Skip to main content
sharethis

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประชาชนเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน โหวตให้ขับนายกเทศมนตรีคนเดิมที่มีจุดยืนสนับสนุนจีนออกจากตำแหน่งด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 97 ของผู้มาใช้สิทธิฯ ขณะที่ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินชี้เรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการที่ประชาชนไม่ยอมที่จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของจีนและไม่ยอมถูกทำลายประชาธิปไตย

ภาพการชุมนุมรณรงค์ถอดถอนนายกเทศมนตรีเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2563 ที่มาเฟซบุ๊กเพจ 'Wecare高雄'

10 มิ.ย. 2563 ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาประชาชนในเมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน ลงคะแนนโหวตสนับสนุนให้ขับ หานกว๋อหวี นายกเทศมนตรีเกาสงจากพรรคก๊กมินตั๋งออกจากตำแหน่ง ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 97 ของผู้มาใช้สิทธิฯ โดยที่พรรคก๊กมินตั๋งเป็นพรรคการเมืองที่มีจุดยืนสนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่ และสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ

คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเกาสงระบุว่า มีประชาชนในเกาสงมาใช้สิทธิในครั้งนี้มากกว่าร้อยละ 42 มีคะแนนโหวตไล่หานกว๋อหวีออกจากตำแหน่งถึงมากกว่า 939,000 คะแนนเสียง สูงกว่าสมัยคนที่โหวตให้เขาเข้ามาดำรงตำแหน่งซึ่งอยูที่ 892,545 เสียง โดยที่จำนวนผู้มาใช้สิทธิผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำร้อยละ 25 ในการที่จะโหวตขับนายกเทศมนตรีออกจากตำแหน่ง และถือเป็นครั้งแรกที่มีนายกเทศมนตรีถูกโหวตขับออกเช่นนี้ในไต้หวัน

แอรอน หยิน ผู้ก่อตั้งกลุ่ม "วีแคร์เกาสง" ที่เป็นกลุ่มเรียกร้องให้ปลดหานกว๋อหวีออกจากตำแหน่งแสดงความยินดีกับผลการลงคะแนน หยินบอกว่ามันถือเป็นการที่ชาวเกาสงสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกัน พวกเขาริเริ่มเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ไม่ใช่เพื่อตัวเองหรือเพราะว่าเกลียดใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะพวกเขา "ไม่ยอมที่จะถูกหลอกลวงอยู่ร่ำไป"

"พวกเราแก้ไขปัญหานี้ นี่คือเหตุผลว่าทำไมประชาชนชาวเกาสงถึงยอดเยี่ยม" แอรอน หยิน กล่าว

เจียงจื้อเฉิน ประธานพรรคก๊กมินตั๋งประกาศว่าพรรคของพวกเขาจะหาทางคืนความเชื่อมั่นจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเกาสงให้ได้ โดยที่ในเกาสงเป็นพื้นที่ฐานเสียงสำคัญของประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแห่งพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือดีพีพี ซึ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ไช่อิงเหวินก็ชนะหานกว๋อหวีไปด้วยคะแนนห่างกันราว 2.5 ล้านเสียง (8 ล้านเสียงต่อ 5.5 ล้านเสียง) โดยที่ไช่อิงเหวินหาเสียงด้วยการประกาศจะลดอิทธิพลจีนและต่อต้านการที่จีนพยายามแทรกแซงทำลายประชาธิปไตยในไต้หวัน เธอยกสิ่งที่เกิดขึ้นในฮ่องกงเป็นตัวอย่าง

สื่อท้องถิ่นไต้หวันรายงานว่าผู้คนจำนวนมากมองว่าหานกว๋อหวีต้องการใช้ตำแหน่งนายกเทศมนตรีเป็นขั้นบันไดให้ตัวเองเหยียบขึ้นไปสู่ตำแหน่งทางการเมืองที่สูงกว่านี้

หลังจากที่มีการถอดถอนหานกว๋อหวีแล้วก็จะต้องมีการจัดเลือกตั้งเพื่อหานายกเทศมนตรีคนใหม่ซึ่งจะดำรงตำแหน่งสืบต่อจนครบวาระของหานกว๋อหวีในปี 2565

ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินแถลงต่อเรื่องนี้ว่าประชาชนในเกาสงมากกว่า 9 แสนคนต่างก็แสดงการตัดสินใจร่วมกันในการทำให้ไต้หวันก้าวไปในหนทางประชาธิปไตย รวมถึงบอกอีกว่านี่ถือเป็นการเตือนต่อนักการเมืองทั้งหลายว่าประชาชนสามารถให้อำนาจกับพวกเขาได้แล้วก็สามารถยึดคืนจากพวกเขาได้เช่นกัน

ทางด้านหานกว๋อหวีกล่าวหาว่าเรื่องนี้เป็นผลมาจากการที่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง "ใส่ร้ายป้ายสี" เขา ฮั่นบอกว่าสิ่งที่เขาถูกวิพากษ์วิจารณ์นั้นไม่เป็นความจริงและหวังว่า "มิตรที่ดีจะตัดสินพวกเขาอย่างเป็นธรรม"


โจชัวหว่อง นักกิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยจากฮ่องกงกล่าวว่าผลการลงคะแนนของประชาชนในครั้งนี้ถือเป็น "ชัยชนะสำหรับประชาธิปไตย" เนื่องจากหานกว๋อหวี ผู้ที่โจชัวหว่องกล่าวหาว่าเป็น "คนที่วางตัวอยู่กับผลประโยชน์ของเผด็จการ" ถูกขับออกโดยวิธีการลงคะแนนอย่างเป็นประชาธิปไตยของชาวเกาสง หว่องบอกอีกว่านี่ถือเป็นการส่งสัญญาณต่อผู้นำจีนว่าชาวไต้หวันจะไม่ทนกับอำนาจอิทธิพลจากจีน

ไต้หวันเป็นประเทศที่เคยตกอยู่ภายใต้อาณานิคมญี่ปุ่นเป็นเวลา 50 ปีก่อนหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในปี 2454 ก็ตกอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคก๊กมินตั๋งด้วยชื่อว่า "สาธารณรัฐจีน" จากส่วนหนึ่งของข้อตกลงชดเชยทางสงครามที่ญี่ปุ่นทำกับประเทศสัมพันธมิตร ไต้หวันไม่เคยตกอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของ "สาธารณรัฐประชาชนจีน" เลย แต่จีนแผ่นดินใหญ่ก็อ้างว่าพวกเขาจะยึดเอาเกาะนี้คืนมาให้ได้และอาจจะต้องใช้กำลังถ้าจำเป็น

เคยมีผลโพลสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนระบุว่าการใช้กำลังความรุนแรงต่อผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลฮ่องกงในปี 2562 ส่งผลให้ชาวไต้หวันกลัวเรื่องความมั่นคงและกลัวสูญเสียประชาธิปไตยในประเทศตัวเอง มีเพียงร้อยละ 4.5 เท่านั้นที่ยอมรับที่จะอยู่ภายใต้การปกครองของจีน

ไต้หวันเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประชาธิปไตยในปี 2531 หลังจากการเสียชีวิตของประธานาธิบดีเจียงจิงกว๋อ โดยเปิดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนฯ และในเวลาต่อมาก็ให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี


เรียบเรียงจาก : 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net