สนท. อ่านแถลงการณ์ต่อต้าน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หลังได้รับหมายเรียกทั้งที่กิจกรรมเว้นระยะห่าง

8 ก.ค. 2563 สนท. อ่านแถลงการณ์หน้า สน.ปทุมวัน ระบุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถูกใช้ทางการเมืองและขาดความยุติธรรม หลังได้รับหมายเรียกจากการจัดกิจกรรมรำลึกการหายตัวไปของวันเฉลิม และกิจกรรมรำลึกการปฏิวัติ 2475 ทั้งที่รักษาระยะห่างในการชุมนุมแล้ว

10.30 น. หน้า สน.ปทุมวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมกำลังพลและพื้นที่ เตรียมรับมือกับกิจกรรมอารยะขัดขืนต่อต้าน พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นำโดยสหภาพนักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) ในเวลา 11.00 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดให้มีการคัดกรองอุณหภูมิ แยกพื้นที่ระหว่างประชาชนและสื่อมวลชน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประจำตามจุดต่างๆ ระหว่างนี้มีประชาชนทยอยมาร่วมกิจกรรมจำนวนหนึ่งแล้ว

สน.ปทุมวัน ตั้งแผงกั้นเพื่อคัดกรองอุณหภูมิ และแยกพื้นที่ระหว่างประชาชนกับสื่อมวลชน

กิจกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังสมาชิก สนท. ได้รับหมายเรียกจาก สน.ปทุมวัน หลังจัดงานรำลึกการปฏิวัติ 2475 ที่สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน

อนึ่ง เมื่อ 30​ มิ.ย. ที่ผ่านมา หน้า​ สน.ปทุมวัน สมาชิก สนท. นำโดย พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำ​ สนท. และปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โฆษก สนท. เคยฉีกหมายเรียกจากการจัดกิจกรรมรำลึกการหายตัวไปของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์เมื่อ 5 มิ.ย. 63 มาแล้ว

11.00 น. พริษฐ์และปนัสยา เดินทางมาถึง สน. ปทุมวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเตือนผู้ชุมนุมและสื่อมวลชนไม่ให้ใช้พื้นผิวถนนและรักษาระยะห่าง 1 เมตร มีผู้ร่วมกิจกรรมราว 20 กว่าคน

ผู้ชุมนุมผลัดกันเขียนป้ายข้อความและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ หลังจากนั้นพริษฐ์และปนัสยาสลับกันอ่านแถลงการณ์ มีใจความโดยสรุปว่า การทำกิจกรรมครั้งนี้สืบเนื่องจากการได้รับหมายเรียกข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากการชุมนุมรำลึกการหายตัวไปของวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อ 5 มิ.ย. และการรำลึกการปฏิวัติ 2475 เมื่อ 24 มิ.ย. ทั้งที่การชุมนุมจัดให้มีการวางระยะห่างแล้ว เดิมทีเจ้าหน้าที่จะจับกุมสมาชิก สนท. ตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. แต่ไม่กล้า เนื่องจากมีสื่อมวลชนจำนวนมาก สะท้อนว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถูกใช้ในทางการเมืองและไม่มีความยุติธรรม

แถลงการณ์ระบุว่า การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กลับกลายเป็นการควบคุมประชาชน ยัดข้อหาให้กับคนที่วิจารณ์รัฐบาลและรวบอำนาจไว้กับนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการใช้ใบรับรองแพทย์รัฐประหารเงียบเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอำนาจเต็มที่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รัฐบาลสามารถทำการจัดซื้อจัดจ้างด่วนโดยไม่มีการเปิดประมูล เบิกงบประมาณฉุกเฉินได้ไม่จำกัด ทำอะไรผิดก็ไม่ต้องรับผิดชอบ ในขณะที่ประชาชนเดือดร้อน ยากจน และการเยียวยาจากรัฐบาลก็กระทำแบบขอไปที ไม่มีประสิทธิภาพ

พริษฐ์และปนัสยาอ่านแถลงการณ์หน้า สน.ปทุมวัน

เนื้อหาในแถลงการณ์ยังระบุอีกว่า เป็นเวลา 4 เดือนแล้วภายใต้ระบอบเผด็จการจำแลง ทุกครั้งที่รัฐบาลต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งที่ไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศมานานกว่าเดือนแล้ว ทำให้รัฐบาลไม่เหลือความชอบธรรมในการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีกต่อไป

พรรคพวกเผด็จการทั้งหลายพึงรู้ว่าการเป็นรัฐบาลต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเหนืออื่นใด หากรัฐบาลทอดทิ้งประชาชน ประชาชนก็จะลุกขึ้นมาโค่นล้มรัฐบาล

เมื่ออ่านแถลงการณ์เสร็จ ผู้ชุมนุมต่างแยกย้ายกลับ

พริษฐ์พูดถึงความคืบหน้าของการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายเรียกว่า ปัจจุบันหมายเรียกที่ 2 ที่ตามมาจากหมายเรียกครั้งแรกในกรณีจัดชุมนุมรำลึกถึงวันเฉลิมนั้นมาถึงแล้ว และมีนัดให้มารับฟังข้อกล่าวหาในวันนี้ แต่เขากับปนัสยาจะไม่เข้าไปรับฟังข้อกล่าวหาเนื่องจากไม่ยอมรับความชอบธรรมของการใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน หากมีการจับกุมก็จะไม่หนี 

"อยากจับก็มาจับ ยังไงเราไม่ยอมเดินเข้ากระบวนการโดยดีอยู่แล้ว เพราะการเดินเข้ากระบวนการมันเป็นการยอมรับความชอบธรรมของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อยากจับก็มาจับ ไม่หนีแน่นอน"

ต่อกรณีการถูกคุกคามจากเจ้าหน้าที่รัฐหลังทำกิจกรรมชุมนุม พริษฐ์และปนัสยาเล่าว่ายังคงมี และอยากขอให้พวกเขาหยุดกับปฏิบัติการเช่นนี้ได้แล้ว

"ช่วงนี้ขบวนการนักศึกษาถูกเพ่งเล็งจากหน่วยงานความมั่นคงค่อนข้างมาก ล่าสุดเมื่อวานเพื่อนที่ไปทำกิจกรรมฉายแสงใส่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็ถูกตำรวจขับรถติดตาม การไปตามที่บ้านยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเดือนที่ผ่านมา (มิ.ย.) เราโดนกันทุกคน ผมอยากฝากบอกถึงฝ่ายความมั่นคงว่า หยุดได้แล้ว หยุดทันที การที่มาคุกคามเราอย่างนี้ไม่ได้ทำให้เรากลัวหรือหยุดเลย มันจะทำให้เรายิ่งมีไฟในการต่อต้านพวกคุณมากขึ้น เพราะเรายิ่งเห็นได้ชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าพฤติกรรมต่ำทรามของพวกคุณนั้นปิดกั้นปรกะชาชนอย่างไร" พริษฐ์กล่าว

"การใช้อำนาจแบบนี้ยิ่งตอกย้ำให้เราเห็นว่าเขาต้องการอะไร อยากฝากถึงรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคงว่า ถ้าคุณไม่หยุด ถ้าจะยังคุกคามเพื่อนเราขนาดนี้ เดี๋ยวเราได้เจอกัน" ปนัสยากล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท