Skip to main content
sharethis

19 ก.ค. 2563 ศบค. แถลงไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 3 คน พบจากสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ รวมผู้ติดเชื้อสะสม 3,249 คน รวมรักษาหายสะสม 3,096 คน รวมผู้เสียชีวิตสะสม 58 คน - สวนดุสิตโพลเผยประชาชนกังวลแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่ ขอรัฐบาลคัดกรองเข้มไม่ยกเว้นบุคคลพิเศษ - ยอดจอง 'เราเที่ยวด้วยกัน' แล้ว 3.6 ล้านคน เตือนผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาห้องพัก

19 ก.ค. 2563 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ไทยพบผู้ติดเชื้อใหม่ 3 คน ใน State Quarantine ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสม 3,249 คน หายป่วยคงที่ 3,096 คน ยังรักษาในโรงพยาบาล 95 คน เสียชีวิตคงที่ 58 คน 

สำหรับผู้ป่วยใหม่เป็นชายไทย อายุ 60 ปี อาชีพนักงานบริษัทเดินทางมาจากสิงคโปร์ เข้าพักใน State Quarantine ที่ กทม. ตรวจพบเชื้อ 17 ก.ค. ไม่มีอาการ คนที่ 2 เป็นชายไทยอายุ 43 ปี เดินทางมาจากสิงคโปร์คัดกรองด่านควบคุมโรคพบอากรเข้าเกณฑ์ PUI ตรวจพบเชื้อ 17 ก.ค. ส่งรักษาต่อในโรงพยาบาล

ผู้ป่วยรายใหม่คนที่ 3 เป็นชายไทย อายุ 39 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางมาจากซูดาน มีอาการไอเข้าเกณฑ์ PUI ที่ด่านควบคุมโรค ตรวจพบเชื้อ 18 ก.ค. ส่งตัวรักษาในโรงพยาบาล จ.สมุทรปราการ

ส่วนการตรวจเชื้อ COVID-19 ที่ จ.ระยอง ตรวจแล้ว 6,015 คน ไม่พบเชื้อ 5,201 คน รอผล 814 คน ส่วนใน กทม. ตรวจทั้งหมด 364 คน ไม่พบเชื้อทั้งหมด

ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสมแล้ว 14,422,468 คน ป่วยเพิ่มวันเดียว 233,450 คน หายป่วยสะสม 8,611,647 คน และเสียชีวิตสะสม 604,823 คน สหรัฐฯ ยังป่วยมากสุด 3,833,271 ป่วยเพิ่มวันเดียว 63,259 คน รองลงมาคือ บราซิล อินเดีย รัสเซีย และแอฟริกาใต้ ขณะที่ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมเป็นอันดับที่ 101 ของโลก

“ขณะนี้ยังเป็นสถานการณ์ที่วิกฤต จากหลักหมื่นต่อวันเป็นหลักแสน ตอนนี้เป็นหลัก 2 แสนต่อวัน และยังไม่รู้ว่าจะไปคงที่ตรงไหน”

นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังเปิดเผยว่า ศบค.ชุดใหญ่เตรียมพิจารณาการผ่อนปรนในระยะที่ 6 กลางสัปดาห์นี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการผ่อนปรน 3-4 รายการ ได้แก่ แรงงานที่ต้องเข้าไทยเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ การแสดงสินค้า กองถ่ายภาพยนตร์ และนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม โดยการประชุมจะมีการหารืออย่างรอบด้าน โดยต้องรอ ผอ.ศบค.กำหนดวันก่อนแต่ยืนยันว่าไม่เกินสัปดาห์นี้

ขณะเดียวกัน ในวันจันทร์หรืออังคารนี้ ศบค.ชุดเล็ก จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยต้องหารือให้รอบด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ และความมั่นคง โดยนำปัจจัยทั้งหมดมาหารือเพื่อให้เกิดความรอบด้าน

“เรายึดถือความปลอดภัยของคนไทยจากการติดโรคเป็นอันดับที่ 1 ดังนั้น กิจการหรือกิจกรรมทุกๆ ส่วนที่เกิดขึ้น ต้องยึดหลักปราศจากการแพร่ระบาดของโรค จึงต้องนำข้อมูลสาธารณสุขมาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการดูกิจการหรือกิจกรรมในแต่ละระยะด้วย”

สวนดุสิตโพลเผยประชาชนกังวลแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “ความวิตกกังวลของคนไทยเกี่ยวกับการแพร่ระบาด COVID-19 ระลอกใหม่” กลุ่มตัวอย่าง 1,459 คน โดยสำรวจระหว่างวันที่ 14 - 18 ก.ค.2563 พบว่า ประชาชนมีความวิตกกังวลต่อกรณีทหารอียิปต์และครอบครัวชาวซูดานที่เดินทางเข้าประเทศไทยติดเชื้อ COVID-19 ร้อยละ 91.91 โดยพบว่า วิตกกังวลมาก ร้อยละ 52.23 และค่อนข้างวิตกกังวล ร้อยละ 39.68

