'สมาคมสิทธิเสรีภาพ' เรียกร้องรัฐบาลกัมพูชาเร่งสืบสวนการหายตัวไปของ 'วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์' พี่สาวยืนยันไม่ใช่แอดมินเพจ-ดังศาลยกฟ้องไปแล้ว 'จุลจักร จักรพงษ์' โพสต์โซเชียล Meanwhile in Southeast Asia....#whereiswanchalerm? ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทยขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานและติดตามให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน
6 มิ.ย. 2563 จากกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองหลังไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ถูกพาตัวขึ้นรถหายตัวอย่างลึกลับขณะแวะซื้อของหน้าอาคารที่พักในช่วงเย็นของวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา กระทั่งเกิดกระแสติดแฮชแท็ก#savewanchalearm รวมถึงการออกแถลงการณ์ของกลุ่มต่าง ๆ และการจัดกิจกรรมเรียกร้องความยุติธรรมบริเวณสกายวอล์กหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง 'ขอให้รัฐบาลกัมพูชาเร่งสืบสวนสอบสวนการอุ้มหายนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์' ระบุว่าตามที่เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2563 นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 37 ปี ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยที่พักอาศัยอยู่ประเทศกัมพูชาถูกอุ้มหายตัวไปจากหน้าคอนโดที่กรุงพนมเปญ เมื่อเวลา 17.54 น.ขณะเดินลงมาซื้อลูกชิ้นปิ้งหน้าคอนโด ดังที่มีรายงานข่าวตามสื่อมวลชนทั่วไป นั้น
สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน (สสส.) เป็นห่วงต่อชะตากรรมของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นอย่างยิ่งเนื่องจากการอุ้มหายผู้ลี้ภัยชาวไทยในประเทศเพื่อนบ้านหลายคนก่อนหน้านี้ได้ถูกอุ้มหายจนไม่ทราบชะตากรรมจนถึงขณะนี้ สสส.เห็นว่ารัฐบาลกัมพูชาได้รับรองกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง จึงมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตามกติกาดังกล่าวที่ระบุว่า “มนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตมาแต่กำเนิด สิทธินี้ต้องได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย บุคคล จะต้องไม่ถูกทำให้เสียชีวิตโดยอำเภอใจ” ด้วยเหตุดังกล่าว สสส.จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ทราบชะตากรรมของนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ และควรเปิดเผยข้อมูลการควบคุมตัว ให้ญาติและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบโดยเร็วที่สุด หรือหากเป็นการร้องขอของรัฐบาลไทยก็ต้องแจ้งให้ทราบเช่นเดียวกัน
พี่สาวยืนยันไม่ใช่แอดมินเพจ-ดังศาลยกฟ้องไปแล้ว
