Skip to main content
sharethis

กลุ่มเยาวชนปาตานีปลดแอก ชุมนุมหน้ามัสยิดกรือเซะ หนุนข้อเรียกร้อง ยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ หยุดคุกคามประชาชน หวังประเทศไทยเปลี่ยนระบบการปกครองให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยจริงๆ เหตุสามารถทำให้พื้นที่นี้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืน

2 ส.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันนี้ ที่ลานบริเวณมัสยิดประวัติศาสตร์ (มัสยิดกรือเซะ) ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี กลุ่มเยาวชนปาตานีปลดแอก (Persatuan Pemuda Patani) รวมตัวกันจัดแฟลชม็อบในชื่อ "ออแร ตานิง ตะเละห์เอาะ" หรือ คนปาตานีก็ทนไม่ได้ ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก ประกอบด้วยเยาวชนในพื้นที่ นักเรียน นิสิตนักศึกษา นักเคลื่อนไหว เอ็นจีโอ และประชาชนทั่วไป ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและฝ่ายความมั่นคงสกัดจุดทางเข้าทุกเส้นทาง รวมทั้งรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด  

 

ขอบคุณคลิปจาก Free Voice www.facebook.com/media.FreeVoice

อับดุลซาตาร์ บาโล หนึ่งในแกนนำผู้จัดงานกลุ่มเยาวชนปาตานี เปิดเผยว่า กิจกรรมในครั้งนี้มาจากที่พวกเราทุกคนเยาวชนปาตานีร่วมกันจัดขึ้นมา โดยไม่มีใครเป็นเจ้าของหลัก แต่มีประชาชนทุกคนที่มาร่วมงานและไม่สามารถมาร่วมงานได้คือเจ้าของงานหลักในครั้งนี้ ข้อเรียกร้องเราก็เหมือนเพื่อนจากส่วนกลางเพื่อเป็นการหนุนเสริมประเด็นหลักของประเทศ คือ 1) เรียกร้องให้มีการยุบสภา 2) ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3) หยุดคุกคามประชาชน แต่สิ่งที่คาดหวัง คือ ให้ประเทศไทยเปลี่ยนระบบการปกครองให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยจริงๆ  เพราะเราเชื่อว่า มันสามารถทำให้พื้นที่บ้านเราเกิดสันติภาพที่ยั่งยืนได้

อับดุลซาตาร์ กล่าวต่อว่า กิจกรรมของเราวันนี้ คือ บอกในสิ่งที่เราต้องการผ่านการอ่านบทกวีและไฮปาร์ค ถึงบริบทที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตลอดระยะเวลา 16 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการคุกคามเสรีภาพของประชาชน

 

ขณะที่ อารีฟิน โสะ ผู้เข้าร่วมงาน เปิดเผยว่า ตนพร้อมที่จะหนุนข้อเรียกร้องทั้งสามข้อที่เยาวชนปลดแอกในภูมิภาคอื่นๆ ได้ขับเคลื่อน วันนี้ต้องสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่ที่เรามีส่วนร่วมกับการเคลื่อนไหวในประเด็นประชาธิปไตยในกรุงเทพฯ เพราะการแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่เราต้องแก้ระบบทางการเมือง  จะเห็นได้ว่า 16 ปีที่ผ่านมาระบบทหารที่ออกแบบนโยบายและการขับเคลื่อนงบประมาณเพื่อแก้ปัญหามันกลับไม่ได้ผล เพราะอำนาจเผด็จการที่ไม่เห็นหัวประชาชน ดังนั้น ระบอบประชาธิปไตยคือแนวทางที่จะส่งผลต่อการต่อสู้ของคนปาตานี 

อารีฟิน เปิดเผยต่อว่า เป็นก้าวแรกที่เราจะสร้างวัฒนธรรมใหม่ที่อัตลักษณ์ความเป็นชาตินิยมปาตานีกับประเด็นร่วมประชาธิปไตยไทยให้อยู่ในระดับเดียวกัน จะไม่แยกส่วนในการพูดคุยถึงเรื่องของความขัดแย้ง เรื่องชาตินิยม เรื่องปาตานี และเรื่องประชาธิปไตยเหมือนที่ผ่านมา  เพราะสุดท้ายหากเราเจาะลึกลงไปมันกลับเป็นเรื่องเดียวกัน ฉะนั้นถ้าเราออกมาร่วมรณรงค์บนปรากฏการณ์ทางสังคมในการเคลื่อนไหวจะทำให้ทั้งประเทศเห็นภาพรวมว่า ประเด็นความขัดแย้งในพื้นที่นี้ คือ เรื่องเดียวกันที่มาจากระบบคิดที่มีปัญหา ซึ่งมันสร้างความเหลื่อมล้ำกับสังคมไทยทั้งหมดในประเทศ และปาตานีที่อยู่อีกซีกหนึ่งทางตอนใต้ของประเทศไทยก็ได้รับนโยบายจากระบบอำนาจนิยมรวมศูนย์ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราควรต้องเปลี่ยนให้เป็นระบบที่ยึดโยงกับประชาชน และสังคมก็ได้รับประโยชน์จากระบบนี้ทั่วประเทศ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net