ครบ 6 ปี รัฐประหาร นร.-นศ. เรียกร้อง สว.ยุติหน้าที่ แก้ รธน.ให้ตั้ง สสร.ได้ และตัดงบกองทัพ

ในวาระครบ 6 ปี คสช.รัฐประหารรัฐบาลพลเรือน เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยร่วมกันแสดงออกเพื่อเรียกร้องให้ สว.เลิกทำหน้าที่ และแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตั้ง สสร.เพื่อร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน และยังวิจารณ์ความไม่โปร่งใสในการใช้งบของกองทัพ 

22 พ.ค.2563 เวลา 9.50 น. เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนป.) และกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ร่วมกันถือป้ายผ้าแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ บริเวณด้านหน้าทางเข้ารัฐสภา เกียกกาย กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) ทำเนียบรัฐบาลและไปสิ้นสุดที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย การแสดงออกครั้งนี้เนื่องจากเป็นวาระครบรอบ 6 ปี คณะรักษาความสงบแห่งชาติทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 

นักกิจกรรมทั้ง 8 คนได้ทำกิจกรรมที่หน้ารัฐสภา เกียกกายเป็นที่แรก โดยนำป้ายผ้าที่มีข้อความที่เรียกร้องสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ซึ่งมาจากการแต่งตั้งโดย คณะรัฐประหาร ยุติบทบาทการทำหน้าที่ และให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร) เพื่อร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน   

จากนั้นทั้ง 8 คนเดินทางไปที่ บก.ทบ.ต่อ ก่อนที่พวกเขาจะได้เริ่มทำกิจกรรมทหารที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณทางเข้าได้ออกมาห้ามนักกิจกรรมไม่ให้ชูป้ายที่หน้าป้ายกองทัพบกและได้นำรั้วเหล็กมาล้อมป้ายเอาไว้ ทำให้นักกิจกรรมต้องไปทำกิจกรรมที่บาทวิถีด้านข้างป้ายแทน 

พวกเขาได้นำป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “กองทัพสีเทา ตัดงบกองทัพแก้ COVID” โดยผู้จัดอธิบายว่ากองทัพสีเทาหมายถึงการที่กองทัพมีการใช้งบอย่างไม่โปร่งใสและตรวจสอบไม่ได้ และเรียกร้องให้มีการตัดงบกองทัพด้วย จากนั้นจึงเดินทางต่อไปที่ทำเนียบรัฐบาล

 

เมื่อนักกิจกรรมทั้ง 8 คนเดินไปถึงประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล(ตรงข้ามสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน) ได้นำป้าย “2,191 วัน กับเผด็จการ” ซึ่งเป็นจำนวนวันทั้งหมดตั้งแต่ คสช.ทำรัฐประหารรัฐบาลยิ่งลักษณ์เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557  หรือวันนี้เมื่อ 6 ปีที่แล้ว  เสร็จแล้วกลุ่มนักกิจกรรมได้เดินทางไปต่ออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นที่สุดท้าย 

เมื่อพวกเขาเดินทางถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยแล้ว ได้พยายามนำพวงหรีด ที่มีข้อความตัวเลข 2,191 วัน ไปวางที่บริเวณอนุสาวรีย์ แต่ตำรวจไม่อนุญาตให้เข้าไปในบริเวณฐานของอนุสาวรีย์ที่มีรั้วกั้นเอาไว้ได้ แต่ทางผู้จัดกิจกรรมได้อธิบายกับตำรวจว่าที่มาทำกิจกรรมตรงนี้เพราะเข้าใจว่าเป็นพื้นที่สาธารณะ แต่ตำรวจชี้แจงว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ กทม. ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะ

ทั้งนี้ทางกลุ่มจึงนำป้ายผ้าที่เตรียมไว้มาชูบนเกาะกลางด้านตรงข้ามอนุสาวรีย์แทนพร้อมชูป้ายผ้าที่เตรียมมาวันนี้โดยมีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นฉากหลัง  

นอกจากการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์และป้ายผ้าต่างๆ แล้วทางกลุ่มได้ออกแถลงการณ์ที่กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อการรัฐประหารครั้งนี้และการทุจริตที่เอื้อต่อนายทุนและกองทัพ อีกทั้งยังร่างรัฐธรรมนูญที่มีกลไกต่ออำนาจให้กับคณะรัฐประหารได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งในปัจจุบัน  

ในแถลงการณ์ยังระบุถึงข้อเรียกร้องทั้งหมด 3 ข้อ คือ ข้อแรกกองทัพต้องตัดงบประมาณมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ข้อสองวุฒิสมาชิกต้องยุติบทบาทหน้าที่ลงเนื่องจากเป็นองค์กรที่มีไว้เพียงเพื่อต่ออายุให้กับคณะรัฐประหารและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเท่านั้น และข้อสาม คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2560 เพื่อให้มีช่องทางในการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีที่มาจากประชาชน และเปิดให้มีการรับฟังเสียงของประชาชน 

