Skip to main content
sharethis

ตู้ปันสุขกลายเป็นตู้ปันทุกข์ เพราะความคิดมาก ตั้งกล้องจ้องจับคนเห็นแก่ตัว โกยได้โกยเอา ไม่หลงเหลือเผื่อแผ่ผู้อื่น

แน่ละ คนทำเช่นนั้นสมควรประณาม แต่ถามจริง สังคมไทยไร้เดียงสากระทั่งไม่รู้เลยหรือว่าจะเกิดปัญหาอย่างนี้ ผู้ให้ส่วนใหญ่น่าจะทราบ เอาของใส่ตู้แล้วต้องเดินจากไปไม่เหลียวกลับ เพราะถ้ามัวจ้องจับ ก็พะวักพะวน ขุ่นข้อง คับใจ เป็นทุกข์เสียเปล่าๆ

ถ้าจะหาวิธีจัดการ ก็ให้ชุมชนเข้ามาดูแลกันเอง คนบริจาคต้อง “ธรรมใจ” ไม่ใช่มาตั้งกล้องจ้องจับ แล้วสื่อก็ไปเอาคลิปมาวิพากษ์วิจารณ์สนุกปาก คนนี้ทำท่าซารางเฮโยน่ารัก คนนี้น่าชัง มันต่างตรงไหนกับการทำกรงดัก แล้วเอาอาหารไปวางเป็นเหยื่อล่อ

มิหนำซ้ำ ผู้นำประเทศกลับสนับสนุนให้ทำอย่างนั้น ไม่รู้ใช้กี่เซลล์สมองคิด หรือชอบให้ประชาชนจ้องจับผิดกันเอง โทษกันเอง ในช่วงวิกฤต

ตลกกว่านั้น รัฐยังฮุบตู้ปันสุข ซึ่งประชาชนริเริ่มมีน้ำใจช่วยเหลือกันเอง ไปเป็นงานอีเวนต์ของหน่วยงานรัฐ เปิดมหกรรมจัดตั้งตู้ติดป้ายหน่วยงานเต็มไปหมด ทั้งจังหวัด อำเภอ กอ.รมน. ฯลฯ ทั้งที่รัฐมีหน้าที่และมีงบประมาณช่วยเหลืออยู่แล้ว หรือกลัวไม่ได้หน้า

ปัญหาของตู้ปันสุขคือทัศนะ “คนจนในจินตนาการ” ต้องพับเพียบเรียบร้อย เห็นอกเห็นใจกัน ตั้งแถวรอรับถุงยังชีพ หรือผ้าห่มกันหนาว จากคุณหญิงคุณนาย ผู้ลากมากดี หน่วยงานรัฐทั้งหลาย

พอเจอคนเห็นแก่ตัวก็ยัวะ เหมือนจนเครียดกินเหล้า ควรจะทำตัวดีๆ น่าสงสาร รู้จักใช้ชีวิตพอเพียง ขยันทำมาหากิน ค่อยน่าช่วยหน่อย

ทั้งที่คนทุกชนชั้นก็มีทั้งเห็นแก่ตัว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ลองตั้งกล้องตามชีวิตคนมีสตางค์ดูบ้างเป็นไร ก็มีตั้งเยอะที่มักได้ ไร้มารยาท เอารัดเอาเปรียบ ปากหวานก้นเปรี้ยว บ้างก็เข้าวัดบวชชีพราหมณ์แต่จุกจิกคับแคบ นินทาคนอื่น

แต่คนจนในจินตนาการต้องสัตย์ซื่อจงรัก น่าสงสาร จึง “น่าช่วยหน่อย”

คนจนต้องทำตัวดีๆ เพื่อรอรับการสงเคราะห์จากสังคมหรือจากรัฐ ครั้นมาโวยวายไม่ได้ห้าพัน ปลัดคลังก็บอกว่ามีการเมืองเบื้องหลัง หรือทำเป็นดราม่า เช่นป้าร่ำไห้จนได้เงินดาราช่วยไปหลายหมื่นบาท ความจนต้องให้ข้าราชการ ข้าของแผ่นดิน เข้าไปพิสูจน์แยกแยะ ว่าใครควรได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำให้ข้าราชการทำงานหนัก ไม่ได้หยุดพักผ่อน ฉะนั้นที่เรียกร้องให้ช่วยถ้วนหน้า ก็ทำไม่ได้ เดี๋ยวคนดีไม่มีงานทำ

