Skip to main content
sharethis

ทางการสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรจีนเพิ่มด้วยสาเหตุเรื่องที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยในซินเจียง โดยมีการขยายการคว่ำบาตรต่อหนึ่งบริษัทจีนและเจ้าหน้าที่ทางการจีนที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัท ทั้งนี้รัฐบาลไต้หวันยังได้แถลงเรียกร้องให้จีนเลิก 'กดขี่ข่มเหง' ประชาชนชาวฮ่องกง หลังจากที่จีนและทางการฮ่องกงลิดรอนเสรีภาพประชาชนอย่างต่อเนื่องในหลายด้านในช่วงที่ผ่านมา


ที่มาภาพประกอบ: BriYYZ (CC BY-SA 2.0)

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 ก.ค. 2563) กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเพิ่มต่อบริษัทของจีนที่ชื่อซินเจียงโปรดักชันแอนด์คอนสตรักชัน (XPCC) และเจ้าหน้าที่ทางการจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทนี้ 2 ราย โดยระบุถึงสาเหตุของการคว่ำบาตรว่าเพราะบริษัทและบุคคลเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงต่อชนกลุ่มน้อยในซินเจียง

กรพทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่าบริษัทนี้มีลักษณะเป็นองค์กรผสมกองทัพในซินเจียงที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาการจากพรรมคอมมิวนิสต์จีน "เพื่อที่จะขยายการควบคุมพื้นที่ภูมิภาค (ซินเจียง) โดยการรุกคืบด้วยวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของพวกเขา"

บริษัทซินเจียงโปรดักชันฯ เป็นบริษัทกึ่งทหารที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2497 โดยเริ่มต้นตั้งขึ้นจากกลุ่มทหารปลดประจำการที่ใช้เวลาส่วนหนึ่งในการฝึกฝนทางการทหารและอีกส่วนหนึ่งไปกับการเปลี่ยนพื้นดินแห้งแล้งให้กลายเป็นฟาร์ม ในเวลาต่อมาก็เริ่มมีพลเรือนจากทางตะวันออกของจีนเข้าร่ววมและในตอนนี้ก็มีผู้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท 3.11 ล้ายราย มีจำนวนมากกว่าประชากรในภูมิภาคซินเจียงร้อยละ 12 นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทที่มีชาวจีนเชื้อสายฮั่นเป็นส่วนใหญ่ในดินแดนที่มีชาวมุสลิมอุยกูร์อาศัยอยู่เป็นส่วนมาก

มีผู้เชี่ยวชาญเคยกล่่าวถึงบริษัทนี้ว่าเปรียบเสมือน "รัฐซ้อนรัฐ" ที่ทำการตั้งเมืองใหม่ภายในพื้นที่ซินเจียง โดยมีทั้งโรงเรียน, มหาวิทยาลัย ตำรวจ และศาลของตัวเอง

การเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ ในครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังถดถอยลง โดยที่ไม่นานนี้เคยมีการสั่งปิดสถานกงสุลจีนจนทำให้จีนโต้ตอบด้วยการปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ สำหรับกรณีซินเจียงที่เคยมีการกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้น ทางการจีนปฏิเสธว่าชาวอุยกูร์ไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมแบบคนชายขอบ จีนกล่าวอีกว่าพวกเขาแค่ทำจัดการปัญหา "การด้อยพัฒนา" และ "การว่างงาน" ที่เกิดขึ้นมากในพื้นที่ของชาวอุยกูร์

นอกจากความขัดแย้งจากประเด็นซินเจียงแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่ทำให้หลายประเทศไม่ลงรอยกับจีนคือกรณีการที่จีนใช้อำนาจกดขี่ข่มเหงชาวฮ่องกงโดยที่ล่าสุดหลังจากออกกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ที่ให้อำนาจทางการกว้างขวาง จีนก็ทำการจับกุมเยาวชนที่เป็นนักกิจกรรมเรียกร้องอิสรภาพฮ่องกง มีการไล่นักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตยออก และมีการอ้างตัดสิทธิผู้แทนฯ ฝ่ายส่งเสริมประชาธิปไตย 11 รายรวมถึงโจชัว หว่อง ไม่ให้เข้าร่วมการเลือกตั้ง และอ้างสถานการณ์ COVID-19 เลือกการเลือกตั้งออกไปเป็นปีหน้า

พรรครัฐบาลไต้หวันแถลงเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมาเรียกร้องให้ทางการจีนและทางการฮ่องกงหยุด "กดขี่ข่มเหง" ประชาชนชาวฮ่องกงหลังจากที่เกิดเหตุลิดรอนเสรีภาพหลายเรื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าของไต้หวันแถลงว่าสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในฮ่องกงขัดกับหลักการประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมรวมถึงขัดกับหลักการสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานโดยทั้งสิ้น

"ในตอนนี้โลกสามารถเห็นได้ชัดแล้วว่าจีนได้ทำการละเมิดเสรีภาพของประชาชนชาวฮ่องกงและมีเจตนาในการสร้าง 'ยุคสมัยแห่งความน่าสะพรึงกลัว' " รัฐบาลไต้หวันระบุในถ้อยแถลง


เรียบเรียงจาก
U.S. imposes human rights sanctions on Chinese company, individuals, Today Online, 31-07-2020
Taiwan ruling party urges China to stop 'oppression' of Hong Kong, Today Online, 30-07-2020
Hong Kong bans Joshua Wong and 11 other pro-democracy figures from legislative election, Hong Kong Free Press, 30-07-2020
Hong Kong postpones legislative election for a year citing Covid-19, Hong Kong Free Press, 31-07-2020

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net