นอกจากนี้ ประชาชนกังวลในประเด็นการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ระลอกใหม่มากที่สุด ร้อยละ 95.89 คาดว่าน่าจะมีการล็อกดาวน์รอบที่ 2 ร้อยละ 73.82 จึงเห็นว่ายังไม่ควรอนุญาตให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ร้อยละ 94.51 โดยสิ่งที่รัฐบาลควรดำเนินการเพื่อลดความวิตกกังวลของประชาชนพบ ร้อยละ 47.38 คือ มีระบบคัดกรองและกักตัวที่เข้มงวดกว่านี้ ไม่ยกเว้นบุคคลพิเศษ 

ทั้งนี้ ผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนมีความวิตกกังวลอย่างมากต่อกรณีพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เดินทางเข้าไทย โดยกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่จนเกิดผลกระทบอย่างที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคนตกงาน การค้าขายหยุดชะงัก มีการประกาศล็อกดาวน์ การปิดสถานศึกษา ฯลฯ ดังนั้น ประชาชนจึงอยากให้รัฐบาลรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเร่งดำเนินการแก้ไขไม่ว่าจะเป็นการกำหนดมาตรการทางสาธารณสุขที่เข้มงวด ไม่มีการยกเว้นสำหรับผู้มีสิทธิพิเศษในทุกกรณี แก้ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ รวมถึงออกมาชี้แจงสร้างความเข้าใจกับประชาชนอย่างทัน

ยอดจอง 'เราเที่ยวด้วยกัน' แล้ว 3.6 ล้านคน เตือนผู้ประกอบการอย่าฉวยโอกาสขึ้นราคาห้องพัก

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ยอดการจองที่พักในโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" วันแรก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 พบว่ามีอัตราการจองของประชาชนแล้วอยู่ที่ 3.6 ล้านคน โดยนับจากการที่โรงแรมที่พักได้ส่งอัตราค่าห้องพักให้นักท่องเที่ยวได้ชำระเงิน โดยเมืองหลักยังคงได้รับความนิยมสูง ส่วนแหล่งท่องเที่ยวระยะใกล้มียอดจองสูงสุดในภาคตะวันออกและตะวันตก โดยประชาชนนิยมจองโรงแรมติดทะเล และส่วนใหญ่จะจองเพียง 1 คืน ส่วนแหล่งท่องเที่ยวระยะไกลที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ภาคใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดกระบี่ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมจองที่พักจำนวน 2 คืน

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ทางด้านระบบสมัครรับสิทธ์ ระบบการแจ้งยอด และระบบชำระค่าห้องพักนั้น ทุกอย่างถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี คาดว่าช่วงวันเสาร์-อาทิตย์นี้ประชาชนจะทยอยเข้าร่วมโครงการฯและจองห้องพักมากขึ้น โดยในช่วงสัปดาห์หน้าจะมีช่วงวันหยุดยาวชดเชยสงกรานต์ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มมีการเดินทางในช่วงวันศุกร์ที่ 24 ก.ค.เป็นต้นไป

ในส่วนสิทธิพิเศษตามโครงการ"เราเที่ยวด้วยกัน"นั้น รัฐบาลได้สนับสนุนค่าใช้จ่าย 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ซึ่งจองได้ไม่เกิน 5 คืน มีด้วยกัน 5 ล้านสิทธิ์

น.ส.ไตรศุลี ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลขอความร่วมมือและย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการโรงแรมที่พักว่า อย่าใช้โอกาสนี้ขึ้นราคาที่พัก หลังพบข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่ามีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยจะมีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบว่ามีการขึ้นราคาจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว หากพบว่าโรงแรมมีการขึ้นราคาจริง โรงแรมจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการทันที

"โครงการเราเที่ยวด้วยกันนี้ มุ่งหวังที่จะส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่างๆ อันเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาครวม จึงหวังว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ฉวยโอกาสกับประชาชน" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ

ในส่วนสิทธิพิเศษตามโครงการ"เราเที่ยวด้วยกัน"นั้น รัฐบาลได้สนับสนุนค่าใช้จ่าย 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ซึ่งจองได้ไม่เกิน 5 คืน มีด้วยกัน 5 ล้านสิทธิ์

น.ส.ไตรศุลี ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลขอความร่วมมือและย้ำเตือนไปยังผู้ประกอบการโรงแรมที่พักว่า อย่าใช้โอกาสนี้ขึ้นราคาที่พัก หลังพบข้อมูลในโซเชียลมีเดียว่ามีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก โดยจะมีหน่วยงานเข้าไปตรวจสอบว่ามีการขึ้นราคาจริงหรือไม่ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว หากพบว่าโรงแรมมีการขึ้นราคาจริง โรงแรมจะถูกตัดสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการทันที

"โครงการเราเที่ยวด้วยกันนี้ มุ่งหวังที่จะส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว เพื่อกระจายรายได้สู่พื้นที่ต่างๆ อันเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาครวม จึงหวังว่าผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ฉวยโอกาสกับประชาชน" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุ

ที่มาเรียบเรียงจาก: Thai PBS [1] [2] | สำนักข่าวอินโฟเควสท์

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net