Skip to main content
sharethis

กมธ.การเงิน การคลังฯ สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากตัวแทนผู้ประกอบการรายย่อยขอให้ตรวจสอบมาตรการปล่อยสินเชื่อของธนาคารรัฐช่วง COVID-19 หลังพบตั้งหลักเกณฑ์สูงจนเข้าถึงแหล่งทุนได้ยาก


ที่มาภาพ: เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2563 ว่านายวรภพ วิริยะโรจน์ โฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากนายเอกราช อุดมอำนวย ตัวแทนผู้ประกอบการรายย่อย (SME) เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบมาตรการปล่อยสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการรายย่อยจากโครงการภาครัฐต่าง ๆ เนื่องจากผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยนายเอกราช กล่าวว่า สืบเนื่องจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้จัดตั้งกองทุนสินเชื่อ "SMEs One" ดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนกว่า 4,890 ล้านบาท 

โดยให้ผู้ประกอบการยื่นกู้ผ่านธนาคารส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME D Bank) แต่กลับพบว่ามีการตั้งหลักเกณฑ์ที่ส่งผลต่อการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะการที่ต้องใช้เอกสารจำนวนมาก บางรายการไม่จำเป็น การติดต่อสื่อสารล่าช้า และพนักงานระดับปฏิบัติการไม่มีอำนาจตัดสินใจทำให้การขอสินเชื่อทำได้ล่าช้ากว่าธนาคารแห่งอื่น อาทิ ธนาคารของรัฐบางแห่งใช้เวลาพิจารณาสินเชื่อมากกว่า 45 วัน ขณะที่ธนาคารพาณิชย์สามารถอนุมัติสินเชื่อภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ขณะที่ธนาคารออมสินก็มีการตั้งเงื่อนไขสูงในการปล่อยสินเชื่อ ดังนั้นหากธนาคารของรัฐไม่ผ่อนปรนเงื่อนไขต่าง ๆ จะทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยากลำบาก เพราะสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลงต่ำกว่าร้อยละ 90 บางกิจการไม่สามารถเปิดได้ ดังนั้นจึงขอให้ กมธ.ช่วยตรวจสอบการดำเนินงานของธนาคารของรัฐเพื่อให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง เพราะธุรกิจรายย่อยถือเป็นฐานรากของเศรษฐกิจที่ต้องขับเคลื่อนในประเทศไทยต่อไป

ด้านโฆษก กมธ. กล่าวว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม กมธ. และจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาปรึกษาหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net