาล

ทั้งนี้ชัยธวัช กล่าวว่า รัฐบาลควรตระหนักว่าการจะอยู่รอดในสถานการณ์โควิด-19 ได้นั้นไม่ได้อยู่ที่การอยู่ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่เห็นจุดสิ้นสุด ซึ่งควรเปิดให้ประชาชนดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยที่ยังมีการป้องกันหรือลดความเสี่ยงในการระบาดของโรคได้ คือ New Normal ที่สังคมต้องการ ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นได้ด้วยการยกเลิกการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องเข้าไปสู่ New abnormal แทน