Skip to main content
sharethis

ครม. เห็นชอบในหลักการให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภาใช้งบ 354 ล้าน ปรับปรุงหอประวัติศาสตร์ราชบัณฑิตยสภาและก่อสร้างอาคารศูนย์ประชุม ระหว่างแผนคืนพื้นที่ให้สำนักพระราชวังและรอที่ใหม่ที่ศูนย์ราชการฯ สร้างเสร็จ

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภา (รภ.) ดำเนินการปรับปรุงอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อนให้เป็นหอประวัติศาสตร์ราชบัณฑิตยสภา และก่อสร้างอาคารศูนย์ประชุมราชบัณฑิตยสภาและอื่นๆ ภายในกรอบวงเงิน 354,350,000 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 – พ.ศ. 2567)

อย่างไรก็ดี ครม. มีความเห็นว่า เนื่องจากอาคารดังกล่าวเป็นโบราณสถาน ประกอบกับเงื่อนไขการเช่าอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อน มีผลทำให้การดำเนินการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตและอยู่ภายในการควบคุมดูแลของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ กรมศิลปากร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามขั้นตอนของกฎหมายหรือเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนดไว้ รวมถึงการจัดทำประมาณราคา แบบรูปรายการสิ่งก่อสร้าง และรายละเอียดครุภัณฑ์

เมื่อ รภ. ได้ดำเนินการดังกล่าวแล้ว ให้พิจารณาดำเนินการตามนัยมาตรา 42 ของ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

ปัจจุบัน รภ. มีที่ทำการอยู่สนามเสือป่า เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร โดยมีภารกิจในการจัดประชุมสมาชิกราชบัณฑิตยสภาเพื่อปรึกษาหารือในเรื่องที่เป็นประเด็นสำคัญและเร่งด่วนของประเทศ (Royal Society Forum) เพื่อนำเสนอข้อคิดเห็นและแนวทางแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ต่อนายกรัฐมนตรีหรือ ครม. และจัดการประชุมอื่น ๆ ของราชบัณฑิตยสภาเป็นประจำ แต่พื้นที่ห้องประชุมมีขนาดเล็กเพียง 168 ตารางเมตร ไม่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมตามกรอบอัตราของสมาชิกราชบัณฑิตยสภา ตามข้อบังคับราชบัณฑิตยสภาว่าด้วยการกำหนดจำนวนภาคีสมาชิกและจำนวนราชบัณฑิตยสภา พ.ศ. 2559 ได้ ดังนั้น รภ. จึงมีแผนคืนพื้นที่เดิม ณ สนามเสือป่า ให้แก่สำนักพระราชวัง (พว.) เพื่อย้ายไปยังศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 โซน c ซึ่งมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือน เม.ย. 2567 จึงจำเป็นต้องหาพื้นที่เพื่อรองรับการประชุมราชบัณฑิตยสภาในอนาคต

ต่อมา เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2563 รภ. ได้ทำสัญญาเช่าอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อน ในรัชกาลที่ 5 ริมถนนพระราม 5 เขตดุสิต เนื้อที่ 1,765.94 ตารางวา กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นเวลา 30 ปี (1 ธ.ค. 2564 – 30 พ.ย. 2594) เพื่อเตรียมปรับปรุงเป็นหอประวัติราชบัณฑิตยสภาและอาคารศูนย์ประชุมราชบัณฑิตยสภา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์และการอนุรักษ์เชิงประวัติศาสตร์ของราชบัณฑิตยสภา เนื่องจากเป็นองค์กรที่สำคัญของประเทศที่ได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ. 2569 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) และใช้เป็นศูนย์การประชุมระดับชาติเพื่อรองรับการประชุมของราชบัณฑิตยสภา การประชุมร่วมกันระหว่างราชบัณฑิตยสภากับองค์การปราชญ์จากต่างประเทศ และการประชุมวิชาการทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยกรมศิลปากรได้อนุญาตให้ รภ. ดำเนินการบูรณะอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อนได้ ภายใต้การกำกับดูแลของกรมศิลปากร

รายละเอียดงานปรับปรุงอาคารฯ ประกอบด้วย 5 รายการ มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (ปีงบประมาณ 2563 – 2567) วงเงินรวม 354.35 ล้านบาท ดังนี้

1. งานจ้างออกแบบอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อน อาคารศูนย์ประชุมราชบัณฑิตยสภา และงานปรับปรุงบริเวณภายนอก 16.71 ล้านบาท
2. งานปรับปรุงอาคารเรือนเจ้าจอมมารดาเลื่อน 97.98 ล้านบาท
3. งานก่อสร้างศูนย์ประชุมราชบัณฑิตยสภา 178.75 ล้านบาท
4. งานปรับปรุงบริเวณภายนอก 42.1 ล้านบาท
5. งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง 18.81 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในการปรับปรุงอาคารฯ กรมศิลปากรได้อนุญาตให้สำนักงานราชบัณฑิตยสภาดำเนินการบูรณะอาคารฯ ได้ภายใต้การกำกับดูแลของกรมศิลปากรแล้ว

ที่ตั้งของ รภ. อยู่ใกล้กับสวนสัตว์ดุสิตซึ่งปิดบริการเมื่อ 30 ก.ย. 2561 เพื่อเตรียมย้ายไปที่ใหม่ด้วยเหตุผลเรื่องความคับแคบ แต่พื้นที่สวนสัตว์แห่งใหม่บริเวณ ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขนาด 300 ไร่ ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จเช่นกัน ทำให้ต้องขนย้ายสัตว์ในความดูแลไปยังสวนสัตว์อื่นชั่วคราว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net