หนึ่งในเรื่องที่เคยทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ COVID-19 คือการที่เป็นไปได้ว่าผู้ที่หายป่วยแล้วอาจจะกลับมาเป็นโรคหรือติดเชื้อซ้ำ เรื่องนี้มีการวิจัยจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคติดต่อในสิงคโปร์ระบุว่า คนไข้ COVID-19 ที่ป่วยเกิน 11 วันไปแล้วจะไม่สามารถแพร่เชื้อได้อีกถึงแม้ว่าในบางกรณียังมีผลการตรวจโรคเป็นบวกก็ตาม

เมอร์ไลออนและสิงคโปร์ ภาพถ่ายเดือนพฤศจิกายนปี 2009 (แฟ้มภาพ/ประชาไท)

สื่อบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า มีงานวิจัยจากศูนย์ด้านโรคติดต่อแห่งชาติสิงคโปร์กับวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์สิงคโปร์ระบุว่าคนไข้ที่ป่วยมาแล้วมากกว่า 11 วัน จะไม่สามารถทำให้เชื้อแพร่ระบาดต่อได้ถึงแม้ว่าจะจะยังมีผลการตรวจเป็นบวก

ทีมนักวิจัยเหล่านี้ทำการสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคนไข้ในสิงคโปร์ 73 ราย ระบุว่าการตรวจพบว่าผลเป็นบวกนั้นไม่ได้หมายความว่าคนไข้จะสามารถแพร่เชื้อได้หรือไวรัสในตัวคนไข้จะยังทำงานอยู่ ทั้งนี้ยังระบุอีกว่าไวรัสไม่สามารถคัดแยกหรือนำมาเพาะเชื้อได้อีกหลังจากที่เวลาป่วยผ่านไปแล้ว 11 วัน

การวิจัยล่าสุดนี้มีความสำคัญต่อนโยบายการปล่อยตัวคนไข้ เกณฑ์การปล่อยตัวคนไข้ในปัจจุบันของสิงคโปร์ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้ได้รับผลการตรวจเป็นลบหรือไม่ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าคนไข้ยังติดเชื้อหรือแพร่กระจายเชื้อได้หรือไม่

ยุทธศาสตร์การปฏิบัติต่อคนไข้ COVID-19 ของสิงคโปร์อาศัยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั้งจากในประเทศและจากต่างชาติ โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้พิจารณาหลักบษฯทางวิทยาศาสตร์ล่าสุดเพื่อนำไปปรับเป็นแผนการจัดการกับคนไข้

ในสิงคโปร์นั้นจำนวนผู้ป่วยที่ออกจากโรงพยาบาลอยู่ที่ 17,276 ราย จากผู้ป่วยสะสม 33,249 ราย และกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ แถลงว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เมื่อ 28 พ.ค. อยู่ที่ 373 ราย ส่วนจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 23 ราย โดยไม่เพิ่มมาตั้งแต่วันที่ 21 พ.ค.

เรียบเรียงจาก

Covid-19 Patients Not Infectious After 11 Days: Singapore Study, Bloomberg, 24-11-2020