สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้รอบใหม่เกี่ยวกับเรื่องการปล่อยบอลลูนที่มีใบปลิวโฆษณาโดยกลุ่มคนที่หนีออกจากมาเกาหลีเหนือ จนทำให้เกาหลีเหนือแสดงความไม่พอใจด้วยการทำลายอาคารสำนักงานประสานงานความร่วมมือระหว่างสองเกาหลีที่เมืองแคซอง รวมถึงประกาศว่าจะส่งบอลลูนใบปลิวของฝ่ายตัวเองเข้าสู่เกาหลีใต้ด้วย ความขัดแย้งนี้ทำให้สื่อเอียงซ้ายของเกาหลีใต้นำเสนอบทบรรณาธิการระบุว่าเกาหลีเหนือไม่ควรจะอ้างเรื่องบอลลูนใบปลิวมายกระดับความตึงเครียดของทั้งสองฝ่าย
ความไม่พอใจของประเทศเผด็จการเกาหลีเหนือรอบล่าสุดเกิดขึ้นหลังจากกที่ "ผู้แปรพักตร์" หรือก็คือกลุ่มชาวเกาหลีเหนือที่หลบหนีออกจากประเทศตัวเองมีแผนการส่งบอลลูนที่ระบุข้อความโฆษณาและข้าวสารไปให้ฝั่งเกาหลีเหนือ เรื่องนี้ทำให้ทางการเกาหลีเหนือไม่พอใจจนถึงขั้นโต้ตอบด้วยการระเบิดทำลายสำนักงานประสานงานความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ที่เมืองแคซองทิ้ง ซึ่งทำให้สื่อมองว่าเป็นความถดถอยของความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนี้ครั้งใหม่ หลังจากที่เคยเจรจากันในระดับใหญ่ๆ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังประกาศขู่ว่าพวกเขาจะส่งบอลลูน "ใบปลิวตอบโต้" ใส่ประเทศเกาหลีใต้ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในการการต่อต้านจากทางการเกาหลีเหนือ ขณะที่กลุ่มชาวเกาหลีเหนือผู้หลบหนีออกจากประเทศที่มีชื่อกลุ่มว่า "นักสู้เพื่อปลดปล่อยเกาหลีเหนือ" หรือ FFNK ประกาศจะส่งบอลลูเพิ่มเติมพร้อมใบปลิวโฆษณาอีก 1 ล้านใบในวันครบรอบ 70 ปีสงครามเกาหลี 25 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ เรื่องนี้ทำให้สื่อเอียงซ้ายจากเกาหลีใต้ Hankyoreh ออกบทบรรณาธิการเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเลิกทำในสิ่งที่เรียกว่า "การต่อสู้กันด้วยใบปลิว" โดยอ้างว่ามันไม่เข้ากับยุคสมัยและไม่เกิดประโยชน์ใดๆ
ในบทบรรณาธิการของ Hankyoreh ระบุอีกว่ากระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือเลิกกระทำการตอบโต้ด้วยการโปรยใบปลิวมาทางฝั่งเกาหลีใต้ แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งวันเกาหลีเหนือก็ไม่ยอมฟังและประกาศจะกระทำการโต้ตอบต่อไป โดยที่ทางการเกาหลีเหนืออ้างว่าที่พวกเขาไม่เปลี่ยนใจเพราะเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายเสียกาย เกาหลีเหนืออ้างอีกว่าอ้างว่าต้องการให้ทางการเกาหลีใต้ได้ประสบกับความไม่เป็นมิตรและไม่พอใจด้วยการกระทำแบบเดียวกัน
ฝ่ายรัฐบาลเกาหลีใต้เองก็มีการพยายามสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือส่งใบปลิว โดยมีการปราบปรามและกำลังร่างกฎหมายสั่งห้ามในเรื่องใบปลิวนี้ โดยที่รัฐบาลชุดปัจจุบันของเกาหลีใต้มีท่าทีให้ความสำคัญกับการรวมชาติและการลดความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตามบทบรรณาธิการของ Hankyoreh ก็ระบุว่าการพยายามโต้ตอบของเกาหลีเหนือมีแต่จะเพิ่มความเสี่ยงที่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายจะกลายเป็นความบาดหมางอย่างเปล่าประโยชน์ ขณะเดียวกันท่าทีของ Hankyoreh ก็ต่อต้านการปล่อยใบปลิวของนักกิจกรรมฝั่งเกาหลีใต้เองด้วยเพราะเกรงว่าจะจุดชนวนให้เกิดการปะทะกัน
Hankyoreh เปิดถึงเนื้อหาจากใบปลิวของฝ่ายเกาหลีเหนือ โดยระบุว่ามันชวนให้รู้สึกเป็นปัญหา จากการที่เนื้อหาของมันมีลักษณธเย้นหยันและแดกดันประธานาธิบดีมุนแจอินในแบบที่เกินจริงแสดงให้เห็นว่าเกาหลีเหนือประเมินสถานการณ์ภายในของเกาหลีใต้ผิดไป ใบปลิวโต้ตอบนี้จึงเสี่ยงที่จะทำให้ชาวเกาหลีใต้รู้สึกถูกทำให้แปลกแยกถึงแม้ว่าพวกเขาจะสนับสนุนการรวมชาติก็ตาม
สิ่งที่ดูมีปัญหามากกว่านั้นคือทางการเกาหลีเหนือเป็นฝ่ายจัดตั้งการโต้ตอบด้วยใบปลิวในครั้งนี้ด้วย บทบรรณาธิการของ Hankyoreh วิจารณ์ว่าสาเหตุที่เรื่องนี้มีปัญหาเพราะเป็นการที่ฝ่ายเกาหลีเหนืออ้างว่าใบปลิวเหล่านี้มาจาก "ความโกรธแค้นไม่พอใจจากประชาชน" ซึ่งเป็นการพูดแทนคนในประเทศตัวเองทั้งๆ ที่รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการเมื่อเทียบกับกรณีของเกาหลีใต้แล้วเป็นกิจกรรมของกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆ ที่แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือ
อย่างไรก็ตาม Hankyoreh ก็มีจุดยืนต่อต้านการเรียกร้องให้ตอบโต้เกาหลีเหนือด้วยวิธีการหนัก จากชาวเกาหลีใต้บางส่วนและจากกลุ่มอนุรักษ์นิยมในสหรัฐฯ โดยระบุว่าพวกเขาไม่ควรใช้ความขัดแย้งเรื่องการโปรยบอลลูนใบปลิวมาเป็นการเพิ่มความตีงเครียดในเรื่องความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ Hankyoreh มองว่าความขัดแย้งครั้งล่าสุดนี้เป็นแค่ความ "งี่เง่าไร้สาระ" และเป็นภัยต่อสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงเป็นภัยต่อประชาชนของทั้งสองฝ่าย
การปล่อยบอลลูนเพื่อส่งอาหาร สัมภาระ รวมถึงใบปลิวโฆษณาเข้าไปสู่เกาหลีเหนือ เป็นสิ่งที่นักกิจกรรมและผู้แปรพักตร์จากเกาหลีเหนือกระทำจากในเกาหลีใต้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และมีหลายครั้งที่เกาหลีเหนือก็ตอบโต้ด้วยใบปลิวฝ่ายตัวเอง เพียงแต่ในครั้งนี้การโต้ตอบของฝ่ายเกาหลีเหนือดูจะหนักข้อขึ้นจากการทำลายสำนักงานความร่วมมือในแคซอง
คิมยูกึนรองที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติของเกาหลีใต้กล่วถึงเรื่องนี้ว่า การทำลายสำนักงานประสานงานความร่วมมือในแคซองนั้นถือเป็นการทำลายความคาดหวังของผู้คนที่ต้องการเห็นความสัมพันธ์และสันติภาพที่ยั่งยืนของสองประเทศคาบสมุทรเกาหลี และประกาศว่ามันเป็นเรื่องที่เกาหลีเหนือมีส่วนรับผิดชอบต่อผลที่ตามมาอย่างเห็นได้ชัด
เรียบเรียงจาก :
- [Editorial] Leaflet issue isn’t excuse for further escalating tensions on Korean Peninsula, Hankyoreh, 22-06-2020 http://english.hani.co.kr/arti/english_edition/e_editorial/950418.html
- North Korea blows up liaison office as tensions rise with South, Aljazeera, 17-06-2020 https://www.aljazeera.com/news/2020/06/south-korea-north-blew-liaison-office-tensions-rise-200616071045580.html
- ข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Balloon_propaganda_campaigns_in_Korea