มติชนออนไลน์ ได้สอบถามไปยังนางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาวซึ่งเป็นผู้คุยโทรศัพท์กับนายวันเฉลิมระหว่างถูกนำตัวขึ้นรถโดยกลุ่มชายที่พูดภาษาต่างประเทศ นางสาวสิตานันกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่าในความรับรู้ของครอบครัวในขณะนี้ ยังไม่ทราบว่านายวันเฉลิมยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะยังไม่มีข้อมูลแน่ชัด ทางผู้ส่งข่าวซึ่งอยู่ต่างประเทศและติดต่อกันตลอด ยังบอกให้หนักแน่นไว้ก่อน แต่ถ้าเกินวันนี้ (6 มิ.ย.) ก็ต้องทำใจแล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไป สภาพจิตใจของครอบครัว คุณแม่ทำใจไว้แล้วประมาณ 6 ปีตั้งแต่ลี้ภัย โดยบอกว่าลูกได้เลือกทางเดินของตัวเองแล้ว แต่ตนยังทำใจไม่ได้ เพราะคุยกันทุกวัน ไม่รู้จะพูดอย่างไร สำหรับสาเหตุที่ถูกอุ้ม ยอมรับว่ามืดแปดด้าน เพราะเท่าที่คุยกันนายวันเฉลิมไม่ได้เคลื่อนไหวหรือยุ่งเรื่องการเมืองแล้วแต่หันมาสนใจทำธุรกิจที่กัมพูชาเป็นหลักจึงไม่ได้ระวังตัว
"เราก็พยายามบอกน้องแบบนี้ คือให้มาทางธุรกิจ แต่เรื่องที่เขาไปทำอะไรนอกเหนือจากที่เขาเล่าให้ฟัง เราก็ไม่รู้จริง ๆ เขาเองก็ไม่ได้ระวังตัว เท่าที่คุยกัน เขาก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมืองแล้ว เลยงง เขาไม่ได้เซฟตัวเอง ลงไปซื้อของปกติ คนเราถ้ารู้ว่ามีอะไร ต้องระวังตัวหรือไม่ แต่ด้วยความที่เขาไมได้ยุ่ง ไม่ได้เคลื่อนไหวแล้ว จึงไม่ระวังตัว ส่วนเรื่องเป็นแอดมินเพจ เคยถามเขา เขาก็บอกว่าไม่ได้เป็นแอดมินเพจอะไรเลย มีแต่เฟสบุ๊คส่วนตัวอย่างเดียวเท่านั้นศาลก็ยกฟ้องไปแล้ว ไม่ทราบว่าทำไมมีคนนำไปโยง เราเห็นข่าวในทวิตเตอร์ อยากบอกตรงนี้ว่าน้องเราไม่เคยเป็นแอดมินเพจไหนจากสำนวนการเขียนก็ไม่ใช่อยู่แล้วและหากได้เงินจากทักษิณ 100 ล้านจริง ๆ ครอบครัวคงไม่ลำบากแบบนี้" สิตานัน ระบุ
ส่วนประเด็นลี้ภัยไปยุโรป ปลายปีที่แล้วน้องบอกว่ามีคนมาถามว่าจะลี้ภัยไปยุโรปหรือไม่ เพราะห่วงความปลอดภัย จากการที่มีผู้ลี้ภัยถูกอุ้ม เลยบอกให้ตัดสินใจด้วยตนเอง เราให้คำปรึกษาไปในแนวทางว่าถ้าไปฝรั่งเศสจะไปทำอะไร จะอย่างอย่างไร อยู่ที่นี่เขามีพรรคพวกที่มีคอนเน็คชั่น มีคนรู้จัก เราเลยถามเขาว่าถ้าไม่ยุ่งเรื่องการเมืองแล้วมาโฟกัสเรื่องธุรกิจดีไหม เพราะคนที่สนิทกับเขามีที่ดินว่างเปล่าที่ทำการเกษตรได้ พอเกิดโควิด เกิดปัญหาเรื่องอาหาร ก็มาคุยกันว่าเดี๋ยวจะปลูกอ้อย ปลูกข้าว ปลูกกล้วยหอม มีนักธุรกิจที่กัมพูชาได้สัมปทานปลูกกล้วยหอมมา เรามองว่าการเมืองมันซาไปแล้ว ไม่มีอะไร ทำไมจึงกลับมาเกิดเรื่องนี้ได้ก็ไม่รู้จริง ๆ” นางสาวสิตานันกล่าว
นางสาวสิตานันกล่าวว่าส่วนข่าวว่าทหารไปหาคุณแม่ที่จังหวัดอุบลราชธานี จริง ๆ แล้วเป็นตำรวจ ไปถามว่าวันเฉลิมอยู่ไหม กลับมาบ้านหรือเปล่า ซึ่งตนและคุณแม่มองว่าเป็นการมาติดตามคนหนีคดีตามปกติมากกว่า ส่วนจะเชื่อมโยงกับการพาตัวน้องชายครั้งนี้หรือไม่ ตนไม่ทราบจริง ๆ ก่อนหน้านี้ น้องชายทราบว่าถูกติดตามจากชายแปลกหน้าคนไทย 3 ราย จึงแอบถ่ายภาพไว้ขณะอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งและบอกเพื่อน ๆ ให้รับทราบ ตนยังบอกให้ระวังตัว แต่เพื่อนเขาเคยเตือนว่าให้ย้ายที่อยู่ ความรู้สึกในขณะนี้ตนไม่ได้โกรธเคืองใคร เราแค่อยากได้น้องชายเราคืน หรือถ้าไม่คืนก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว มันเป็นเรื่องของความคิดเห็นที่แตกต่าง เหมือนจอดรถแล้วทะเลาะกันยิงกัน ย้อนกลับมาไมได้ ต้องคิดว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไร ทำอะไรได้บ้างกับการเรียกร้องสิทธิ
'จุลจักร จักรพงษ์' โพสต์โซเชียล Meanwhile in Southeast Asia....#whereiswanchalerm?
