สื่อมวลชนหลายสำนักรายงานว่า พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กรณีถูกสั่งสำรองราชการ โดยเห็นว่าการแต่งตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และคำสั่งสำรองราชการมิชอบด้วยกฎหมาย

ขั้นตอนหลังการร้องทุกข์ คณะอนุกรรมการข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการร้องทุกข์ที่มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เป็นประธาน จะเป็นผู้พิจารณา โดยหากผลการพิจารณาเห็นว่าคำร้องทุกข์ฟังขึ้น ก็จะมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งสำรองราชการ แต่หากพิจารณาแล้วเห็นว่าคำสั่งชอบด้วยกฎหมายแล้ว พล.ต.อ.วิระชัย ก็มีสิทธิยื่นฟ้องต่อศาลปกครองได้

สำหรับสาเหตุที่ทำให้ พล.ต.อ.วิระชัย ถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงจนถูกสำรองราชการครั้งนี้ เกิดจากกรณีที่มีการแชร์คลิปเสียงสนทนาคล้ายเสียงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.วิระชัย ซึ่งมีเนื้อหาเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับคดียิงรถของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล

คำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย​ร้ายแรง​ และให้สำรองราชการ พล.ต.อ.วิระชัย ใจความสรุปว่า ตามคำสั่ง ตร.ที่ 383/2563 ลงวันที่ 24 ก.ค.2563 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ซึ่งถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง มีพฤติการณ์และการกระทำเข้าลักษณะมีเจตนาเปิดเผยความลับของทางราชการและฝ่าฝืนระเบียบคำสั่งว่าด้วยการให้ข่าวสัมภาษณ์ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของตำรวจอย่างร้ายแรง ประกอบกับกองปราบปรามรับคำร้องทุกข์ในกรณีกล่าวโทษว่ามีการกระทำอันเป็นการทำผิดต่อรัฐ เข้าข่ายตามความผิด พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 74 และตามประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขฉบับที่ 21 เรื่องการห้ามดักฟังทางโทรศัพท์และเครื่องมือสื่อสารอื่นใดนั้นจากกรณีแพร่คลิปเสียงสนทนาคดียิงรถ​ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์​ หักพาล​

อย่างไรก็ตาม ไทยพีบีเอสรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่สามารถเสนอชื่อ พล.ต.อ.วิระชัย เป็น ผบ.ตร. คนใหม่ได้ เนื่องจากถูกคำสั่งสำรองราชการ ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และถูกดำเนินคดี โดยหากไม่นำคลิปเสียงสนทนาไปเผยแพร่ เรื่องดังกล่าวก็คงไม่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนตัวไม่อยากพูด เพราะเรื่องผ่านไปนานแล้ว

สำหรับการนัดหมายประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งต่อไป ผบ.ตร. กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ส่วนจะเสนอใครเป็น ผบ.ตร. คนใหม่นั้น ระดับรอง ผบ.ตร. ทุกคนมีสิทธิเท่ากัน และขึ้นอยู่กับดวงว่าใครดีกว่ากัน ซึ่งส่วนตัวมองว่า ผบ.ตร. คนใหม่เป็นใครก็ได้ ที่จะเป็นผู้นำองค์กรและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อประชาชน