Skip to main content
sharethis

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุก 5 แกนนำ นปช. ชุมนุมล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ พล.อ.เปรม ปี 2550 ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ คนละ 2 ปี 8 เดือน

ณัฐวุฒิ ให้สัมภาษณ์ ก่อนขึ้นฟังคำพิพากษา โดยเขาสวมเสื้อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ที่แฟนทั่วโลกต่างฉลองแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาลนี้ ตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาล ที่มา ภาพ ยูดีดีนิวส์ - UDD news

มติชนออนไลน์ รายงานว่า 26 มิ.ย. 2563 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ห้องพิจารณา 703 ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อปี 2550 หมายเลขดำ อ.3531/2552 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006, วีระศักดิ์ เหมะธุลิน, วันชัย นาพุทธา, วีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.), ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช., วิภูแถลง พัฒนภูมิไท และ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. เป็นจำเลยที่ 1-7 ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ

ศาลฎีกาตรวจสำนวนปรึกษาหารือกันเเล้วว่า การกระทำของจำเลยที่ 1, 4-7 มีพฤติการณ์ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองเป็นเรื่องร้ายเเรง ที่จำเลยทั้งหมดขอให้ลงโทษสถานเบาเเละรอการลงโทษนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าฎีกาของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น ศาลเห็นพ้องกับที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษ พิพากษายืนจำคุกจำเลยทั้งหมดคนละ 2 ปี 8 เดือน โดยก่อนหน้านี้มีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้มาแล้ว 4 ครั้ง

เฟซบุ๊กแฟนเพจของ ณัฐวุฒิ เผยแพร่วิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้า โดยตัวเขาฝากโครงการด้วยรักและแบ่งปัน และยืนยันว่าการเคลื่อนไหวต่อสู้ทางการเมืองของตนเองที่ผ่านมาเป็นการต่อสู้ของตนโดยลำพังไม่เกี่ยวกับครอบครัว พร้อมยืนยันอีกว่าจะกลับมาหลังโทษที่แข็งแกร่งกว่าเดิม

คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อปี 2558 ให้จำคุก นพรุจ จำเลยที่ 1 เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่ฯ ส่วนวีระกานต์, ณัฐวุฒิ, วิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 คนละ 4 ปี 4 เดือน ฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายฯ และเป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานฯ และให้ยกฟ้อง วีระศักดิ์ และวันชัย จำเลยที่ 2-3 พร้อมให้ริบของกลางทั้งหมด

ต่อมาจำเลยที่ 1 ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้ว่า จำเลยไม่อยู่ในวันที่เกิดเหตุ ส่วนจำเลยที่ 4 -7 ยื่นอุทธรณ์ต่อสู้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดเพียงกรรมเดียว และเป็นการกระทำเพื่อปกป้องการถูกคุกคาม ซึ่งเป็นข้อยกเว้นในการลงโทษ ส่วนวีระศักดิ์และวันชัย จำเลยที่ 2-3 ซึ่งศาลยกฟ้องนั้น อัยการโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาเมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2560 แก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ ตามมาตรา 138 วรรคสอง ให้จำคุกคนละ 1 ปี และมีความผิดฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อให้เกิดความวุ่นวายโดยเป็นหัวหน้าสั่งการ ซึ่งเจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ตามมาตรา 215 วรรคหนึ่งและวรรคสาม, มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 215 วรรคสาม 1 กระทง ให้จำคุกคนละ 3 ปี รวมจำคุกคนละ 4 ปี แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีอยู่บ้าง ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4-7 คนละ 2 ปี 8 เดือน นอกเหนือจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ซึ่งในส่วนของนายนพรุจ จำเลยที่ 1 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน

หลังศาลอุทธรณ์พิพากษา ศาลอนุญาตให้ประกันตัวจำเลยทั้งห้า โดยตีราคาประกันคนละ 500,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขเดิมคือ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรเว้นแต่ได้รับอนุญาต

คดีนี้ตามฟ้องเกิดขึ้นเมื่อ 22 ก.ค. 2550 แกนนำและแนวร่วม นปช. หรือ นปก.ขณะนั้น นำขบวนผู้ชุมนุมหลายพันคนจากเวทีปราศรัยเคลื่อนที่สนามหลวง ไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม เพื่อเรียกร้องกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งระหว่างเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ ซึ่งนพรุจ จำเลยที่ 1 ได้ใช้ไม้เสาธงตีประทุษร้ายร่างกาย ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นามจันทร์เจียม เป็นเหตุให้กระดูกข้อมือแตกเป็นอันตรายสาหัส

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net