Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

การประท้วงการเหยียดผิวกับความรับผิดชอบของตำรวจและนักการเมือง
ข่าวนี้ New York police union reps hold press conference ใน 
https://www.youtube.com/watch?v=9nhWAAKSDBQ - วันที่ 9 มิ.ย. 2563 มีหลายวันมาแล้ว สาระสำคัญคือ ผู้นำสหภาพแรงงานตำรวจหลายแห่งรวมตัวกันแถลงข่าวในเมืองนิวยอร์ก แสดงความอึดอัดใจที่นักการเมืองผ่านกฎหมายจัดการชุมนุมประท้วงการตายของนาย George Floyd ชายผิวดำ โดยกำหนดให้ตำรวจควบคุมการประท้วงแบบ soft touch คือ สัมผัสเพียงเบาๆ เท่านั้น ตำรวจไม่เห็นด้วยกับกฎหมายดังกล่าวที่รีบร้อนผ่านกันตอนดึก นักการเมืองไม่ได้อ่านเนื้อหากันอย่างจริงจัง แล้วยกมือผ่าน อย่างไม่รับผิดชอบและปล่อยปละละเลยต่อการร่วมแก้ปัญหาอาชญากรรม เพราะในการประท้วงมีพวกสร้างสถานการณ์ให้รุนแรงแฝงตัวอยู่ และหาทางปล้นสะดม ก่อวินาศกรรม/ทำลายอาคารสถานที่ ทุบทำลายรถยนต์ ฯลฯ และฆ่าคนตาย โดยอย่างน้อย (ณ 29 มิ.ย. 63) 25 คนถูกฆ่าตาย โดยในจำนวนนี้ ตายเพราะลูกกระสุนปืน 21 ราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ถูกจับทั้งผิวดำและผิวขาว หมื่นกว่าคนแล้ว รวมถึงทรัพย์สินเสียหายหลายล้านดอลลาร์ ผู้นำสหภาพแรงงานตำรวจเหล่านี้กล่าวแย้งว่า ขณะนี้ตำรวจไม่สามารถทำงานอย่างมืออาชีพ เพื่อจับกุมคนร้ายที่ทำผิดกฎหมายเพื่อสอบสวนและเอาตัวไปดำเนินคดีอย่างยุติธรรมได้ และเพื่อทำให้ชุมชนสงบสุข ผู้นำสหภาพแรงงานโจมตีนักการเมืองออกกฎหมายปกป้องการประท้วง โดยไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่อันควร

แม้ว่าตำรวจจำนวนหนึ่งได้ทำสิ่งอันควรประณาม แต่ผู้นำสหภาพแรงงานตำรวจก็ยังมีจิตสำนึกสาธารณะ ยอมรับและสนับสนุนการใช้สิทธิประท้วงอย่างสันติ เสนอให้มีการเจรจากันอย่างสงบและประนีประนอมกัน แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากนักการเมืองและผู้นำการประท้วง ขณะเดียวกันตำรวจก็ถูกตัดงบประมาณด้วย ซึ่งเหล่าผู้นำสหภาพแรงงานตำรวจเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดในประเทศนี้มาก่อน 

การประท้วงเพื่อความยุติธรรมกับการปฏิรูปอันควร
เรื่องการประท้วงเพรียกหาความยุติธรรมทราบกันดีว่ามาจากการตายของนาย George Floyd ที่คนผิวดำที่กำลังเดือดอย่างสุดขีด มาเดือนกว่า จากการที่ตำรวจฆ่าคนผิวตำ (อีกแล้ว) ในเมือง Minneapolis มลรัฐ Minnesota เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2563

การประท้วงจึงกลายเป็นเรื่องคนผิวดำกำลังแก้แค้นตำรวจและรัฐบาลของคนผิวขาว ไม่ใช่เฉพาะทั้งรัฐ Minnesota แต่ขยายตัวไปทั้งประเทศ เกิดขึ้นกว่า 2,000 เมือง ครบหมดทั้ง 50 มลรัฐ และเขตปกครองพิเศษอื่นๆ รวมไปถึงประเทศอื่นๆอีกกว่า 60 ประเทศ โดยคนผิวขาวที่รักความยุติธรรมก็เข้าร่วมประท้วงการเหยียดสีผิว (Racism) ไม่น้อย ขณะเดียวกันดำรวจก็ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ในการป้องกันและควบคุมอาชญากรรมอันเกี่ยวเนื่องกับการดำเนินการประท้วงในส่วนที่รุนแรงและผิดกฎหมายให้กับชุมชน

บทเรียนการตายของ George Floyd โดยตำรวจทั้งสี่นายร่วมกระทำการมากบ้างน้อยบ้าง แต่ก็เป็นเรื่องน่าละอายใจที่สุด (ทั้งสี่คนไปปรากฏตัวที่ศาล เมื่อวานนี้ 29 มิ.ย. 63 โดยนายตำรวจ Derek Chauvin ที่ใช้เข่ากดคอ George Floyd (นานถึง 8-9 นาที จนหายใจไม่ออก และกล่าวร้องในลักษณะขอชีวิต "I can't breathe.” และเสียชีวิตในที่สุด ก่อนถึงโรงพยาบาล) ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมระดับที่สอง (Second degree murder) คือไม่ถึงกับเจตนาฆาตกรรมแท้ 100 เปอร์เซ็นต์ อีกสามคนที่เหลือถูกตั้งข้อหาว่าให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนต่อการฆาตกรรม แต่กว่าคดีจะพิจารณาเสร็จคงอีกพักใหญ่ เพราะศาลนัดรับฟังความครั้งต่อไปคือ 11 ก.ย. 2653 และเริ่มพิจารณาคดีจริงๆ คือ 8 มี.ค. 2564 การประท้วงจึงคงไม่สงบในเร็ววันนี้ และหากการเจรจาสันติภาพนอกศาลยังไม่เกิดขึ้นด้วย

จึงสมควรมากที่ต้องปฏิรูปการทำงานของตำรวจอย่างแรง รวมถึงการแก้ปัญหาความไม่เสมอภาคอื่นๆ ที่สังคมอเมริกันเองก็ยังมีจุดอ่อน รวมทั้งเป็นบทเรียนให้พิจารณาในเมืองไทยด้วย!

ความน่าเป็นห่วงและความน่าฉงนสนเท่ห์ระคนความตระหนก
น่าเป็นห่วงมากครับ ในขณะที่ COVID-19 กำลังระบาดในสหรัฐอเมริกามากที่สุดในโลก แต่สถานการณ์การประท้วง ก็นำไปสู่การทำร้ายกันและกันมากขึ้นๆระหว่างคนผิวดำและผิวขาว และผิวสีอื่นๆ ที่ถูกสถานการณ์ชักนำไปด้วย รวมถึงความรุนแรงและความไม่ปลอดภัยต่างๆที่อาจคิดไม่ถึง และก็กำลังบานปลายไปสู่เรื่องอื่นๆ อย่างน่าฉงนสนเท่ห์ระคนความตระหนก เมื่อคนอเมริกันสองผิวสีกำลังย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์การค้าทาส 150-200 ปี ก่อน ที่คนผิวดำกำลังเอามาคิดบัญชีประธานาธิบดีผิวขาวในอดีตเป็นผู้เหยียดผิวดำ จนถึงวันนี้ บางรัฐมีการรื้อรูปปั้นบุคคลสำคัญในอดีต ออกไปจากการเชิดชูเกียรติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประธานาธิบดีบางคนที่มีประวัติค้าทาส เช่น Theodore Roosvelt และ George Washington รวมถึง Christopher Columbus ผู้ค้นพบอเมริกา ด้วยข้อหาว่าการค้นพบอเมริกาของเขานำไปสู่การทำลายล้างเผ่าพันธุ์คนพื้นเมือง บางรัฐ เช่น Mississippi ซึ่งเป็นรัฐที่คนผิวดำอยู่เป็นจำนวนมาก สภาผู้แทนลงมติเอารูปสัญลักษณ์วงกลม 19 ดาว แห่งรัฐทั้ง 19 แห่ง อันเป็นสัญลักษณ์ของสัมพันธมิตรแบบสมาพันธรัฐอเมริกา (Confederate Emblem) ในยุคก่อนการรวมตัวเป็น 50 มลรัฐของสหรัฐอเมริกา ออกจากการร่วมประดับกับธงชาติสหรัฐอเมริกา และจะมีการออกแบบธงใหม่ เพราะรูปเดิมเป็นสัญลักษณ์ของรัฐทั้งหลายที่มีการกดขี่ชนพื้นเมือง

ข้าพเจ้าจึงหวังว่าการประท้วงจะจัดต่อไปได้อย่างสันติภาพจริงๆ ทั้งคนผิวดำและผิวขาวให้คุณค่าและเคารพการอยู่ร่วมกัน แม้จะมีความขมขื่นในอดีตที่ควรทำความเข้าใจอย่างให้อภัยต่อกัน แต่เพื่ออนาคตอันสำคัญกว่าในอารยธรรมแห่งความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติและประชาชนทุกสีผิว และการที่จะไม่ทำให้สหรัฐอเมริกาสั่นคลอนในความเป็นรัฐรวมแบบสหพันธรัฐประชาธิปไตย

คนไทยจะช่วยอะไรสหรัฐอเมริกา แบบหนูช่วยราชสีห์ได้บ้างครับ?!
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net