จากกรณี 'ช่อ-พรรณิการ์' ทวีตข้อความให้ยกเลิก ม.112 และให้พิจารณากฎหมายอื่นที่ใช้ปิดปากผู้เห็นต่าง เช่น พ.ร.บ.คอมฯ, ม.116 ยุยงปลุกปั่น 'สนธิญา' อดีตผู้สมัคร ส.ส. พลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึง กกต. ระบุแม้การแสดงความเห็นเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ผู้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองควรมีกรอบให้ชัดเจน

17 มิ.ย. 2563 จากกรณีที่ พรรณิการ์ วานิช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ทวีตข้อความในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า เมื่อนายกฯ บอกเอกว่าทุกวันนี้ไม่ใช้ ม.112 แล้ว และก็เป็นที่รู้กันมานานว่ากฎหมายนี้มีปัญหา ถูกใช้ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคงกฎหมายนี้ไว้ รวมถึงควรมีการพิจารณากฎหมายอื่นที่ถูกใช้ปิดปากผู้เห็นต่าง เช่น พ.ร.บ.คอมฯ, ม.116 ข้อหายุยงปลุกปั่น พร้อมติดแฮชแท็ก #ยกเลิก112

เมื่อนายกฯบอกเองว่า ทุกวันนี้ไม่ใช้ม. 112 แล้ว และก็เป็นที่รู้กันมานานว่ากม.นี้มีปัญหา ถูกใช้ละเมิดเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคงกม.นี้ไว้ รวมถึงควรมีการพิจารณากม.อื่นที่ถูกใช้ปิดปากผู้เห็นต่าง เข่นพ.ร.บ.คอมฯ ม.117 ข้อหายุยงปลุกปั่น #ยกเลิก112

— Pannika Wanich (@Pannika_FWP) June 15, 2020

วันนี้ผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า สนธิญา สวัสดี อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ และอดีตผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือถึง กกต.ขอให้วินิจฉัยกรณีที่ พรรณิการ์ วานิช อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ และอดีตกรรมการบริหารพรรค ออกมาแสดงความคิดเห็นและเคลื่อนไหวทางการเมือง ทั้งที่เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรค และถูกตัดสิทธิทางการเมือง ดังนั้น ตนจึงอยากให้ กกต.พิจารณาเนื่องจากเคยยื่นเรื่องไว้แล้ว หรือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้พิจารณาว่ากรอบการห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอยู่ในระดับใดบ้าง

สนธิญากล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ได้ออกมาพูดถึงการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ และการที่ พรรณิการ์ออกมาพูดเรื่องมาตรา 112 โดยทั้ง 2 เรื่องเป็นสิทธิของปวงชนชาวไทยที่สามารถพูดได้ทั้ง 2 เรื่อง หรือแสดงความคิดเห็นได้ แต่ในกรณีของคนกลุ่มนี้เป็นผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และสิทธิอื่นๆ ซึ่งทำอย่างไรจะให้เกิดความชัดเจนหลังศาลระบุว่าห้ามยุ่งเกี่ยวทางการเมือง ว่ากรอบอยู่ตรงไหน

“ผมจึงมาร้องอีกครั้งให้ กกต.วินิจฉัย หรือส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพื่อให้เกิดความชัดเจนก็ได้ เพราะที่ผ่านมาอดีตกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ออกมาแสดงความคิดเห็นและทำให้เกิดความวุ่นวายหลายๆ ครั้ง จุดประสงค์จริงๆ ไม่ได้อยู่ที่ความชอบหรือไม่ชอบ แต่เพื่อเป็นบรรทัดฐานในการปฏิบัติต่อไป เพื่อความเข้าใจอันเป็นผลรวมของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ” สนธิญากล่าว และว่าหากอีก 15 วัน กกต.ไม่ได้ดำเนินการใดๆ จะขอใช้สิทธิยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลวินิจฉัยว่าผู้ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองสามารถดำเนินการอะไรได้บ้างเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป