Skip to main content
sharethis

แว่น FPS Thailand ผู้ก่อตั้งทีม MiTH ทีมอีสปอร์ต เผยถูกเรียกไปคุย “กฏหมายควบคุมเกม” ชาวอีสปอร์ตคัดค้านเต็มที่ เอก HEARTROCKER ร่วมคัดค้านจนเกิดกระแสโต้กลับ เหตุก่อนหน้านี้นิ่งเฉยกรณีวันเฉลิม แฟนคลับบอกไม่จำเป็นต้องพูดเรื่องการเมือง ชาวทวิตชี้คุมเกม-อุ้มหาย คือเรื่องสิทธิเสรีภาพเหมือนกัน

ที่มาภาพจาก pixabay.com

2 ก.ค. 2563 วานนี้ “พี่แว่น FPS Thailand” หรือ บาส ชนิกนันท์ ทิพย์ไพโรจน์ ผู้ก่อตั้งทีม MiTH หรือ Made in Thailand E-Sports ทีมอีสปอร์ตที่มีชื่อเสียงในไทย ได้เปิดเผยผ่าน Twitch ว่าตนถูกเรียกไปพูดคุยที่รัฐสภาเรื่อง "กฎหมายควบคุมเกม" โดยกล่าวถึงเนื้อหาว่าตอนนี้มี 85 องค์กรที่สนับสนุนกฎหมายนี้ ซึ่งหากกฏหมายนี้ผ่านจะทำให้การแข่งเกมต้องขออนุญาต ห้ามแข่งขันเกม FPS หรือเกมที่มีความรุนแรง สตรีมเมอร์ห้ามสตรีมเกิน 2 ชม. ต่อวันเพราะจะมีประเด็นเรื่องสุขภาพเข้ามาเกี่ยวข้อง และคาดว่าน่าจะถูกบังคับใช้จริงควบคู่กับ พ.ร.บ e-Service กฎหมายอีกฉบับที่ร่างขึ้นเพื่อเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ให้บริการออนไลน์ต่างประเทศ ทั้งหนัง เพลง เกม ฯลฯ เพื่อดึงรายได้เข้ารัฐเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท

#EsportsTH เกิดขึ้นหลังมีประเด็นกฏหมายควบคุมเกม

วงการอีสปอร์ตเกิดการตื่นตัวในเรื่องนี้มากจนเกิด #EsportsTH ขึ้นมา ซึ่งมีทั้งคนในวงการอีสปอร์ต และผู้ใช้โซเชี่ยลจำนวนมากร่วมกันติดแฮสแท็ก รวมถึงเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ @MisterHeartz ของเอก HEARTROCKER ยูทูปเบอร์และนักแคสท์เกมชื่อดัง ซึ่งเดิมเคยมีประเด็นที่มีกลุ่มแฟนคลับเรียกร้องให้เอกแสดงจุดยืนในเรื่องวันเฉลิมอุ้มหาย แต่ก็มีแฟนคลับอีกกลุ่มพยายามปกป้องและชี้ว่าเรื่องวันเฉลิมไม่เกี่ยวข้องกับเอก ไม่ให้ดึงเอกไปเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเมือง

จากกฏหมายควบคุมเกมสู่การถกเถียงจุดยืนทางเสรีภาพ

หลังจากเอกทวิตข้อความ “ลิมิตการสตรีมแค่ 2 ชม.มีผลยังไงบ้าง” พร้อมติด #EsportsTH จึงเกิดกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำไมในตอนกระแส #saveวันเฉลิม จึงไม่แสดงจุดยืน แต่เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตนเองจึงออกมาแสดงจุดยืนชัดเจน ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องการลิดรอนสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลเหมือนกัน จากนั้นจึงมีแฟนคลับของเอกออกมาทวิตโต้กันไปมาในเชิงปกป้องและกล่าวว่าเรื่องกฏหมายควบคุมเกมเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเอกโดยตรง แต่เรื่องของวันเฉลิมไม่ใช่เรื่องของเอกโดยตรง ทำไมเอกจึงต้องแสดงจุดยืนในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเขาด้วย และเรียกร้องให้เอกลบทวิตนี้

#คุณโดนอุ้มก็เรื่องของคุณค่ะ - การเพิกเฉยต่อกรณีทางการเมือง

เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ @natthanachi ทวิตข้อความ “คุณโดนอุ้มก็เรื่องของคุณค่ะ เพราะเข้าใจไว้ว่าคุณตัดสินใจแบกรับความเสี่ยงตั้งแต่ออกมาเรียกร้องแล้ว แต่พี่เอกเขาอาจคิดคนละแบบกับคุณ นั่นคือเขาไม่พร้อมรับความเสี่ยง แล้วคุณจะไปบังคับไปกดดันเขา ซึ่งคุณพร้อมยอมรับความเสี่ยงแทนเขามั้ยคะ? (จะเข้าใจที่เราพูดมั้ยน้า??)”

ทวิตนี้กลายเป็นกระแสขึ้นมาจนมี #คุณโดนอุ้มก็เรื่องของคุณค่ะ ขึ้นมาเป็นเทรนอันดับ 1 ในทวิตเตอร์ ซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยพยายามจะแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงและการเพิกเฉยต่อกรณีอุ้มหายวันเฉลิม และกล่าวไปถึงคนดังในทุกวงการของไทยว่ามีการเพิกเฉยต่อกรณีทางการเมืองทั้งสิ้น เพราะเกรงกลัวอิทธิพลของรัฐบาล 

แฟนคลับชี้เอกก็สนใจการเมือง - การกลับมาของ#saveวันเฉลิม

ผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายบัญชีพยายามทวิต #คุณโดนอุ้มก็เรื่องของคุณค่ะ ว่าไม่ได้เป็นข้อความที่มาจากเอกแต่มาจากแฟนคลับ พวกเขาแก้ต่างให้เอกว่า เอกก็สนใจการเมืองเพราะเคยพูดถึงเรื่องการเมืองอยู่บ้างใน podcast และเวลาสตรีมเกม ดังนั้นเอกก็ควรมีสิทธิที่จะปกป้องตนเองในเรื่องที่ตนเองเดือดร้อน อีกด้านหนึ่งก็มีผู้แสดงความคิดเห็นว่า ดีใจที่ #saveวันเฉลิม กลับมาติดเทรนในทวิตเตอร์ แต่ก็มีบางส่วนตั้งคำถามว่า การที่ #saveวันเฉลิม กลับมาติดเทรนด์ในทวิตเตอร์นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรือ 

สำหรับกระแสของ #saveวันเฉลิม พบว่ามีคนบางส่วนพูดถึงการเพิกเฉยต่อเรื่องอุ้มหายวันเฉลิม มากขึ้น และกล่าวว่า สิ่งที่วันเฉลิมทำนั้นเพื่อประชาธิปไตย แต่ถูกกลุ่มคนบางกลุ่มโจมตีและมองว่า การอุ้มหายของวันเฉลิมเป็นเรื่องที่ประชาชนทั่วไปไม่ควรเข้าไปช่วยเหลือหรือยุ่งเกี่ยว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net