แถลงการณ์ฉบับเต็มของคนป.และกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย

2 พฤษภาคม 2557 นายทหารกลุ่มหนึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในขณะนั้น ได้รวมตัวกันในนาม “คณะรักษาความสงบแห่งชาติ” (คสช.) ยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน 

พวกเขาบอกว่าจะมาปราบนักการเมืองโกงกิน 

พวกเขาบอกว่าจะคืนความสุขให้คนในชาติ 

พวกเขาบอกว่าจะต้องปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้ง 

พวกเขาขอเวลาอีกไม่นาน… แต่พวกเขากลับอยู่ต่อมาอีกนานถึง 2,191 วัน 

เป็น 2,191 วันที่พวกเขากระทำย่ำยีต่อประเทศไทยอย่างเลวร้ายที่สุด พวกเขาทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวง พวกเขาล่วงละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนคนไทยด้วยกันเอง พวกเขาทำร้ายศัตรูทางการเมืองจนบาดเจ็บล้มตาย พวกเขาเอาเงินภาษีที่ประชาชนหามาอย่างยากลำบากไปตอบแทนแก่นายทุนและกองทัพ พวกเขาไม่ได้แตกต่างไปจากนักการเมืองที่พวกเขาตั้งรังเกียจเป็นหนักหนา 

และที่ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้น พวกเขาเสพติดอำนาจ และอยากอยู่ในอำนาจต่อไปให้ยาวนานที่สุด จึงคิดวางแผนสืบทอดอำนาจต่อไป โดยมีรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นมาเอง และวุฒิสภาที่แต่งตั้งพวกพ้องของตัวเองเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้พวกเขาได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ซึ่งพวกเขาก็ยังคงกระทำย่ำยีต่อประเทศแห่งนี้ต่อไปเฉกเช่นเดียวกับสมัยที่ยังเป็นคณะรัฐประหาร 

ที่ผ่านมา 2,191 วัน เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า คสช. และรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งสืบทอดอำนาจต่อมา มีพฤติกรรมและการใช้อำนาจที่ไม่อาจเป็นที่ยอมรับได้ในสังคมประชาธิปไตย สมควรที่จะออกไปหรือถูกขับไล่ออกไปจากตำแหน่งทางการเมืองโดยเร็วที่สุด 

ในการนี้เราจึงขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการต่อ 2 หน่วยงานที่มีส่วนสำคัญในการค้ำจุนระบอบรัฐประหาร ได้แก่ กองทัพ วุฒิสภา รวมไปถึงให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้ 

1. กองทัพซึ่งเป็นกำลังหลักในการทำรัฐประหาร จะต้องถูกตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นหรือไม่สมเหตุสมผล ผ่านช่องทางการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2564 ในรัฐสภา โดยเฉพาะงบประมาณซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ จะต้องถูกตัดลงทั้งหมด เพื่อนำเงินไปใช้ในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 แทน เพื่อเป็นการรับผิดชอบที่กองทัพเป็นต้นตอของระบอบเผด็จการทหารที่ปล้นอำนาจและสร้างความทุกข์ยากกับประชาชนมาตลอด 6 ปี อีกทั้งไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะให้งบประมาณจำนวนมหาศาลแก่หน่วยงานที่ประชาชนตรวจสอบไม่ได้  

2. วุฒิสภาชุดนี้ที่มาจากการเลือกโดย คสช. จะต้องยุติบทบาทลง เนื่องจากเป็นองค์กรที่มีไว้เพื่อเลือก พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อสืบทอดอำนาจ คสช. และป้องกันไม่ให้มีใครแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเท่านั้น ไม่ก่อประโยชน์ใดๆ ที่คุ้มค่าแก่งบประมาณแผ่นดินเลย จึงไม่มีความจำเป็นที่ประชาชนต้องจ่ายภาษีเลี้ยงดูวุฒิสภาชุดนี้ต่อไป  

3.ให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อเปิดช่องให้มีการเลือกตั้ง สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มีที่มาจากประชาชน รับฟังเสียงของประชาชน ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ถูกออกแบบมาเพื่อสืบทอดอำนาจคณะรัฐประหาร รับรองการคงอยู่ของระบอบเผด็จการ ผ่านการประชามติโดยวิธีจับกุมคุมขังผู้เห็นต่างเฉกเช่นรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน 

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่เราเรียกร้องในวันนี้จะเป็นแนวทางที่นำประเทศไทยออกจากระบอบรัฐประหารสู่วิถีทางประชาธิปไตย มิใช่ตกอยู่ในวังวนที่คณะรัฐประหารสร้างขึ้นเหมือนกับ 2,191 วันที่ผ่านมา 

 

เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา เคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนป.) 

กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย (DRG)  

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท