กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันได ขอเข้าตรวจสอบเหมืองเร่งด่วน หลังผู้ประกอบการแอบทำเหมืองตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมรุดยื่นขอจัดตั้งป่าชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และขอให้มีคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของประธานสภา อบต.ดงมะไฟ หวั่นใช้อิทธิพลในอำนาจหน้าที่เข้าแทรกแซงการสอบสวน

19 มิ.ย. 2563 กลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนเขาเหล่าใหญ่-ผาจันไดแจ้งข่าวว่า ชาวบ้านตัวแทนของกลุ่มฯ ประมาณ 13 คน ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่ออุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อขอให้มีการตรวจสอบการทำเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่หินของบริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด และขอให้ราษฎรในพื้นที่เข้าตรวจสอบการทำเหมืองแร่ดังกล่าวโดยเร่งด่วน ที่ศาลากลางจังหวัดหนองบัวลำภู โดยนางสาววัลลี สีละออง นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญ ได้เป็นตัวแทนอุตสาหกรรมจังหวัดหนองบัวลำภูมารับหนังสือจากชาวบ้านเนื่องจากเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี แต่ไม่มีการชี้แจงใด ๆ ให้ชาวบ้านฟัง มีเพียงแค่นำหนังสือไปลงเลขรับแล้วส่งคืนให้ชาวบ้านไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น

นางเปี่ยม สุวรรณสนธ์ ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้กล่าวหลังจากยื่นหนังสือว่า ที่ชาวบ้านเดินทางมายื่นหนังสือครั้งนี้ เราต้องการเข้าไปตรวจสอบการทำเหมืองอย่างเร่งด่วน เพราะเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บริษัท ธ.ศิลาสิทธิ จำกัด ได้มีการทำเหมืองแร่หินปูนและโรงโม่หินตลอด 24 ชั่วโมง ชาวบ้านในพื้นที่ได้ยินเสียงรถขนหิน เทหิน บดย่อยหินตลอดทั้งวันทั้งคืน มีระเบิดหินนอกเวลาที่กำหนดไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งต่อวัน ทั้งยังมีการบรรทุกหินเกินน้ำหนักที่กำหนดไว้และขนส่งหินในยามวิกาลตลอดทั้งคืน ชาวบ้านเดือดร้อนหนักมาก

ต่อมาในเวลา 12.05 น. ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้เดินทางไปที่ศูนย์ป่าไม้หนองบัวลำภู สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 6 (อุดรธานี) กรมป่าไม้ กระทวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งแวดล้อม เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้หนองบัวลำภู ขอจัดตั้งป่าชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเก่ากลอยและป่านากลาง บริเวณ หมู่ 7, 8, และ 12 พร้อมขอเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

โดยนายสมควร เรียงโหน่ง ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ฯ กล่าวต่อผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้หนองบัวลำภูว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านก็เคยมีการจัดตั้งคณะกรรมการป่าชุมชนมาก่อนแล้ว และยังมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องมาตลอด เช่น พาเยาวชนในพื้นที่เรียนรู้แหล่งทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งโบราณคดีในพื้นที่ แต่ชาวบ้านยังไม่ได้จดแจ้งจัดตั้งเป็นป่าชุมชนให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ. ป่าชุมชน พ.ศ.2562 วันนี้ชาวบ้านจึงได้เดินทางมาขอจดแจ้งจัดตั้ง เพื่อที่จะได้มีสิทธิในการดูแลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ซึ่งนายวีระศักดิ์ ประสานศรี ผู้อำนายการป่าไม้หนองบัวลำภู ได้กล่าวหลังจากรับหนังสือจากชาวบ้านว่า เห็นด้วยกับการที่ชาวบ้านยื่นขอจดตั้งเป็นป่าชุมชน และจะให้เจ้าหน้าที่รีบตรวจสอบตามที่ชาวบ้านเรียกร้องและจะส่งเอกสารที่เกี่ยวข้องให้ตามที่อยู่ที่ที่ระบุไว้ในหนังสือ
       
และในเวลา 13.52 น. กลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอสุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู เพื่อยื่นหนังสือต่อนายอำเภอสุวรรณคูหา ขอให้มีคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของนายเพ็ง บุตรโคตร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ หลังคณะกรรมการตรวจสอบขอเท็จจริง กรณีองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีมีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า มีมูลการปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่และละเลยในการปฏิบัติหน้าที่จริง และในเวลาต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภูได้มีหนังสือถึงนายอำเภอสุวรรณคูหาให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายเพ็ง บุตรโคตร ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟ
       
โดยมี นายวีรชัย วงษ์อ้วน ปลัดอำเภอสุวรรณคูหา ได้เป็นตัวแทนนายอำเภอสุวรรณคูหามารับหนังสือกับชาวบ้าน เนื่องจากนายอำเภอสุวรรณคูหาติดอบรมที่ต่างจังหวัด
       
นางเปี่ยม สุวรรณสนธ์ ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ฯ ได้กล่าวว่า ตอนนี้ชาวบ้านอยากรู้ว่าทางอำเภอสุวรรณคูหาได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบสวนแล้วหรือยัง อยู่ในขั้นตอนไหน ที่สำคัญอยากให้นายอำเภอมีคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ของ นายเพ็ญ บุตรโคตร หรือประธานสภา อบต.ดงมะไฟ ไว้ก่อนจนกว่าจะมีการสรุปผลการตรวจสอบ เพื่อที่ประธานสภาฯ จะไม่ใช้อิทธิพลในอำนาจหน้าที่เข้าแทรกแซงการสอบสวนได้
       
แต่นายวีรชัย วงษ์อ้วน ก็ไม่ได้ชี้แจงหรือพูดคุยแต่อย่างใด ทำเพียงแค่นำหนังสือไปลงเลขรับแล้วส่งคืนให้ชาวบ้านเก็บไว้เป็นหลักฐาน
       
ทั้งนี้หลังจากที่ยื่นหนังสือเสร็จนางบัวลอง นาทา ก็ได้กล่าวว่า การที่นายอำเภอสุวรรณคูหาไม่อยู่หรือติดอบรมอยู่บ่อยครั้ง อาจจะทำให้กระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลดงมะไฟล่าช้ากว่าเดิมก็เป็นได้