พูดอย่างนี้ไม่ใช่มองข้ามความมีน้ำใจ (ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ใช่มีแค่คนไทย อย่างที่หมอวรงค์ตีปี๊บด่า “ทาสตะวันตก” เพราะตู้ปันสุขเอามาจากโครงการ Pantry of Sharing ในฝรั่งเศส เยอรมันก็แขวนถุงอาหารให้คนจน ซึ่งสื่อตีข่าวว่า No Video, No Camera, No Drama. Just Pure Goodwill แม้บางพื้นที่ต้องยกเลิก เพราะมีคนจรจัดไปนั่งเฝ้า คอยดูไม่ให้ใครเอาของเยอะ จนทะเลาะกันรุนแรง)

ความเอื้อเฟื้อเพื่อนมนุษย์เป็นธรรมชาติสัตว์สังคม ตั้งแต่ก่อนมีศาสนา เพราะเรารู้ว่าอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้ ผู้ที่ยังพอมีฐานะ มีความหวังกับอนาคต จึงมักช่วยเหลือผู้ตกทุกข์โดยหวังจรรโลงสังคม ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนชั้นกลางค่อนไปทางระดับบน ที่มีความมั่นคงสูงกว่าผู้อื่น

นี่พูดจริงนะ ความมั่นคงในชีวิต ทำให้คนชั้นกลางมีพื้นที่ของความดีมีน้ำใจได้มากกว่า จะมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่ตัวบุคคล ต่างกับคนจนซึ่งดิ้นรนปากกัดตีนถีบ บางครั้งต้องเอาตัวรอดก่อน แต่เขาก็สามารถแสดงความมีน้ำใจในด้านอื่น

การเรียกร้องคนจนจึงอยู่บนฐานของความไม่เท่าเทียม ซ้ำร้าย กดให้อยู่ในโอวาท ต้องทำตัวดี พับเพียบเรียบร้อย ในสายตาของคนชั้นกลาง คนชั้นบน และอำนาจรัฐ

ในสังคมไทยซึ่งไม่เท่าเทียมทางโอกาส ทำให้คนชั้นกลางขยายตัวจากการก้าวกระโดดใหญ่ทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่ปลายทศวรรษ 2520 มีอำนาจมีเสียงดัง กระทั่งเกิดการเมือง 2 นคราประชาธิปไตย คนชั้นกลางเชื่อ “คนดี” ปฏิเสธนักการเมืองที่คนชนบทเลือกตั้ง มองคนจนคนชนบท โง่ ถูกซื้อ จน เครียด กินเหล้า ฯลฯ แต่ก็ยังสงสาร ภัยแล้งภัยหนาวก็ยังมีน้ำใจช่วยบริจาค แถมรักธรรมชาติ ขับ SUV ไปชื่นชมวิถีเกษตรชนบท

จนกระทั่งเกิดม็อบเสื้อแดง คนจนคนชนบทที่บังอาจหือ ยกทัพจากเหนืออีสานบุกกรุง ทวงอำนาจ ก้าวร้าว รุนแรง คนชั้นกลางยอมรับไม่ได้ ทำไมมันไม่อยู่ในโอวาท ทำตัวดีๆ รอรับความช่วยเหลือ

มันจึงกลายเป็น “ควายแดง” เผาบ้านเผาเมือง ถูกฆ่าฟันถูกบดขยี้ จนรัฐประหารกลับมามีอำนาจ แล้วก็สถาปนารัฐที่พยายามให้คนจนกลับไปอยู่ในโอวาท อยู่ใต้การสงเคราะห์พึ่งพาจำแนกแยกแยะโดยรัฐอีกครั้ง

 

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net