Skip to main content
sharethis

นักเรียนนักศึกษาเข้าร่วมกิจกรรมของ #ให้มันจบที่รุ่นเรา ของ มศว คนรุ่นเปลี่ยน ต่างแสดงความเห็นว่าต้องการรัฐสวัสดิการและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสิทธิเสรีภาพของประชาชนกำลังถูกคุกคาม ทางด้านไอลอว์ล่ารายชื่อแก้รัฐธรรมนูญ 6 วัน ได้กว่า 6,000 คนแล้ว

13 ส.ค. 2563 ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 'มศว คนรุ่นเปลี่ยน' จัดชุมนุม #ให้มันจบที่รุ่นเรา ก่อนฝนจะตกลงมาอย่างหนักจนทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมต้องไปหลบกันใต้หลังคาหน้าอาคารหอประชุม โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจในเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบสังเกตการณ์อยู่โดยรอบ

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมผลัดกันขึ้นพูดปราศรัยในประเด็นต่างๆ เช่น รัฐสวัสดิการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่จะยืนยันว่ามนุษย์นั้นเกิดมาเท่าเทียมกัน จำเป็นต้องมีสิทธิและศักดิ์ศรีในการมีชีวิตอยู่ หรือแม้กระทั่งการพัฒนาเมืองที่กระจุกตัวอยู่แต่ในกรุงเทพมหานครทำให้คนต้องเข้ามาแย่งหางานกันทำแต่เงินเดือนกลับไม่สัมพันธ์กับค่าครองชีพที่สูงมาก และเมืองกลับมีแต่ปัญหาต่างๆ มากมายทั้งการคมนาคมที่ราคาแพงและไม่สะดวก

“เรายังมีรายการปลดหนี้ เรายังมีรายการที่เอาประชาชนผู้อดยากมาเล่นเกม เราไม่ใช่สัตว์ เราเป็นคน เรามีหัวใจ เรามีศักดิ์ศรี รัฐสวัสดิการจะต้องเกิดขึ้นภายในรุ่นของเราและเป็นของคนไทยทุกคนเพราะมันสำคัญมาก” ผู้ร่วมชุมนุมคนหนึ่งกล่าว

นอกจากนั้นยังมีนักเรียนคนหนึ่งจากสาธิต มศว ประสานมิตร ขึ้นกล่าวต่อผู้ชุมนุมว่าการแสดงออกทางการเมืองไม่ได้เกี่ยวกับอายุ เขายังถูกครูขัดขวางการแสดงงานศิลปะที่เกี่ยวกับการเมืองเขาเห็นว่าการข่มขู่จากทางโรงเรียนแสดงถึงการที่ไม่เห็นนักเรียนของตัวเองเป็นมนุษย์แต่มองเห็นเป็นทาส เขาจึงได้ชักชวนให้ประชาชนเรียกร้องเพื่อสิทธิเสรีภาพของตน

ธีรภัท เขตดอน นักศึกษา มศว.ผู้จัดกิจกรรมครั้งนี้กล่าวก่อนยุติกิจกรรมว่า ต้องหยุดคุกคามประชาชน ยุบสภา และสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่จะเขียนรัฐธรรมนูญจากประชาชน เพื่อ ประชาชน เราเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เราโกรธกับโครงสร้างทางการเมืองแบบนี้ กับโครงสร้างเศรษฐกิจที่ไม่ให้เราเติบโต ดังนั้น จงไปรวมกันที่ 16 ส.ค. นี้ สภาร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเกิดขึ้นจะทำให้รัฐธรรมนูญเป็นของประชาชนทุกคน

ธีรภัทกล่าวถึงเรื่องความปลอดภัยในการชุมนุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 16 นี้ว่า ก็ควรศึกษาเรื่องสิทธิของเราก่อนที่จะไปม็อบ เพราะว่าบางที่การเข้ามาของรัฐเขามีข้อกฎหมายอะไรรองรับหรือเปล่า คือเราต้องรู้สิทธิตามกฎหมายว่าเราปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนตัวได้ แค่จะออกไปม็อบเลยไม่ได้ แต่ทุกม็อบก็มีความเสี่ยงอยู่แล้วถ้าดูจากประวัติศาสตร์การเมืองที่ผ่านมา แต่เราทนโครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจแบบนี้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว ถ้าไม่เข้าไปเปลี่ยนเราจะไม่มีวันเติบโต เราจะติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางไปอีก 30-40 ปี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามธีรภัทถึงประเด็นที่ผู้ชุมนุมถูกกล่าวโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามและมีเหตุการณ์คุกคามเมื่อคืนวานหลังการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เขาตอบว่า “เป็นเรื่องที่น่ากังวลที่ประชาชนถูกคุกคามไม่ว่าประเด็นใดมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดในประเทศของเรา ประเทศของเราควรจะมีหลักนิติรัฐนิติธรรมต้องปกครองด้วยกฎหมายที่เป็นธรรม ไม่ใช่คนที่ปกครองด้วยกฎหมาย”

ในกิจกรรมครั้งนี้ไอลอว์ได้มาตั้งโต๊ะล่ารายชื่อจำนวน 50,000 คน ในแคมเปญ #ร่วมรื้อร่วมสร้างร่วมร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่มีความเป็นประชาธิปไตย แต่เมื่อฝนตกลงมาหนักทำให้ต้องเก็บเอกสารและอุปกรณ์ไปรวบรวมรายชื่อต่อที่ใต้อาคารข้างสถานที่ชุมนุม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของไอลอว์ได้แจ้งว่าตั้งแต่เริ่มการล่ารายชื่อผ่านมาได้ 6 วันแล้ว(เริ่ม 7 ส.ค.) ขณะนี้สามารถรวบรวมได้แล้วถึง 6021 คน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net