Skip to main content
sharethis

12 มิ.ย. 2563 สนท. ผูกโบว์ขาวที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล และแขวนป้ายผ้าสาปแช่งคนสั่งอุ้มวันเฉลิมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ก่อนถูกเจ้าหน้าที่กดดันให้แกะป้าย

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า หลังสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (Student Union of Thailand) หรือ สนท. ประกาศผ่านทางเฟซบุ๊กเพจเมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2563 เชิญชวนประชาชนเข้าร่วมชูป้ายและอ่านแถลงการณ์ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 12 มิ.ย. 2563 เวลา 10.30 น. เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ลี้ภัยที่ถูกอุ้มหายในประเทศกัมพูชา รวมไปถึงผู้ลี้ภัยทางการเมืองคนอื่นๆ

ภาพรวมของกิจกรรมในตอนเช้า มีผู้เข้าร่วมในการแสดงออก ทั้งนักศึกษาและประชาชนราว 30 คน สามารถจัดกิจกรรมได้โดยไม่ถูกขัดขวาง อย่างไรก็ตาม สำหรับกิจกรรมในตอนบ่าย มีรายงานจาก สนท. ระบุว่าทางกลุ่มถูกเจ้าหน้าที่เข้ากดดันและพยายามจะเชิญตัวไปที่สถานีตำรวจในตอนแรก

กิจกรรมในตอนเช้า พบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและชุดปราบจลาจลราว 20 นาย เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบประมาณ 20 นาย และผู้สื่อข่าวอีกจำนวนมากเข้าร่วมสังเกตการณ์ แม้เจ้าหน้าที่จะไม่ห้ามจัดกิจกรรม แต่ก็ได้แกะโบว์ขาวที่ผู้เข้าร่วมนำมาผูกที่รั้วทำเนียบรัฐบาลออก หลังกิจกรรมในตอนเช้าเสร็จสิ้น ขณะที่ผู้เข้าร่วมและผู้จัดนั่งคุยกันที่โรงอาหารใน กพร. ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบคอยนั่งจับตาดูอยู่ในบริเวณเดียวกัน

ต่อมาในช่วงบ่าย สมาชิก สนท. และเครือข่ายเดินทางต่อไปยังบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และแขวนป้ายผ้าที่มีข้อความว่า “ขอสาปแช่งคนสั่งอุ้มวันเฉลิม” บริเวณสะพานลอยด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน ขณะทำกิจกรรมไปได้เพียง 2 นาที มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบเข้ามาสังเกตการณ์ และเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มนักศึกษา ก่อนจะถ่ายรูปพร้อมกับป้ายข้อความ ชี้ว่าการแขวนป้ายถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาดฯ และพยายามจะ “เชิญ” กลุ่มนักศึกษาไปที่ สน.ดินแดง เพื่อให้คุยกับทางร้อยเวร โดยเหตุการณ์ทั้งหมดถูกนักศึกษาของ สนท. ถ่ายคลิปไลฟ์ลงเฟซบุ๊ก

เจ้าหน้าที่พยายามเชิญนักศึกษาไปยัง สน.ดินแดง หลังผูกป้ายผ้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
(ภาพจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน)

อย่างไรก็ตาม หลังปรึกษากับทนายความ นักศึกษาได้ชี้แจงกับทางเจ้าหน้าที่ว่า การเรียกร้องของพวกตนนั้นเป็นการกระทำที่จัดขึ้นแค่ชั่วคราว ไม่ได้ก่อให้เกิดความสกปรกต่อพื้นที่สาธารณะเพราะได้แกะผ้าออกแล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังไม่มีอำนาจนำตัวนักศึกษาไปยังสถานีตำรวจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังคงยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมาย และได้เรียกเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบมาเสริมอีกราว 6 นาย ระบุว่า การจะทำอย่างนี้ได้จำเป็นต้องขออนุญาตก่อนเท่านั้น

ทางนักศึกษาได้พยายามเรียกร้องหาคำตอบจากทางเจ้าหน้าที่ ชี้ว่าการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างไม่เป็นธรรม หลังจากการถกเถียงกันครู่ใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินไปคุยกันใหม่ แล้วกลับมาบอกนักศึกษาว่ากิจกรรมดังกล่าวสามารถทำได้ การที่เจ้าหน้าที่มาเฝ้าดูก็เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากทางมือที่สามเท่านั้น เมื่อได้รับการชี้แจง ทางนักศึกษาจึงได้เปลี่ยนจากการแขวนป้ายมาเป็นถือป้ายแทน และได้แยกย้ายไม่นานหลังจากนั้นโดยที่ไม่มีการดำเนินคดีใด ๆ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net