13 ก.ค.2563 จากกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงพบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย หนึ่งในนั้นเป็นทหารอียิปต์  อายุ 43 ปี เดินทางพร้อมกับคณะรวม 31 คนในวันที่ 8 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา และเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ ซึ่งเป็นโรงแรม จ.ระยอง และยังเดินทางไปปฏิบัติภาระกิจทางทหารประเทศจีนและกลับมาเมืองไทยอีกครั้งวันเดียวกัน โดยวันที่ 10 ก.ค. ตรวจหาเชื้อพร้อมลูกเรือรวมทั้งหมด 31 ราย และคณะทั้งหมดเดินทางกลับวันที่ 11 ก.ค. ศบค.ระบุด้วยว่า การเดินทางของทหารกลุ่มนี้เป็นไปตามเงื่อนไขข้อยกเว้นที่ให้ลูกเรือต่างชาติเข้ามาปฏิบัติภารกิจในประเทศไทยได้ และในขณะนี้ที่เปิดให้เดินทางเข้ามามากขึ้นตามข้อยกเว้นของ ศบค. นั้น

ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาตรการของรัฐอย่างมาก โดยเฉพาะในทวิเตอร์เกิดแฮชแท็ก #อีแดงกราบตีนคนไทย ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์วันนี้ด้วยยอดกว่า 9 แสนทวีต วิพากษ์วิจารณ์ถึงกองทัพและ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่มีชื่อเล่นว่า 'แดง'

บันทึกเมื่อเวลา 23.20 น. วันที่ 13 ก.ค.63

ทบ. ยัน 'ผบ.ทบ.' ไม่เกี่ยวทหารอียิปต์ติดโควิด

อย่างไรก็ตาม ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวยืนยันว่า กองทัพบก และ พล.อ.อภิรัชต์  ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับการเดินทางมาไทยของทหารอียิปต์ ที่ติดเชื้อ โควิด-19 ซึ่งเข้ามาในฐานะลูกเรือ ถือเป็น 1 ใน 11 กลุ่มชาวต่างชาติที่สามารถเข้าประเทศไทยได้ ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในการสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 6) โดยจัดอยู่ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรตามภารกิจ และมีมาตรการรองรับในการกำกับดูแล ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูล โดยเฉพาะแฮชแท็กที่ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ และโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีการกล่าวหาและเชื่อมโยงให้เกิดความเข้าใจผิดว่ากองทัพบกหรือผู้บัญชาการทหารบกมีส่วนเกี่ยวข้อง

เฟซบุ๊กแฟนเพจ Army Spoke Team ของกองทัพบก โพสต์ข้อความระบุว่า ด้วยขณะนี้ปรากฏมีการสร้างกระแสโดยติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ และโซเชียลมีเดีย กล่าวหาและเชื่อมโยงให้เข้าใจผิดว่ากองทัพบกหรือผู้บัญชาการทหารบกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ทหารอียิปต์ซึ่งเดินทางโดยเครื่องบินเข้ามาในไทย และได้เข้าพักชั่วคราวในสถานที่กักตัวที่ จ.ระยอง ต่อมาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 นั้น 

ขอเรียนว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง กองทัพบกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการเดินทางของทหารอียิปต์นายนี้ ขอประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ เพราะเป็นการกล่าวหาโดยปราศจากข้อเท็จจริง เชื่อมโยงในลักษณะชี้นำ หวังให้เกิดความเข้าใจผิด และขอผู้ใช้โซเชียลมีเดียยุติการส่งข้อความต่อหรือติดแฮชแท็กในข้อความดังกล่าว เพราะไม่ใช่เรื่องจริงและอาจตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่มีเจตนาบิดเบือนให้ร้ายต่อกองทัพบก และขอให้รับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือ ศบค. เป็นสำคัญ

โฆษก ศบค. ระบุทหารอียิปต์ได้รับอนุญาต แต่ไม่กล่าวโทษใคร

การชี้แจงของ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.ที่ไทยโพสต์รายงาน ระบุถึงกรณีทหารชาวอียิปต์และเด็กหญิงที่เป็นสมาชิกครอบครัวคณะทูตว่า ถือเป็นข้อยกเว้นของ ศบค. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่กล่าวโทษใครเพราะเขาได้รับอนุญาต ไม่ใช่ข้อผิดพลาดอะไร ชุดข้อมูลนี้เราจะนำไปปรับปรุงวิธีการทำงานปิดจุดอ่อนให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะกรณีของสถานทูตนั้นเราเข้าใจว่าทุกสถานทูตมีพื้นที่พำนัก แต่กรณีนี้ที่ใช้คอนโดฯเป็นสถานที่พำนักกระทรวงการต่างประเทศจะประสานทำความเข้าใจให้สถานทูตต่างๆต้องกักตัวครอบครัวในคณะทูตให้อยู่ในสถานที่ของท่านเองเป็นเวลา 14 วัน และยืนยันขณะนี้ยังไม่มีข้อเสียหายอะไรเกิดขึ้น ข่าวดังกล่าวที่ออกมาจะช่วยย้ำเตือนให้ประชาชนรู้ว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัว

ทหารอียิปต์ติดโควิดจำนวนมากตั้งแต่ มี.ค.

ฐานเศรษฐกิจ รายงานสิ่งที่สำนักข่าวมิลเดิลอีสต์มอร์นิเตอร์ หรือ MEMO เผยแพร่ข่าวเมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ในเนื้อข่าวระบุว่า นายพลระดับสูงของทหารอียิปต์เสียชีวิต 2 คน เนื่องมาจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยมีผู้บัญชาการด้านงานข่าวและข้อมูลของสถาบันทหารแห่งหนึ่งให้ข้อมูลกับสื่อและยังเสริมด้วยว่ามีทหารอีกกว่า 550 นายที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นี้ด้วย