ด้าน 'เล็ก ฮิวโก้' หรือ 'จุลจักร จักรพงษ์' นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง อดีตวงสิบล้อ ได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง ที่ใช้ชื่อว่า hugolek ซึ่งเป็นภาพดำสนิท แสดงออกซึ่งความเศร้าสลด ต่อกรณีการหายตัวไปของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมแคปชั่นภาษาอังกฤษที่ระบุว่า Meanwhile in Southeast Asia....#whereiswanchalerm? ทั้งนี้ มีแฟนคลับจำนวนมากเข้ามาคอนเมนต์ชื่นชม และขอบคุณที่ร่วมออกมาแสดงออกต่อกรณีดังกล่าว
ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสาน และติดตามให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนต่อไป
ดร.รยุศด์ บุญทัน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย กล่าวถึงกรณีการลักพาตัวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งลี้ภัยทางการเมือง อยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ว่าถึงแม้จะยังไม่มีการรายงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ถึงสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุของกลุ่มคนร้าย อย่างไรก็ดีหากพิจารณาจากบริบทปัจจุบันแล้ว คงยากที่จะตัดสาเหตุทางด้านการเมืองออกไป
“พรรคสามัคคีไทยเชื่อว่า ไม่ควรมีใครต้องถูกทำร้ายหรือต้องสูญเสียชีวิต เพียงเพราะความเห็นต่างทางการเมือง เราจึงขอประณามผู้ก่อเหตุและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบหาความจริงและนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ การให้ความยุติธรรมและความช่วยเหลือประชาชนคนไทยควรเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของรัฐ ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะพำนักอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทยหรือไม่ก็ตาม สุดท้ายนี้ทางพรรคสามัคคีไทยขอให้นายวันเฉลิมปลอดภัยและได้กลับบ้านในเร็ววัน” ดร.รยุศด์ กล่าว
ดร.รยุศด์ กล่าวอีกว่า ในระบอบประชาธิปไตย การเคารพความเห็นต่างทางการเมือง ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะสร้างการพัฒนาและขับเคลื่อนสังคม จากกรณีของ นายวันเฉลิม หากศาลยังไม่พิพากษาถึงที่สุดว่า มีความผิดบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายในฐานะพลเมืองของประเทศ ดังนั้น จึงไม่ควรมีคนไทยคนใดไม่เฉพาะกรณีของ นายวันเฉลิม ที่ต้องถูกทำร้ายหรือถูกฆ่า เพราะความเห็นต่างทางการเมืองอีกต่อไป ตนและพรรคสามัคคีไทย จึงขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสาน และติดตามให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนต่อไป
รองโฆษกตำรวจเผยยังไม่มีรายงาน
พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ อายุ 37 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนักกิจกรรมด้านเด็กและเยาวชน หายตัวไปในประเทศกัมพูชา และมีพยายบุคคลออกมายืนยันว่า นายวันเฉลิม ถูกอุ้มขึ้นรถสีดำก่อนหายตัวไป ว่า เมื่อวานนี้ตนได้ตอบไปแล้วว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ และขอยืนยันว่าปัจจุบันก็ยังไม่มีรายงานในเรื่องดังกล่าว
ตนเองก็รู้จากสื่อเท่านั้น แต่จริงเท็จแค่ไหนตนตอบไม่ได้ เพราะกรณีเกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้าน และตำรวจไทยก็ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่เพียงติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีออกนอกประเทศกลับมาดำเนินคดีเท่านั้น โดยการประสานผ่านขั้นตอนทางกฎหมายไปยังประเทศนั้น ๆ ที่ผู้ต้องหาหลบหนีไป ส่วนต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไรเป็นสิทธิ์ของเขาเรายุ่งไม่ได้
อดีตรองผู้อำนวยสำนักข่าวกรองแห่งชาติโพสต์เฟสบุ๊คอย่าด่วนสรุป
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ได้ออกมาให้ความเห็นถึงข่าว "วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์" หรือต้า วัย 37 ปี ผู้ลี้ภัยทางการเมืองไทยที่อยู่ในกัมพูชาถูกกลุ่มคนร้ายอุ้มโดยโพสต์เฟสบุ๊คระบุว่า
อย่าด่วนสรุป
ข่าวอุ้มคนชื่อวันเฉลิม ทำไมไปกันเร็วจริง ชัดเจนแล้วหรือว่าถูกอุ้มหรือสรุปว่าตายแล้ว ด่วนสรุปเร็วไปไหม
มาหมดทั้งเอ็นจีโอ กลุ่มสิทธิมนุษยชน ทั้งกลุ่มนักเคลื่อนไหว เรียกร้องขอความเป็นธรรม
เหตุเกิดในกัมพูชา แต่มีคนเรียกร้องให้ทางการไทยชี้แจง ทำไมไม่ถามทางกัมพูชาว่าเกิดอะไรกับคนไทย ถูกอุ้มจริงมั้ย
วันเฉลิมเป็นใคร ทำอะไรผิดถึงต้องหนีไปอยู่กัมพูชา ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โทษน้อยมาก เป็นใครสำคัญยังไงถึงต้องถูกอุ้ม
บอกได้เลย ไม่มีหน่วยงานไหนในไทยที่มีภารกิจนอกประเทศแบบนี้ พูดง่ายๆ ไม่มีปัญญา ไทยไม่ใช่มหาอำนาจ งานอย่างนี้ ต้องระดับมหาอำนาจถึงทำได้ ไม่ใช่หนังนะ
ปฏิบัติการ "อุ้ม" ถ้ามีจริง ทีมงานต้องประเมินความเสี่ยงอย่างมาก ถ้าล้มเหลว ถูกจับได้ ผิดกฏหมายของกัมพูชา กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ไทยกับกัมพูชา ทำแล้วไม่คุ้มเสี่ยง
ที่มาเรียบเรียงจาก: มติชนออนไลน์ | ข่าวสด | กรุงเทพธุรกิจ | Bright Today | คมชัดลึก
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)